ดีโด้ น้ำผลไม้ราคาถูก รายได้ไม่ธรรมดา

ดีโด้ น้ำผลไม้ราคาถูก รายได้ไม่ธรรมดา

20 ส.ค. 2020
น้ำผลไม้ตรา “ดีโด้” ชื่อนี้ คนไทยเกือบทุกคนคงจะต้องรู้จัก
และหลายคนอาจจะติดใจรสชาติของน้ำผลไม้แบรนด์นี้ในสมัยที่ยังเป็นเด็ก
รู้ไหมว่า ดีโด้ ในวันนี้มีอายุเกือบ 30 ปี แล้ว
และรู้ไหมว่า ดีโด้ มียอดขายหลักพันล้านบาท
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 27 ปีที่แล้ว..
คุณกิตติ พงศ์ศรี ผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว
มีความคิดอยากจะขายสินค้าอย่างอื่นนอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ในตอนนั้น คุณกิตติ มองว่า
ธุรกิจน้ำผลไม้ในไทย ยังมีคนทำตลาดอยู่ไม่มาก
จึงตัดสินใจมุ่งเข้าสู่ตลาดนี้
ในปี พ.ศ. 2536 “บริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด”
บริษัทผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ ก็ถือกำเนิดขึ้น
โดยตั้งโรงงานผลิตในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
ซึ่งภายหลัง คุณจันทรา พงศ์ศรี ได้รับช่วงต่อจากบิดา
ในการเข้ามาบริหารบริษัทแทน
หลังจาก ฟู้ดสตาร์ ตั้งบริษัทไปได้ 2 ปี
ในปี พ.ศ. 2538 น้ำผลไม้ ตราดีโด้ ก็ถูกปล่อยเข้าสู่ตลาดเป็นครั้งแรก
ดีโด้ วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ตัวเองไว้เป็น
“Super-economy fruit juice”
หรือก็คือ น้ำผลไม้สำหรับผู้บริโภคระดับรากหญ้า
จุดเด่นคือ ราคาถูก เน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่รายได้น้อยและกลุ่มเด็กๆ
ดีโด้ใช้เวลาประมาณ 4 ปี ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในตลาด
ทำให้จากเดิมที่บริษัทขาดทุนในช่วง 3 ปีแรก ก็เริ่มทำกำไรได้ในปีที่ 4
และหลังจากนั้นก็เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ในช่วงแรกๆ ดีโด้ แทบไม่มีการทำการตลาด
เพราะในตอนนั้น คู่แข่งยังมีไม่มาก
แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง ดีโด้ ก็ต้องเริ่มขยับตัว
เพราะผู้ผลิตรายอื่น เข้ามาแข่งขันในตลาดนี้มากขึ้น
ทำให้ปี พ.ศ. 2549 ดีโด้ ปล่อยโฆษณาบนโทรทัศน์เป็นครั้งแรก
ผ่านรายการที่สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ เช่น ช่องการ์ตูน
และดึงดารา นักแสดงที่มีชื่อเสียง มาเป็นผู้นำเสนอสินค้าให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
จุดนี้เองที่ทำให้ ดีโด้ เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ
ทำให้ยอดขาย และบริษัทเติบโตขึ้นเรื่อยมา
ปัจจุบัน ดีโด้ ไม่ได้ขายน้ำผลไม้เพียงอย่างเดียว
สินค้าอื่น เช่น น้ำผลไม้ผสมโยเกิร์ต น้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว และเยลลีดีโด้
เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีตัวเลือกมากขึ้น
แต่ยังคงจุดเด่น คือ “ราคาถูก” ไว้เช่นเดิม
ทำให้ในปี พ.ศ. 2561 บริษัท ฟู้ดสตาร์
มีส่วนแบ่งการตลาดน้ำผลไม้สำหรับผู้บริโภคระดับรากหญ้าในไทย ประมาณ 40%
นอกจากครองตลาดในไทยได้แล้ว
ฟู้ดสตาร์ ยังส่ง ดีโด้ ไปตีตลาดเพื่อนบ้าน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554
โดยเน้นกลุ่ม CLMV คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ทำให้รายได้ของ ฟู้ดสตาร์ ทุก 100 บาท มาจาก
รายได้ในประเทศไทยประมาณ 60 บาท
รายได้จากต่างประเทศประมาณ 40 บาท
รายได้ของ บริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด
ปี 2560 รายได้ 2,908 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 2,980 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 3,512 ล้านบาท
สิ่งที่น่าสนใจของเรื่องนี้คือ
ฟู้ดสตาร์ วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ได้ชัดเจนมาตั้งแต่แรก
คือเป็นสินค้าสำหรับคนรากหญ้าและคนอายุน้อย ที่มีรายได้ไม่มาก
ซึ่งความชัดเจนในส่วนนี้เอง ที่เป็นเรื่องสำคัญ
ที่ทำให้สามารถเลือกสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
จนทำให้บริษัทที่ขายน้ำผลไม้ราคาถูก มีรายได้ในระดับที่ไม่ธรรมดา ได้เหมือนกัน..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.