เจ้าของ “Deep Nostalgia” แอปสร้างภาพเคลื่อนไหวบุคคลในอดีต ที่กำลังเป็นกระแส คือใคร ?

ในช่วงนี้ เราคงจะได้เห็นคลิปวิดีโอ ที่มีใบหน้าเคลื่อนไหว ของบุคคลที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ในอดีต อย่างเช่น อับราฮัม ลินคอล์น, อเล็กซานเดอร์มหาราช ที่กำลังขยับหู ขยับตา และยิ้มให้เรา ราวกับว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่

โดยคลิปวิดีโอสั้น ๆ เหล่านี้ กำลังเป็นกระแสให้เห็นกันอยู่บนแพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง Instagram, Twitter และ TikTok ผ่านเทคโนโลยีการดัดแปลงภาพ จากแอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อป ที่มีชื่อว่า “Deep Nostalgia”

หลักการทำงานของแอป จะเป็นการนำเทคโนโลยี AI Deep Learning ที่เกี่ยวข้องกับใบหน้า ของบริษัท D-ID เข้ามาประยุกต์ใช้

หากยกตัวอย่างการทำงานง่าย ๆ ก็คือ การทำงานร่วมกันของเซิร์ฟเวอร์ประมวลผล หลายตัวในเวลาเดียวกัน
และด้วยวิธีการประมวลผลแบบ Deep Leaning เหล่านี้
ระบบ AI จะค่อย ๆ ปรับภาพที่มีการคาดการณ์ความเคลื่อนไหว ออกมาหลายภาพ หลังจากนั้น จะนำมาเรียงต่อกัน จนเกิดเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ นั่นเอง

การเริ่มต้นใช้งาน สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่อัปโหลดภาพใบหน้าตรงของบุคคล ในรูปแบบภาพนิ่ง
หลังจากนั้น รอเป็นระยะเวลาประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้ได้คลิปวิดีโอเคลื่อนไหวสั้นๆ ประมาณ 10-14 วินาที

แต่สุดท้ายแล้ว ภาพที่ถูกอัปโหลดบนเว็บไซต์ จะถูกลบทิ้งโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันเรื่องความเป็นส่วนตัว

แน่นอนว่า เทคโนโลยีนี้ ก็ถูกสร้างออกมาสำหรับการหารายได้ อีกด้วยเช่นกัน
โดยโมเดลในการสร้างรายได้ของแอปตัวนี้ จะเป็นในรูปแบบ Freemium

กล่าวคือ ในตอนเริ่มต้น ผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนแล้ว จะสามารถเข้าไปใช้บริการ ได้ฟรีเป็นจำนวน 5 รูป
หลังจากนั้น หากผู้ใช้งานมีความต้องการสร้างการประมวลผลภาพได้อย่างไม่จำกัด และใช้เวลาประมวลผลแบบรวดเร็ว ไม่เกิน 1 นาที ก็จะต้องทำการจ่ายค่าสมัครสมาชิก เพื่ออัปเกรด

แล้วใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง การคิดค้นพัฒนาแอปนี้ ?

ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ก็คือบริษัท MyHeritage ที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 2003 ในเมืองเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล
โดยคุณ Gilad Japhet

จุดประสงค์ของการก่อตั้ง MyHeritage คือ การเป็นเว็บไซต์สำหรับการค้นหา และสืบข้อมูลประวัติบรรพบุรุษของคนในครอบครัว
และยังมีบริการตรวจ DNA เพื่อวิเคราะห์ว่า ตัวเรามีต้นกำเนิดมาจากไหน อีกด้วย

แล้ว MyHeritage รู้ได้อย่างไร ว่าเรามีต้นตระกูล หรือ ผังครอบครัวมาจากที่ไหน ?

ต้องบอกว่า MyHeritage มีวิธีในการได้ข้อมูลมา 2 วิธีด้วยกัน

วิธีแรก คือ การเข้าซื้อข้อมูลจาก บริษัทวิจัยและจัดเก็บข้อมูลบุคคล ด้วยยีน, โครโมโซม และดีเอ็นเอ ในประเทศต่าง ๆ

วิธีที่สอง คือ การบันทึกด้วยตัวผู้ใช้งานเอง
กล่าวคือ MyHeritage ได้โปรโมต ให้ผู้คนหันมาบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ของตระกูลตัวเอง เพื่อที่จะส่งต่อให้กับลูกหลานในอนาคต โดยการเข้ามาบันทึกแผนผังครอบครัวพร้อมรูปถ่ายได้เอง บนเว็บไซต์

หลังจากนั้น หากมีสมาชิกที่สมัครใช้งานใหม่เข้ามา แล้วพบว่ามีชื่อหรือ DNA ตรงกับข้อมูลที่เคยถูกบันทึก พวกเขาก็จะพบเห็นการมีตัวตนและเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชื่อผู้ที่ถูกบันทึก ในแผนผังครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการปรากฏตัวอยู่ในข่าวหนังสือพิมพ์ หรือบทความต่างๆ

โดยข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับ การมีตัวตนและแผนผังครอบครัว จะถูกปิดเป็นความลับจากบุคคลภายนอก

ซึ่งในปี 2020 MyHeritage มีผู้ใช้งานทั้งหมด 66 ล้านบัญชี
มีการบันทึกข้อมูลบุคคล มากถึง 4.4 ล้านบัญชี
และมีผังเครือญาติทั้งหมด 61 ล้านผัง

หมายเหตุ : แอปพลิเคชัน “Deep Nostalgia” สามารถใช้งานได้เฉพาะบนหน้าเดสก์ท็อป โดยต้องทำการสมัคร ผ่านทางเว็บไซต์เพียงช่องทางเดียว

อ้างอิง :
https://www.myheritage.jp/deep-nostalgia
https://en.wikipedia.org/wiki/MyHeritage...).
https://www.tomsguide.com/.../new-deepfake-ai...
https://www.d-id.com/