
กรณีศึกษา ร้านอาหารยุคใหม่ “จองเป็นรอบ” แต่ “คิวเต็ม” ข้ามปี
29 ธ.ค. 2020
การเลือกร้านอาหารสักร้าน ที่จะเข้าไปใช้บริการนั้น ปัจจัยที่ใช้เลือกร้าน อาจเป็นจำนวนคนในร้าน
เพราะสามารถบอกได้เบื้องต้นว่า ร้านนั้นรสชาติดี และถูกปากคนจำนวนมาก
เพราะสามารถบอกได้เบื้องต้นว่า ร้านนั้นรสชาติดี และถูกปากคนจำนวนมาก
แต่จำนวนคน ไม่สามารถวัดความอร่อยได้เสมอไป เพราะปัจจุบันได้เกิดโมเดลธุรกิจร้านอาหารแบบใหม่ขึ้น โดยร้านในลักษณะนี้ จะให้บริการเป็นรอบๆ และจำกัดจำนวนคนในแต่ละรอบ
การจำกัดจำนวนลูกค้า ทำให้เกิดความยาก และท้าทายสำหรับผู้จอง
ยิ่งถ้าบวกกับรสชาติของอาหารที่อร่อยถูกปาก ยิ่งทำให้เกิดการบอกต่อในวงกว้าง จนทำให้คิวจองของร้านอาหารรูปแบบนี้ ต้องจองล่วงหน้าหลายเดือน หรือข้ามปีเลยทีเดียว..
ยิ่งถ้าบวกกับรสชาติของอาหารที่อร่อยถูกปาก ยิ่งทำให้เกิดการบอกต่อในวงกว้าง จนทำให้คิวจองของร้านอาหารรูปแบบนี้ ต้องจองล่วงหน้าหลายเดือน หรือข้ามปีเลยทีเดียว..
ในมุมเจ้าของร้านอาหาร
ข้อดี ของร้านอาหารรูปแบบนี้ คือ ร้านไม่ต้องตุนวัตถุดิบ เพราะผู้จอง จะสั่งอาหารและแจ้งจำนวนผู้มาใช้บริการไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้เชฟสามารถคำนวณปริมาณวัตถุดิบ ได้พอดีกับความต้องการ และยังคำนวณต้นทุนและยอดขายได้ล่วงหน้าอีกด้วย
ข้อดี ของร้านอาหารรูปแบบนี้ คือ ร้านไม่ต้องตุนวัตถุดิบ เพราะผู้จอง จะสั่งอาหารและแจ้งจำนวนผู้มาใช้บริการไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้เชฟสามารถคำนวณปริมาณวัตถุดิบ ได้พอดีกับความต้องการ และยังคำนวณต้นทุนและยอดขายได้ล่วงหน้าอีกด้วย
ที่สำคัญคือ เมื่อจำนวนลูกค้าน้อย เจ้าของจะดูแลและให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงด้วยตัวเอง
อีกทั้งเมนูอาหารแต่ละเมนู จะมีทั้งความประณีต พิถีพิถัน ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และเป็นเมนูที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ จากไอเดียของเชฟเอง
อีกทั้งเมนูอาหารแต่ละเมนู จะมีทั้งความประณีต พิถีพิถัน ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และเป็นเมนูที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ จากไอเดียของเชฟเอง
และหนึ่งในร้านอาหารไทยที่ใช้โมเดลนี้ คือ
ร้าน “ราก” หรือ RARK Authentic Thai Cuisine
ร้านราก เป็นร้านอาหารไทย ที่ตั้งอยู่ริม ถนนยานนาวา กรุงเทพฯ
จุดเริ่มต้นของร้าน เกิดจากคุณทรงพล บารมีอนันต์ และคุณกวี จำปานคร ทั้งคู่เป็นเชฟวัย 30 ต้นๆ ที่มีประสบการณ์จากร้านระดับ 2 ดาวมิชลินของไทย ชื่อว่าร้าน Mezzaluna
หลังจากสั่งสมประสบการณ์จากที่นี่ ก็ได้ออกไปหาประสบการณ์จากที่อื่นอีก 3 ปี จนสุดท้ายได้ตกลงกันว่าจะเปิดร้านอาหารร่วมกัน โดยใช้ชื่อร้านว่า “ราก”
เหตุผลที่ตั้งชื่อร้านว่า ราก เพราะต้องการสื่อถึง “รากฐานของอาหารไทย”
ที่สะท้อนมาจากรสชาติอาหารบ้านเกิดของเชฟทั้งสอง
คือ สูตรของคุณย่า แบบลาวไทยทรงดำ จังหวัดราชบุรี และอาหารเหนือ ทางจังหวัดเชียงราย
ที่สะท้อนมาจากรสชาติอาหารบ้านเกิดของเชฟทั้งสอง
คือ สูตรของคุณย่า แบบลาวไทยทรงดำ จังหวัดราชบุรี และอาหารเหนือ ทางจังหวัดเชียงราย
เอกลักษณ์ที่ทำให้ร้านราก แตกต่างจากร้านอาหารอื่น คือการเป็นร้านอาหาร สไตล์เชฟเทเบิล เป็นร้านเล็กๆ ที่ออกแบบเป็นครัวเปิด
ดังนั้นคนที่เข้ามาใช้บริการ จะได้เห็นบรรยากาศระหว่างที่เชฟทำอาหารอย่างใกล้ชิด
รวมถึงความเป็นกันเองของเชฟ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้อาหารมื้อนั้น อบอุ่นขึ้น เหมือนทานอาหารที่บ้าน
รวมถึงความเป็นกันเองของเชฟ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้อาหารมื้อนั้น อบอุ่นขึ้น เหมือนทานอาหารที่บ้าน
ความพิเศษของร้านอีกเรื่องคือ สามารถรองรับลูกค้าได้เพียง 10 คนต่อ 1 รอบ โดยต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น
การจองแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ วันเสาร์และอาทิตย์ เปิดให้บริการ 1 รอบ เวลา 16.00-18.00 น.
ส่วนวันธรรมดา เปิดให้บริการ 2 รอบ เวลา 18.00-20.00 น. และ 20.00-22.00 น. ซึ่งปัจจุบันคิวจองเต็มข้ามปีไปจนถึงเดือนมกราคมเรียบร้อยแล้ว..
และอีกร้านที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือ ร้าน “เรือนจรุง” หรือ Ayutthaya real chillin’ house
ร้านเรือนจรุง ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นร้านอาหารไทย ที่ตั้งอยู่ใต้ถุนเรือนไทย กลางทุ่งนา ท่ามกลางธรรมชาติที่บ่งบอกถึงความเป็นชนบทได้อย่างดี
จุดเริ่มต้นของร้านเรือนจรุง ไม่ได้เริ่มจากความตั้งใจที่จะเปิดร้านอาหาร แต่เริ่มจากการเปิดโฮมสเตย์ด้วยเงินทุนก้อนสุดท้ายของ ลุงเหมียว จรัส ภาคอัด เจ้าของร้านเรือนจรุง
หลังจากเปิดโฮมสเตย์ได้ไม่นาน เพื่อนๆ ของลุงเหมียว ได้มีโอกาสมาทานข้าวที่บ้าน แล้วทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันกันว่า ฝีมือการทำอาหารของคุณแม่ ไม่ธรรมดา
ลุงเหมียวจึงลองคุยกับคุณแม่ และตัดสินใจว่าจะเปิดร้านอาหารอย่างจริงจัง โดยไม่ได้เปิดโฮมสเตย์ต่อ
หลังจากเริ่มเปิดร้านอาหาร เสน่ห์ฝีมือการปรุงอาหารของคุณแม่ ก็ถูกใจคนที่ได้มาลองลิ้มรสอาหาร จนบอกกันปากต่อปาก ทำให้ร้านต้องขยายรอบการให้บริการจาก 1 รอบเป็น 3 รอบต่อวัน
โดยร้านเปิดให้บริการ เฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ 3 ช่วงเวลา คือ รอบที่ 1 เวลา 11:00-13.00 น. รอบที่ 2 เวลา 14:00-16.00 น. และรอบที่ 3 เวลา 17:00-19.00 น.
ซึ่งลูกค้าต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น และมีจำนวนโต๊ะรองรับเพียง 1- 26 ที่นั่ง
ซึ่งลูกค้าต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น และมีจำนวนโต๊ะรองรับเพียง 1- 26 ที่นั่ง
ความพิเศษของร้านเรือนจรุง คือรสชาติอาหารแบบไทย ที่ผสมผสานระหว่างวิธีดั้งเดิมแบบพื้นบ้าน และร่วมสมัย
อีกทั้งวิธีการคัดเลือกลูกค้า ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ตรงที่เจ้าของร้าน จะคัดเลือกและตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่าใครจะมีโอกาสเข้าไปทานอาหารที่ร้าน ผ่านจดหมายและการเข้าไปดูเฟซบุ๊ก เพื่อให้รู้จักตัวตนของลูกค้าแต่ละคนจริงๆ
จุดเด่นทั้งหมด ทำให้คิวจองของร้านเรือนจรุง เต็มไปจนถึงเดือน มิถุนายน ปี พ.ศ. 2564
โดยจะเปิดให้จองอีกครั้ง ในวันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564 สำหรับรอบถัดไป..
โดยจะเปิดให้จองอีกครั้ง ในวันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564 สำหรับรอบถัดไป..
ซึ่งร้านอาหารทั้ง 2 ร้าน เมื่อเฉลี่ยราคาต่อคนแล้ว จะตกคนละประมาณ 500-1,000 บาท ต่อ 1 มื้อ
จากกรณีศึกษาของร้านทั้ง 2 ทำให้รู้ว่า การนำความแรร์ หรือลิมิเต็ด อิดิชัน มาใช้ในธุรกิจร้านอาหาร เช่น ทำให้จองยาก มีการจำกัดรอบ จำกัดจำนวนคน เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ ที่ช่วยสร้างความพิเศษและทราฟฟิกให้ร้านอาหารได้เป็นอย่างดี
เพราะ สิ่งที่ได้มา “ยาก” ย่อมมี “คุณค่า” มากกว่า
และยิ่งกระตุ้นให้คนรู้สึกอยากได้ เพราะพื้นฐานของมนุษย์ชอบการเป็น “คนพิเศษ” นั่นเอง..
และยิ่งกระตุ้นให้คนรู้สึกอยากได้ เพราะพื้นฐานของมนุษย์ชอบการเป็น “คนพิเศษ” นั่นเอง..