แสนสิริ จูงมือ SCB เพิ่มสภาพคล่อง ให้ SMEs ไทย พ้นวิกฤติโควิด 19
9 มี.ค. 2021
รู้หรือไม่ว่า ธุรกิจ SMEs มีมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 7 ล้านล้านบาท
คิดเป็นกว่า 40% ของ GDP ของประเทศ
คิดเป็นกว่า 40% ของ GDP ของประเทศ
และยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการจ้างงานกว่า 80% ของการจ้างงานภาคเอกชนทั้งหมด
ดังนั้น เมื่อวิกฤติโควิด 19 ซัดโครมเข้าใส่ SMEs เข้าอย่างจัง ทำให้รายได้หดและหนี้เสียพุ่ง
แสนสิริ และ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะพี่ใหญ่ของวงการอสังหาริมทรัพย์และสถาบันการเงิน จึงลุกขึ้นมาจับมือกัน
แสนสิริ และ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะพี่ใหญ่ของวงการอสังหาริมทรัพย์และสถาบันการเงิน จึงลุกขึ้นมาจับมือกัน
เพื่อประคับประคองให้ SMEs ไทย ฟันฝ่าช่วงเวลาท้าทายนี้
ผ่านโครงการ “SANSIRI x SCB : BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน”
ผ่านโครงการ “SANSIRI x SCB : BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน”
คุณอภิชาติ จูตระกูล ประธานกรรมการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
เมื่อปีที่แล้ว แสนสิริ ได้เดินหน้าช่วยเหลือ ลูกบ้านแสนสิริที่ประกอบธุรกิจ และคู่ค้ากลุ่มผู้ประกอบการของแสนสิริไปแล้ว 900 ราย
ด้วยวงเงินอุดหนุนช่วยซื้อสินค้าและบริการ 4,000 ล้านบาท
เมื่อปีที่แล้ว แสนสิริ ได้เดินหน้าช่วยเหลือ ลูกบ้านแสนสิริที่ประกอบธุรกิจ และคู่ค้ากลุ่มผู้ประกอบการของแสนสิริไปแล้ว 900 ราย
ด้วยวงเงินอุดหนุนช่วยซื้อสินค้าและบริการ 4,000 ล้านบาท
มาถึงปีนี้ เพื่อยกระดับความช่วยเหลือให้ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น
แสนสิริ มีพาร์ตเนอร์คนสำคัญ คือ SCB
จึงตั้งเป้าขยายผลการช่วยเหลือ
เป็น 1,500 ราย พร้อมวงเงินอุดหนุนสินค้าจากแสนสิริ 6,000 ล้านบาท
จึงตั้งเป้าขยายผลการช่วยเหลือ
เป็น 1,500 ราย พร้อมวงเงินอุดหนุนสินค้าจากแสนสิริ 6,000 ล้านบาท
นำร่องใน 6 กลุ่มธุรกิจ
-กลุ่มวัสดุก่อสร้าง
-กลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน
-กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง
-กลุ่มธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน
-กลุ่มงานบริการด้านที่อยู่อาศัย
-กลุ่มธุรกิจอาหาร
-กลุ่มวัสดุก่อสร้าง
-กลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน
-กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง
-กลุ่มธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน
-กลุ่มงานบริการด้านที่อยู่อาศัย
-กลุ่มธุรกิจอาหาร
ทั้งนี้จะดำเนินการผ่าน 5 กลยุทธ์
1. สร้างรายได้ให้เพิ่ม ด้วยการเข้าซื้อสินค้าจาก SMEs
1. สร้างรายได้ให้เพิ่ม ด้วยการเข้าซื้อสินค้าจาก SMEs
2. สร้างช่องทางการเข้าถึงลูกค้า เช่น ช่องทางการโปรโมตทางสื่อออนไลน์ของแสนสิริและธนาคารไทยพาณิชย์ รวมถึงโปรโมตผ่านแสนสิริแฟมิลี่ ที่มีอยู่ในการดูแลกว่า 100,000 ครอบครัว
3. สร้างตลาดใหม่บนโลกออนไลน์ อาทิ NocNoc.com ตลาดออนไลน์วัสดุก่อสร้างและของแต่งบ้านครบวงจร, Robinhood แอปพลิเคชัน Food Delivery, WeChef แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวม Food Truck ของไทย รวมทั้งนำสินค้าไปขายใน Amazon.com
ซึ่งทั้ง 3 ข้อแรก แสนสิริได้ดำเนินการบางส่วนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
4. SCB จะนำ Tech Efficiency Program เข้ามาช่วยด้านการลดต้นทุนให้กับ SMEs อย่างมีประสิทธิภาพ
5. สร้างสภาพคล่อง ด้วยวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 1.99% เป็นระยะเวลา 3 เดือนแรก
ขณะที่คุณอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร SCB เสริมว่า นับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด 19 SCB ได้ให้ความช่วยเหลือรวมไปแล้วกว่า 402,000 ล้านบาท
โดยมองว่า ความช่วยเหลือจากธนาคารอย่างเดียว คงไม่เพียงพอที่จะช่วย SMEs ทั้งระบบ จึงผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของประเทศ เพื่อช่วยเหลือ SMEs ในวงกว้างขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่ 11 มีนาคม - 30 เมษายน 2564