เซ็นทรัล วิลเลจ ผนึกพลัง               แบรนด์ดัง 130 ร้านค้า ชวนคนไทยช้อปในไทย ‘Super Brand Grand Sale’

เซ็นทรัล วิลเลจ ผนึกพลัง แบรนด์ดัง 130 ร้านค้า ชวนคนไทยช้อปในไทย ‘Super Brand Grand Sale’

10 มิ.ย. 2020
ชวนคนไทย ช้อปด้วยใจ ไทยช่วยกัน ในบรรยากาศแบบ outdoor เน้นย้ำมาตรการ เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ ตอบรับนโยบายภาครัฐงัดกลยุทธ์ Intensive Omnichannel ทั้ง physical & online store ชู 67 แบรนด์ที่มีเฉพาะที่เซ็นทรัล วิลเลจจับกลุ่มมิลเลนเนียล, Young Affluent, และคนชื่นชอบแบรนด์เนมทั่วประเทศ ด้วยครั้งแรกของ Online Shopping platform ของเอาท์เล็ตในประเทศไทย
กรุงเทพฯ (9 มิ.ย. 63) – เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกของไทย โดยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำการเป็นผู้บุกเบิกตลาดลักชูรี่เอาท์เล็ตของไทยที่เติมเต็มทุกมิติการช้อปปิ้งในประเทศไทยให้ครบทุกรูปแบบ ก้าวไปอีกขั้นกับครั้งแรกดีลแบรนด์เนมดีที่สุดแห่งปีด้วยแคมเปญลดราคาครั้งใหญ่ตลอด 2 เดือนเต็ม “Super Brand Grand Sale” ประหยัดสูงสุดถึง 90%พบกับ Exclusive Brands ถึง 67 แบรนด์ที่มีเฉพาะที่เซ็นทรัล วิลเลจ พร้อมสินค้า Weekly WOW Price ราคาสุดพิเศษเริ่มต้นที่ 990 บาท และสินค้าแบรนด์เนมราคาพิเศษ อาทิ ALICE+OLIVIA, CHLOÉ, COACH, ERMENEGILDO ZEGNA, ETRO, JIMMY CHOO, KATE SPADE, KENZO, MARIMEKKO, MAX & CO., MCQ, MICHAEL KORS, MOSCHINO, OUTLET BY CLUB21, POLO RALPH LAUREN, SALVATORE FERRAGAMO, VALENTINO, VIVIENNE WESTWODD, BATH & BODY WORKS, COCCINELLE, MELISSA, SUNGLASS HUT, VICTORIA’S SECRET และอีกมากมาย ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 กรกฎาคม 2563 ชวนคนไทยช้อปในประเทศฝ่าวิกฤตโควิด-19 สร้างเงินสะพัดหมุนเวียนเศรษฐกิจไทย
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูนสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากความสำเร็จของการเปิดให้บริการเซ็นทรัล วิลเลจ สะท้อนความเป็น First Mover และ National Player รายแรกที่เปิดตลาดลักชูรี่เอาท์เล็ตเป็นรายแรก ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีมาโดยตลอดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา และถึงแม้จะฝ่าวิกฤตโควิด-19 เซ็นทรัล วิลเลจก็ยังคงสามารถต่อยอดไปอีกขั้นด้วยกลยุทธ์ Intensive Omnichannel ที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วเพื่อจับกลุ่มลูกค้าชาวไทยได้อย่างตรงใจและประสบความสำเร็จ โดยมี success story ที่ทำให้เซ็นทรัล วิลเลจ ยังคงต่อยอดก้าวไปอีกขั้นและเดินหน้าเป็นเดสติเนชั่นของการช้อปปิ้งแบรนด์เนมของไทยต่อไป ได้แก่
1.สร้างความหลากหลายของแบรนด์ขวัญใจคนไทยในราคาเอาท์เล็ต

ตั้งแต่วันที่เริ่มต้นโครงการนี้ สิ่งแรกที่เราคำนึงถึงคือ การคัดสรรแบรนด์ชั้นนำที่ตรงใจลูกค้าชาวไทยเป็นขุมทรัพย์ของคนรักแบรนด์เนม ผสมผสานกับแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว โดยปัจจุบันมีแบรนด์ชั้นนำกว่า 220 แบรนด์   ทำให้ 130 ร้านค้าของเราที่เปิดให้บริการในปัจจุบันได้รับการตอบรับอย่างดี  ไม่ว่าสถานการณ์วิกฤตใดๆ จะเกิดขึ้น เพราะเรามีแบรนด์ครบทุก category ทั้งแฟชั่นไฮเอนด์ สตรีทแฟชั่น ไปจนถึงของเล่น ของแต่งบ้านครบครัน และซูเปอร์มาร์เก็ต โดยเราจับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย 70% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30%  จึงทำให้ในช่วงวิกฤต เรายังได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าคนไทยทั่วประเทศที่ยังมีกำลังซื้อและชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมในราคาลดทุกวัน

และหลังจากที่ภาครัฐปลดล็อกดาวน์ เราจึงได้จัดแคมเปญครั้งใหญ่ลดราคาให้คนไทยช้อปในประเทศในสินค้าราคาประหยัด ‘Super Brand Grand Sale’ ลดสูงสุด 90% และเพื่อช่วยร้านค้าเร่งระบายสินค้าที่อาจจะชะลอในช่วง 2 เดือน พร้อมโปรโมชั่น on-top ที่พลาดไม่ได้ กระตุ้นคนไทยให้มาช่วยกัน ช้อปเพื่อสร้างเงินสะพัดให้เศรษฐกิจหมุนเวียน โดยคาดว่าใน 2 เดือนนี้ จะสร้างเงินสะพัดได้กว่า 1,000 ล้านบาทจากทั้ง physical & online store ด้วยมาตรการ เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ ตอบรับนโยบายภาครัฐเต็มที่
โดยแคมเปญ “Super Brand Grand Sale” ประหยัดสูงสุด 35-90% พร้อมสินค้า Weekly WOW Price ราคาสุดพิเศษเริ่มต้นที่ 990 บาททุกสัปดาห์ ตลอด 2 เดือนเต็ม (มิถุนายน-กรกฏาคม) พร้อม cash voucher on-top สำหรับสมาชิกเดอะ 1 เมื่อช้อปสินค้าแบรนด์ประจำสัปดาห์ ครบ 12,000 บาท รับฟรี 500 บาท  และพิเศษสำหรับวันที่ 19-25 มิถุนายน รับฟรีเพิ่มเป็น 1,000 บาท หรือเมื่อช้อปแบรนด์อื่นๆ ครบตามเงื่อนไข รับฟรี cash voucher มูลค่า 1,000 บาท เมื่อช้อปครบ 40,000 บาท, รับฟรี 2,000 บาท เมื่อช้อปครบ 60,000 บาท, รับฟรี 5,000 บาท เมื่อช้อปครบ 150,000 บาท นอกจากนี้ยังมอบโปรโมชั่นยิ่งช้อปยิ่งลด รับส่วนลด on-top เพิ่มเติม เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไขของแต่ละร้านค้า และรับเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการสูงสุด 12%
2.ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในการสร้างประสบการณ์แบบ Online shopping platform ครั้งแรกของเอาท์เล็ตในประเทศไทย
ด้วยบริการ Chat & Shop ที่เกิดขึ้นภายใน 1 เดือนและประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายจากนักช้อปทั่วประเทศ ด้วยการโปรโมทผ่าน own media ของเซ็นทรัลพัฒนาที่มีศูนย์การค้าอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ โดยยอดขายของแบรนด์ที่ติดอันดับท็อป ได้แก่ COACH, FITFLOP, POLO RALPH LAUREN, SALVATORE FERRAGAMO, BATH & BODY WORKS, VICTORIA’S SECRET โดยทางบริษัทฯ จะต่อยอด online shopping platform นี้ เพื่อจับกลุ่มมิลเลนเนียล กลุ่ม Young Affluent และกลุ่มคนไทยทั่วประเทศซึ่งชื่นชอบการช้อปแบรนด์เนม ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของประเทศก็สั่งสินค้าส่งตรงจากเซ็นทรัล วิลเลจได้
3.Unbeatable Location ด้วยที่ตั้งที่อยู่ใกล้ตัวเมืองหรือศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และมีกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อโดยรอบ
ในช่วงโควิดที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ถึงแม้ว่าเซ็นทรัล วิลเลจ สามารถเปิดให้บริการแค่บางส่วน แต่ยังคงสามารถดึงลูกค้ามาใช้บริการได้ ผ่านบริการ Drive-thru pick-up ที่ช่วยสร้างยอดขายให้ร้านค้ากลุ่ม luxury fashion และ cosmetics ได้เป็นอย่างดี โดยกว่า 60% ของกลุ่มลูกค้าคือคนที่อยู่ในรัศมี 15 กม. และมีกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้ออาศัยอยู่ในหมู่บ้านระดับกลางและไฮเอนด์ในเขตบางนา และประเวศ เป็นจำนวนมาก รวมไปถึง การที่มี Tops Market เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนโดยรอบ
4.การเลือกพันธมิตรระดับโลกที่มีความเข้าใจในตลาดของชาวเอเชียเช่นเดียวกัน และมีแนวทางในการทำธุรกิจไปในทิศทางเดียวกัน

การผนึกพันธมิตรกับบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย หนึ่งในบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน)      บิ๊กอสังหาฯ ระดับโลก ที่มีบริษัทในเครือเป็นผู้พัฒนาเอาท์เล็ตที่มีสาขากว่า 9 แห่งทั่วญี่ปุ่น อาทิ          โกเทมบะ ริงกุ ชิซุย ช่วยต่อยอดความสำเร็จของเซ็นทรัล วิลเลจให้สู่การเป็น World-class outlet with Thai-Japanese hospitality เทียบชั้นเอาท์เล็ตระดับโลก
เซ็นทรัล วิลเลจ ถือเป็นลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกที่มอบประสบการณ์ความครบครันมาที่เดียวได้ครบทั้งครอบครัว ช้อปปิ้งในบรรยากาศเหมือนไปเที่ยวต่างประเทศ ด้วยร้านค้าแบรนด์ดัง First Time Outlet Shop เอาท์เล็ตแห่งแรกในไทยครอบคลุมทุก category ทั้งแบรนด์เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา เข็มขัด เครื่องหนัง เครื่องประดับ รวมถึงแอคเซสซอรี่อื่นๆ อุปกรณ์ไอที เครื่องใช้ในครัว อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เสื้อผ้าเด็ก ของเล่น ธนาคาร และอิ่มอร่อยกับร้านอาหารยอดนิยมและคาเฟ่ อาทิ Starbucks, Red Diamond, Sushi Hiro, Bonchon, A Pink Rabbit Cake Cafe, Fuji, แหลมเจริญ, Café Amazon, MK Restaurant, ชาตรามือ, Swensen’s, ลาวญวน, April’s Bakery, Krispy Kreme, Tops Market และศูนย์อาหาร Food Village ที่มาพร้อมกับเมนูราคาพิเศษ 25 บาททุกวันและเมนูอาหารปกติ ลดราคาพิเศษ 20% ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิ.ย. 2563 
เซ็นทรัล วิลเลจ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Bangkok Luxury Outlet’ เป็น Thailand’s First International Luxury Outlet ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย เปิดให้บริการครั้งแรก เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เพื่อมอบมาตรฐานและประสบการณ์การช้อปปิ้งเทียบชั้นเอาท์เล็ตระดับโลก ตั้งอยู่บนพื้นที่ 100 ไร่ พื้นที่โครงการ 40,000 ตร.ม. ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีแบรนด์ชั้นนำทั้งต่างประเทศและในประเทศกว่า 220 แบรนด์ใน 130 ร้านค้า ซึ่งส่วนใหญ่ถือเป็น First Time Outlet Shop ในประเทศไทย และอีกกว่า 67 แบรนด์ ได้เลือกเปิด Exclusive Outlet Store เฉพาะเซ็นทรัล วิลเลจ พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับความร่มรื่นสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมแบบไทยโมเดิร์น (Thai Modern) เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งลักชูรี่เอาท์เล็ตที่คุ้มค่าให้กับทุกคนอย่างแท้จริง
เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์-พฤหัสฯ เวลา 11.00-21.00 น. และศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น.และสามารถติดตามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ http://www.centralvillagebangkok.com
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.