MQDC เผยเทรนด์ “วิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจติดบ้าน” ตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยในอนาคต

MQDC เผยเทรนด์ “วิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจติดบ้าน” ตอบโจทย์ที่อยู่อาศัยในอนาคต

15 ก.ค. 2020
วิกฤต คือ “โอกาส” MQDC  โชว์วิสัยทัศน์ธุรกิจอสังหาฯ ยุคหลังโควิด-19 ชี้เทรนด์ที่จะเป็น New normal ในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยคือ “วิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจติดบ้าน”
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า จากสถานการณ์การโควิด-19 ทำให้เกิดพฤติกรรมที่เป็น New normal ขึ้นมากมาย อาทิ การ Work from Home, การหันมาทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน, การหันมาปลูกต้นไม้เพื่อหากิจกรรมทำคลายเครียด
เรียกได้ว่าความต้องการที่มีต่อบ้าน จะไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย 
แต่บ้านจะต้องสามารถตอบสนองความต้องการครอบคลุมไปถึงการทำงาน และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ
เพื่อเสริมสร้างพลังงานบวกทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพอารมณ์ให้สามารถเกิดขึ้นได้เมื่ออยู่บ้าน
“สอดคล้องกับงานวิจัยของ ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา (FutureTales Lab) ที่พบว่า 
การเก็บตัวอยู่กับบ้านในช่วงการแพร่ระบาด ได้ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคต่อการลงทุนซื้อที่อยู่อาศัย ไปสู่วิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจติดบ้าน หรือ บ้านคือทุกสิ่ง Everything At Home
โดยพบว่าคนเรามีความต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น จากที่ผ่านมาทุกอย่างรวมตัวกันอยู่ในกลางเมือง 
ยึดเอาแนวเส้นการเดินทางที่ใกล้รถไฟฟ้าเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อ
แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อการทำงานในอนาคต ที่หลายบริษัทเริ่มปรับรูปแบบให้สามารถทำงานที่บ้านได้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่ทำงานทุกวัน
การเลือกที่อยู่อาศัยจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมือง หรือในคอนโดมิเนียมขนาดเล็กกลางใจเมืองเท่านั้น 
คนจะเปลี่ยนเป็นมองหาบ้านนอกเมืองที่มีพื้นที่มากขึ้น มีสวนมีพื้นที่สีเขียว มาเป็นที่อยู่อาศัยประจำแทน”
ดังนั้น ทำเลใจกลางเมืองอย่างเดียว จึงไม่ใช่เรื่องหลักในการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยอีกต่อไป 
แต่ชีวิตความเป็นอยู่สภาพแวดล้อมที่ดี กำลังเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่คนกำลังให้ความสนใจในปัจจุบันและอนาคต
ซึ่งสอดคล้องผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอย่าง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ MIT ที่บ่งชี้ว่า 
ถ้ามนุษย์เราได้อยู่กับธรรมชาติทุกวัน จะช่วยลดสภาวะความเครียด และเป็นปัจจัยส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น
MQDC จึงนำมาศึกษาต่อยอดในโครงการเมกะโปรเจคต์อย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)’ด้วยการสร้างความยั่งยืนของพื้นที่สีเขียว สร้างป่าแท้ๆ ให้เกิดขึ้นจำนวน 30 ไร่ และพื้นที่สีเขียวปกคลุมอีกมากกว่า 70% ในโครงการ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
ซึ่งโครงการ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)’ ประกอบด้วย 
คอนโดวิสซ์ดอมสำหรับคนวัยทำงาน บ้านเดี่ยวกลุ่มแบบคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ มัลเบอร์รี่ โกรฟ (Mulberry Grove) 
และคอนโด ดิ แอสเพน ทรี (The Aspen Tree) ที่รองรับตลอดชีวิตของผู้สูงวัย ซึ่งจะรวมถึงเรื่องสุขภาพและสภาวะที่อาจจะต้องการการดูแลต่อไป
ทั้งนี้ จากแนวทางการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ MQDC ที่เน้นการมีพันธมิตรระดับโลกมาร่วมพัฒนาโครงการ ทำให้อาณาจักร ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)’ มีแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญในระดับโลกมาเป็นพันธมิตร อาทิ
ซิกส์เซนส์ (Six Senses) ที่จะมีทั้งที่อยู่อาศัยและโรงแรม
F & P (Thailand) เป็นที่ปรึกษาและร่วมออกแบบโครงการ
ITEC Entertainment มาออกแบบไลฟ์สไตล์ด้านสันทนาการและประสบการณ์เพื่อผู้อยู่อาศัย
Atelier Ten มาร่วมวางแผนการป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน 
Huawei มาร่วมพัฒนา Smart city จาก Digital platform ของ Huawei
Tag:MQDC
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.