รวม 10 คำศัพท์ การตลาด-ธุรกิจ จากซีรีส์ “สงคราม ส่งด่วน” ที่กำลังเป็นกระแส บน Netflix

คำเตือน: บทความนี้ มีการสปอยล์เนื้อหาซีรีส์เรื่อง สงคราม ส่งด่วน

หากพูดถึงซีรีส์ไทยที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้คือ ซีรีส์เรื่อง “สงคราม ส่งด่วน (Mad Unicorn)” ที่เพิ่งออนแอร์ไปได้ไม่กี่วัน ก็ติดอันดับ 1 บน Netflix และได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย

เล่าสั้น ๆ สงคราม ส่งด่วน เป็นเรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง ซึ่งก็คือ เรื่องราวของธุรกิจขนส่ง “Flash Express” ธุรกิจสตาร์ตอัปที่เป็นยูนิคอร์นตัวแรกของเมืองไทย

ที่ก่อตั้งโดยคุณคมสันต์ แซ่ลี เด็กดอยคนหนึ่ง ที่มีความฝันอันแรงกล้าว่า อยากจะรวย จึงลงจากดอยมาทำงานและไขว่คว้าโอกาสต่าง ๆ จนกระทั่งเห็นโอกาสทางธุรกิจและจัดตั้งธุรกิจขนส่งขึ้นมาได้สำเร็จ

ซึ่งในเรื่อง ตัวละครที่แรงบันดาลใจจากคุณคมสันต์ ก็คือ ตัวเอกอย่าง “สันติ” ที่รับบทโดยคุณไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ ที่ได้ก่อตั้งบริษัทขนส่งชื่อว่า “Thunder Express” ขึ้นมา และมีคู่แข่งหลักอย่าง “Easy Express”

โดยตลอดทั้งเรื่องกว่า 7 ตอน มีการพูดถึง “คำศัพท์ทางการตลาดและธุรกิจ” ที่น่าสนใจ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้จัก หรือไม่เข้าใจ

บทความนี้ MarketThink จะอธิบายความหมายให้ฟัง

1.Unicorn

หมายถึง ธุรกิจสตาร์ตอัปที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 32,870 ล้านบาท

ซึ่งธุรกิจสตาร์ตอัปในไทยธุรกิจแรกที่เป็นยูนิคอร์นและเป็นแรงบันดาลใจในการทำซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ Flash Express นั่นเอง

2.การร่วมทุน (กิจการร่วมค้า)

หมายถึง การทำธุรกิจที่มีคู่ค้าร่วมดำเนินงานด้วยกันตั้งแต่ 2 ฝ่ายขึ้นไป เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการรับงานโปรเจกต์ใหญ่ ๆ หรือธุรกิจขนาดใหญ่มากขึ้น

ตัวอย่างในซีรีส์ก็คือ คณินกรุ๊ปและ Easy China ที่ร่วมทุนกันในลักษณะกิจการร่วมค้า หรือ Joint Venture กลายเป็น Easy Express

ซึ่งเป็นการร่วมทุนรูปแบบหนึ่งที่แชร์ทรัพยากรร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น เงินทุน ทรัพย์สิน เทคโนโลยี บุคลากร ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยถ้ามีกำไรก็จะจัดสรรปันส่วนกันตามสัดส่วนของการลงทุน

3.Market Share

หมายถึง สัดส่วนยอดขายของบริษัทเรา เทียบกับมูลค่าทั้งตลาด

โดยในเรื่อง บริษัทขนส่งเอกชนที่มี Market Share มากที่สุดคือ FINIX Express
ซึ่ง Easy Express ก็ต้องการขึ้นเป็นธุรกิจขนส่งเอกชนอันดับ 1 แทน FINIX Express เพื่อเอาใจปีเตอร์ เจ้าของ Easy China

4.Co-Founder / CEO / CFO / CTO

Co-Founder คือ ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรหรือธุรกิจ ซึ่งในบริบทของซีรีส์ก็คือ สันติ, เสี่ยวหยู และรุ่ยเจี๋ย และทั้ง 3 คน ก็มีบทบาทตำแหน่งหน้าที่ในธุรกิจแตกต่างกันไปคือ

-สันติเป็น CEO หรือ Chief Executive Officer ทำหน้าที่กำหนดและตัดสินใจทิศทางของธุรกิจ

-เสี่ยวหยูเป็น CFO หรือ Chief Financial Officer ทำหน้าที่บริหารด้านการเงิน

-รุ่ยเจี๋ยเป็น CTO หรือ Chief Technology Officer ทำหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยี

5.VC / CVC

คือ แหล่งเงินทุนให้กับสตาร์ตอัป โดยทั้ง 2 คำนี้เป็นคำพูดของเสี่ยวหยู ที่ปรากฏในช่วงที่พวกเขากำลังหานักลงทุนที่สนใจมอบเงินทุนให้กับพวกเขามารันธุรกิจต่อไปได้

ซึ่งคำว่า VC มาจากคำว่า “Venture Capital”

หมายถึง เป็นการลงทุนร่วมกันของนักลงทุนหลายราย โดยจะนำเงินจากนักลงทุนหลาย ๆ คนมารวมกัน แล้วนำไปให้สตาร์ตอัป แลกกับการได้รับหุ้นบางส่วนเป็นผลตอบแทน

ขณะที่ CVC มาจากคำว่า “Corporate Venture Capital”

เป็น VC รูปแบบหนึ่ง ที่จัดตั้งโดยบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่โดยตรง ไม่ได้มาจากเงินทุนของนักลงทุนหลาย ๆ คน

6.UI

UI มาจากคำว่า User Interface คือ การออกแบบหน้าตาหรือส่วนที่ผู้ใช้งานจะได้เห็น ได้สัมผัส เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความสวยงาม น่าใช้ น่าดึงดูด

ซึ่งคำว่า UI มักจะมาคู่กับคำว่า UX หรือ User Experience หมายถึง การออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้เป็นมิตร ใช้งานง่ายได้อย่างลื่นไหลไร้รอยต่อ

โดยทั้ง 2 คำนี้มักจะมาคู่กันและเจอในงานออกแบบซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชันอยู่บ่อย ๆ อย่างในซีรีส์เราจึงมักได้ยินคำพูดนี้จากรุ่ยเจี๋ยและทีมเทค ที่เป็นผู้ออกแบบแอปพลิเคชันของ Thunder Express

7.Cash Flow

หมายถึง กระแสเงินสด หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ เงินเข้า-ออกบริษัททั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น รายรับหรือรายจ่าย สามารถดูตัวเลขนี้ได้จากงบกระแสเงินสด

และเป็นสิ่งที่บอกถึงสภาพคล่องของธุรกิจว่า มีเงินเหลือมากน้อยเท่าไร มีมากพอสำหรับดำเนินกิจการต่อหรือไม่ ซึ่งแสดงถึงความมั่นคงแข็งแรงของกิจการ และความน่าเชื่อถือในมุมมองของนักลงทุน

โดยคำนี้จะได้ยินเสี่ยวหยูพูดบ่อย ๆ เพราะเธอเป็น CFO ที่ดูแลเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของธุรกิจนั่นเอง

8.อัตราส่วนกำไรขั้นต้น หรือ Gross Profit Margin

กำไรขั้นต้น คือ รายได้ - ต้นทุนในการขายสินค้าหรือบริการ

ยกตัวอย่างเช่น
สมมติว่า ร้านขายน้ำปั่น ขายได้ปีละ 500,000 บาท
มีต้นทุนในการขาย เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าอุปกรณ์ทั้งหมด 200,000 บาท

หมายความว่า ร้านน้ำปั่นแห่งนี้ มีกำไรขั้นต้น 300,000 บาท

ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น คือ (กำไรขั้นต้น / ยอดขาย) x 100
โดยจากตัวอย่างร้านน้ำปั่นข้างต้น จะได้ว่า อัตรากำไรขั้นต้น เท่ากับ 60%

ซึ่งกำไรขั้นต้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า ธุรกิจกำหนดราคาขายสินค้าได้สูงกว่าต้นทุนมากน้อยแค่ไหน

ถ้าธุรกิจกำหนดราคาขายได้ไม่สูง อาจมีสาเหตุมาจากความสามารถในการแข่งขันต่ำ แบรนด์ไม่น่าเชื่อถือ หรือไม่มีจุดขายที่นำมาใช้อัปราคาสินค้าได้เลย ซึ่งทำให้ธุรกิจมีทางเลือกแค่ลดราคาสินค้าเท่านั้น

9.จุดขาย หรือ Selling Point

คือ คุณค่าของธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง โดดเด่น มากกว่าธุรกิจคู่แข่งอื่น ๆ เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าจะหันมาเลือกซื้อสินค้าหรือเลือกใช้บริการของธุรกิจ

และถ้าหากจุดขายนั้นเป็นสิ่งที่แตกต่างมาก ๆ หรือยังไม่มีใครเคยทำในตลาดมาก่อน ก็จะกลายเป็นจุดขายเฉพาะ หรือ Unique Selling Point ที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจยั่งยืนและเป็นผู้นำในตลาดได้

ตัวอย่างจุดขายในซีรีส์ เช่น

Easy Express ใช้เทคโนโลยีและระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถลดต้นทุนการขนส่งจากเดิมในตลาดราคา 50 บาท กลายมาเป็น 25 บาทได้ ซึ่งเป็นจุดขายในเรื่องราคาThunder Express มีบริการไปรับพัสดุถึงหน้าบ้าน ทำให้ลูกค้าสะดวกสบายมากขึ้น มาใช้เป็นจุดขาย

10.สงครามราคา

คือ การพยายามแย่งชิงฐานลูกค้ากันไปมาระหว่างธุรกิจด้วยการลดราคาสินค้าลง เพื่อให้ลูกค้าหันมาซื้อหรือใช้บริการของตัวเอง

ซึ่งกลยุทธ์แข่งกันลดราคานี้ถือเป็น “ดาบสองคม” เพราะถึงแม้ธุรกิจจะมียอดขายเพิ่มมากขึ้นก็ตาม
แต่คุณค่าของสินค้าในสายตาของลูกค้าจะลดลงอย่างมาก

และในมุมมองของลูกค้าก็จะไม่อยากกลับไปซื้อสินค้าในราคาเท่าเดิมอีกต่อไป แต่จะรอซื้อสินค้าในช่วงลดราคามากขึ้น

นอกจากนี้ ถ้าธุรกิจไม่สามารถบริหารให้มีกระแสเงินสดเพียงพอได้ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาภายในกิจการหรือร้ายแรงสุด ธุรกิจก็อาจล้มลงได้เลย