บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ มีสัดส่วนพนักงานผิวสีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์
13 มิ.ย. 2020
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก อย่างเช่น Apple, Facebook, Alphabet (Google), Microsoft ได้แสดงจุดยืนมาโดยตลอดว่า บริษัทเห็นคุณค่าของความหลากหลายทางวัฒนธรรม
และต้องการเพิ่มความหลากหลายของพนักงานในที่ทำงาน
และต้องการเพิ่มความหลากหลายของพนักงานในที่ทำงาน
อย่างไรก็ตาม จากรายงานความหลากหลายของ Apple, Facebook, Google, Microsoft และ Twitter
ที่จัดทำขึ้นทุกๆปี ตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน
แสดงให้เห็นว่าบริษัทเหล่านี้ มีสัดส่วนการจ้างพนักงานที่เป็นคนผิวสี คิดเป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด
แถมตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ที่จัดทำขึ้นทุกๆปี ตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน
แสดงให้เห็นว่าบริษัทเหล่านี้ มีสัดส่วนการจ้างพนักงานที่เป็นคนผิวสี คิดเป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด
แถมตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แม้บริษัทเทคโนโลยีจะประกาศเป้าหมายเพิ่มความหลากหลายของพนักงานแก่สาธารณะ
แต่ตัวเลขรายงานความหลากหลายสื่อให้เห็นว่า ช่องว่างความเท่าเทียมทางสีผิวยังคงเป็นปัญหาใหญ่อยู่
แต่ตัวเลขรายงานความหลากหลายสื่อให้เห็นว่า ช่องว่างความเท่าเทียมทางสีผิวยังคงเป็นปัญหาใหญ่อยู่
อย่างเช่น Facebook ในปี 2014 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 3% ของพนักงานทั้งหมด
และในปี 2019 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 3.8% ของพนักงานทั้งหมด
และในปี 2019 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 3.8% ของพนักงานทั้งหมด
ในขณะที่สัดส่วนพนักงานที่เป็นผู้หญิงของ Facebook ในปี 2014 มีอยู่ 15%
และปี 2019 เพิ่มขึ้นเป็น 23%
หรือก็คือ ผู้หญิง มีโอกาสมากกว่าคนผิวสีเสียอีก..
และปี 2019 เพิ่มขึ้นเป็น 23%
หรือก็คือ ผู้หญิง มีโอกาสมากกว่าคนผิวสีเสียอีก..
Twitter ในปี 2014 มีพนักงานผิวสีคิดเป็นสัดส่วน 2% ของพนักงานทั้งหมด
ในปี 2020 สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 6%
ในปี 2020 สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 6%
Apple มีสัดส่วนพนักงานเป็นคนผิวสีมากกว่าเพื่อน
โดยในปี 2014 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 7%
ส่วนในปี 2018 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 9%
โดยในปี 2014 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 7%
ส่วนในปี 2018 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 9%
Google ในปี 2014 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 2%
และในปี 2020 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 5.8%
และในปี 2020 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 5.8%
Microsoft ในปี 2014 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 3.7%
และในปี 2019 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 4.5%
และในปี 2019 มีพนักงานผิวสีคิดเป็น 4.5%
จะเห็นว่าได้ นอกจากสัดส่วนพนักงานผิวสีในบริษัทเทคโนโลยีจะไม่ถึง 10% แล้ว
สัดส่วนนี้ยังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ในช่วงที่ผ่านมา
สัดส่วนนี้ยังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ในช่วงที่ผ่านมา
ในส่วนของ Amazon บริษัทรายงานว่ามีสัดส่วนพนักงานผิวสีค่อนข้างสูง
ในปี 2014 มีสัดส่วนคิดเป็น 11% ของพนักงานทั้งหมด
แต่พอปี 2019 สัดส่วนนี้ก็พุ่งกระโดดไปเป็น 26.5%
ในปี 2014 มีสัดส่วนคิดเป็น 11% ของพนักงานทั้งหมด
แต่พอปี 2019 สัดส่วนนี้ก็พุ่งกระโดดไปเป็น 26.5%
อย่างไรก็ตาม พนักงานผิวสีส่วนใหญ่ในนี้ จะเป็นพนักงานคลังสินค้าและพนักงานจัดส่ง ในศูนย์กระจายสินค้าของ Amazon ซึ่งเทียบกับพนักงานสายเทคโนโลยี และวิศวกรได้ยาก
ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดา CEO ของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่
ได้ปฏิญาณว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน
หลังจากเกิดเหตุการณ์ประท้วงใหญ่ในสหรัฐฯ ซึ่งมีต้นเหตุมาจากการเสียชีวิตของนาย George Floyd
ได้ปฏิญาณว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน
หลังจากเกิดเหตุการณ์ประท้วงใหญ่ในสหรัฐฯ ซึ่งมีต้นเหตุมาจากการเสียชีวิตของนาย George Floyd
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO ของ Facebook ได้โพสต์ว่า
บริษัทจะทำงานหนักขึ้น เพื่อสนับสนุนความเสมอภาค และความปลอดภัยของชุมชนคนผิวสี
และจะบริจาคเงินให้ 310 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเรื่องดังกล่าว
บริษัทจะทำงานหนักขึ้น เพื่อสนับสนุนความเสมอภาค และความปลอดภัยของชุมชนคนผิวสี
และจะบริจาคเงินให้ 310 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเรื่องดังกล่าว
แจ็ค ดอร์ซีย์ CEO ของ Twitter ให้คำมั่นว่าจะบริจาคเงิน 93 ล้านบาท
และเจฟฟ์ เบโซส์ CEO ของ Amazon จะบริจาคเงิน 310 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนความยุติธรรมทางสังคมและชุมชนคนผิวสี
และเจฟฟ์ เบโซส์ CEO ของ Amazon จะบริจาคเงิน 310 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนความยุติธรรมทางสังคมและชุมชนคนผิวสี
ทิม คุก CEO ของ Apple สัญญาว่าจะบริจาคเงินให้หลากหลายกลุ่มผ่านองค์กรไม่แสวงกำไรต่างๆ เช่น Equal Justice Initiativ
สัตยา นาเดลลา CEO ของ Microsoft ให้คำมั่นว่าจะบริจาคเงิน 46 ล้านบาท ให้กับองค์กรด้านความยุติธรรมทางสังคมหลายแห่ง