Partner@Post คู่คิดธุกิจออนไลน์ ที่ "RIREW เสื้อผ้าแฟชั่น" มั่นใจ เลือกใช้

“ออนไลน์ยังไงก็ไม่ตาย” นี่คือแนวคิดการทำธุรกิจของใครหลายๆ คน ที่ค้นพบ หลังจากผ่านวิกฤติในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกธุรกิจเข้าใจว่า ช่องทางออนไลน์คือพื้นฐานสำคัญที่ทุกธุรกิจต้องมี

ซึ่งการขายของออนไลน์ ก็เป็นหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรง และเรากำลังจะยกตัวอย่าง เรื่องราวของผู้ประกอบการ ที่ประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้

นั่นก็คือเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก RIREW เสื้อผ้าแฟชั่น ที่สามารถไลฟส์สดขายของ
จนสามารถทำยอดออเดอร์สินค้าได้สูงถึง 2,000 ชิ้นต่อวัน
โดยบริษัท ริริว จำกัด

ปี 2561 ทำรายได้ 6.5 ล้านบาท
ปี 2562 ทำรายได้ 50.6 ล้านบาท

จากรายได้จะเห็นว่า ในปี 2561 - 2562 บริษัท ริริว จำกัด เติบโตขึ้นมากกว่า 670% และถึงแม้ปี 2563
จะมีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ธุรกิจก็ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด แต่กลับเติบโตสวนกระแส
และสร้างยอดขายได้มากกว่าปกติถึง 3 เท่า

ที่น่าสนใจคือเส้นทางการไลฟ์สดขายของของเธอ กว่าจะประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ เรียกได้ว่าผ่านบทพิสูจน์หลายอย่าง จนเป็นกรณีศึกษาการทำธุรกิจได้ดีเลยทีเดียว

โดยต้องย้อนกลับไป ก่อนที่จะมาเป็นธุรกิจ RIREW เสื้อผ้าแฟชั่น เกิดจากคุณริริว ระชาวีย์ พลูสวัสดิ์
ที่มีนิสัยชอบชอปปิงออนไลน์ ชอบแต่งตัว และมีความตั้งใจอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่อยากเป็นลูกน้องใครตั้งแต่เด็ก

จึงเริ่มธุรกิจแรกด้วยการไปเป็นแม่ค้าตลาดนัด แต่ก็ค้นพบว่าไม่ใช้แนวทางที่ตัวเองชอบ เลยผันตัวมาทำร้านอาหารในเวลาต่อมา ชื่อว่า วานรก๋วยเตี๋ยวลิง แต่ก็ไม่คุ้มทุน ด้วยต้นทุนต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น

จนมาถึงช่วงที่คุณพ่อป่วยเป็นโรคหัวใจ จากภาระที่เพิ่มขึ้นจึงตัดสินใจต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหาทางออก
บวกกับบังเอิญได้เห็นน้องสาวไลฟ์สดขายเสื้อผ้ามือสองในกลุ่มเฟซบุ๊ก และขายได้

จึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณริริวเข้ามาอยู่ในวงการการไลฟ์สดขายสินค้า โดยขายเสื้อผ้ามือสองกับเพื่อนหนึ่งคน ในเฟซบุ๊กของตัวเอง

ซึ่ง ณ ตอนนั้นมีเพื่อนของตัวเองเข้ามาดูไลฟ์อยู่เพียงแค่ประมาณ 20-30 คน แต่สุดท้ายก็สามารถขายเสื้อผ้า และรองเท้ามือสองได้ทั้งหมด

หลังจากนั้น คุณริริว ก็เรียนรู้ ลองผิดลองถูก พัฒนาตัวเอง อยู่ 5 ปี ต่อยอดจนกลายเป็น เพจเฟซบุ๊ก RIREW เสื้อผ้าแฟชั่น ที่มีคนติดตาม มากถึง 986,000 คน และตกผลึกได้ว่า องค์ประกอบที่ทำให้อาชีพแม่ค้าไลฟ์สดขายของออนไลน์ประสบความสำเร็จ ประกอบไปด้วย

1) การทำให้ลูกค้าจำเราได้และรักเรา

จากประสบการณ์ของคุณริริวค้นพบว่า การขายของ 80% และเอนเตอร์เทนลูกค้าไปด้วยอีก 20% ได้ผลกับลูกค้าที่ชื่นชอบการดูไลฟ์สดมากที่สุด ซึ่งหัวใจของการไลฟ์สดขายของคือ

- ตัวแม่ค้า

แม่ค้าที่ลูกค้ารัก จะต้องขายความเป็นตัวเอง ขายบุคลิก การพูด น้ำเสียง จริตท่าทาง ภาษากาย อารมณ์ หรือทุกๆ อย่างที่เกี่ยวกับแม่ค้าคนนั้นที่ทำให้คนจดจำได้

รวมถึงความรู้สึก และอินเนอร์ของตัวแม่ค้าเอง ที่จะเป็นตัววัดว่าจะสามารถดึงดูดคนดู ให้อยู่กับไลฟ์สดนั้นๆ ได้นานแค่ไหน ยิ่งถ้าแม่ค้าสามารถดึงคนดูให้อยู่ได้นาน โอกาสที่จะขายของได้ก็จะยิ่งสูงตาม

ที่สำคัญคือกว่าที่คุณริริวจะไลฟ์และมีคนดูมากขนาดนี้ ก็เกิดจากการเรียนรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมา มีการพัฒนาการพูด สังเกตตัวเอง และเรียนรู้จากแม่ค้าคนอื่น โดยยังคงความเป็นตัวเองไว้ สิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ควรพูดก็พัฒนาปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา

- การวางแผน

กลยุทธ์ของคุณริริว คือทุกครั้งก่อนการไลฟ์สด จะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าว่าวันนี้จะไลฟ์ขายของอะไร มีการศึกษาสินค้าจนมีความเข้าใจ และอินไปกับมัน และที่สำคัญคือความสม่ำเสมอในการไลฟ์ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ตรงเวลา และทำเป็นประจำ เพื่อให้ลูกค้าจำเราได้

- แนวทางในการเลือกสินค้ามาขาย

ความเชื่อมั่น ความไว้ใจที่ลูกค้ามีให้เป็นสิ่งที่ต้องใช้ระยะเวลาในการสร้าง ซึ่งตลอด 5 ปีที่ผ่านมา คุณริริวก็ยึดมั่นในการเลือกสินค้า ที่จะต้องผ่านการใช้งานจริงด้วยตัวเอง ถึงจะมั่นใจนำมาขาย และยึดมั่นที่จะเป็นร้านที่ทำให้ลูกค้าผิดหวังน้อยที่สุด

2) ทีมเวิร์ค คือหัวใจหลัก

คนหนึ่งคนไม่สามารถเก่งได้หลายอย่างพร้อมกัน นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไม การทำธุรกิจถึงต้องมีทีมงานหลายคน เพราะทุกคนช่วยเติมสิ่งที่คนอื่นไม่มีนั่นเอง

- ริริวเป็น Software คนข้างกายเป็น Hardware

อย่างในกรณีของคุณริริวเองที่เป็นคนไลฟ์สดขายของ ก็จะเก่งในการพูดดึงคน เสียงดังฟังชัด มีพลังที่ทำให้คนอยากดูไลฟ์จนจบ ส่วนสามีของคุณริวก็จะถนัด และมีความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งจะคอยอัพเดทและไม่หยุดที่จะเรียนรู้ อย่างการพัฒนาเพจไปพร้อมกับ Facebook ที่มีการปรับปรุงอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

- ทีมงานที่ส่งเสริมกัน

ทีมงานรอบข้าง เป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญ ดังนั้น ทุกคนต้องมีทัศคติที่ดี สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กัน มีเป้าหมายเดียวกัน และจิตวิญญาณของการเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกัน

ซึ่งทีมงานของ RIREW เสื้อผ้าแฟชั่น จะมีการนัดประชุมบ่อยครั้ง โดยเป็นการนำแนวคิดต่างๆ มาแลกเปลี่ยนกัน เป้าหมายเพื่อต้องการให้พนักงานทุกคนมีความฝันและมีจุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิต เมื่อทีมงานมีความสุข คนไลฟ์มีความสุข พลังงานดีๆ
มันก็จะส่งไปถึงคนดูนั่นเอง

3) การเลือกขนส่งที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจเรา

ตั้งแต่แรกที่เริ่มไลฟ์สดขายของได้หลัก 10 ชิ้น ก็เริ่มใช้บริการของไปรษณีย์ไทย เพราะด้วยความคุ้นเคยที่เห็นไปรษณีย์ไทยอยู่ใกล้บ้านมาตั้งแต่เด็กๆ และมีสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้สะดวกต่อการใช้บริการ หลังจากธุรกิจเริ่มเติบโต มียอดออเดอร์สั่งของเป็นจำนวนมาก จนเกินวันละ 1,000 ชิ้น RIREW เสื้อผ้าแฟชั่น ก็จำเป็นต้องมองหาบริการขนส่งที่ตอบโจทย์ตามยอดการส่งที่เพิ่มมากขึ้น

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจการขนส่งในปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูงมาก แต่ไปรษณีย์ไทยก็ยังถือเป็นผู้ให้บริการที่คุณริริวไว้วางใจใช้บริการต่อเนื่อง โดยหลังจากมีการเปลี่ยนที่ทำการไปรษณีย์มาหลายที่ เพื่อให้ตัวเองได้รับความสะดวก และรวดเร็ว ตอบโจทย์ได้ครบทุกอย่าง ทำให้ปัจจุบันมาใช้บริการอย่างถาวร ณ ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดสระบุรี
นั่นจึงเรียกได้ว่า ไปรษณีย์ไทยเป็นเสมือนเพื่อนคู่คิดในการทำธุรกิจของ RIREW เสื้อผ้าแฟชั่น เลยก็ว่าได้

Partner@Post บริการที่เปรียบเสมือนลูกค้า VIP

ความพิเศษของบริการ Partner@Post นี้ เป็นการให้บริการแก่ลูกค้าในลักษณะพันธมิตร มีไว้สำหรับลูกค้าที่มียอดสินค้าส่งเกิน 1,000 ชิ้นต่อเดือน ซึ่งเป็นการเข้ามาช่วยส่งเสริม อำนวยความสะดวกให้ธุรกิจการขายของออนไลน์ทุกกระบวนการเพื่อให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้น ทั้งในเรื่อง
- การเข้ามารับสินค้าถึงที่ เพื่อนำไปทำการจัดส่ง ซึ่งมีความยืดหยุ่นสอดคล้องตามปริมาณการส่งและความต้องการของลูกค้า อย่างคุณริริว ที่มียอดการส่งจำนวนมากไปรษณีย์ไทยจะจัดรอบเข้ามารับพัสดุ 3 ครั้งต่อวัน
- มีระบบหลังบ้าน ที่ช่วยในเรื่องบริการหลังการขาย เช่น ไลน์ @Thailandpost ที่ทำให้ลูกค้าสามารถเช็คสถานะการส่งได้ตลอดเวลา มีเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทยดูแลลูกค้าโดยเฉพาะ เพื่อพูดคุยและแจ้งปัญหาต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์

นอกจากนั้นคือ เอกลักษณ์ และความเป็นมิตร รวมถึงความเต็มใจที่พร้อมจะช่วยเหลือของพี่ๆ ไปรษณีย์
ที่พร้อมแก้ปัญหาของผู้ประกอบการเสมือนเป็นครอบครัวของตัวเอง เช่น การตามของที่รวดเร็ว ความมีน้ำใจ การที่บุรุษไปรษณีย์ไปส่งพัสดุถึงที่อยู่ของลูกค้าโดยไม่ต้องโทรถาม ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในทุกพื้นที่อย่างแท้จริง สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างดี

ซึ่งในกรณีของคุณริริว มีเคสที่ประทับใจไปรษณีย์ ในวันที่มียอดสั่งสินค้าจำนวนมากกว่าปกติ ก็ไม่เพียงเข้ามารับพัสดุเท่านั้น แต่ยังเข้ามาช่วยแพ็กของและตรวจนับออเดอร์ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ช่วงโควิด 19 ได้มีการกักตัวพนักงานเป็นเวลา 15 วัน
เพื่อความปลอดภัย แต่ยังมีการไลฟ์สด โดยจะจัดส่งสินค้าหลังจากครบระยะเวลากักตัว จนทำให้จำนวนยอดสั่งซื้อสูงถึง 15,000 ออเดอร์ เมื่อเทียบกับช่วงปกติแล้ว เรียกได้ว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า

ซึ่งทางไปรษณีย์ไทยก็มีการวางแผน จัดการ มีการประชุมกับส่วนกลาง จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยซัพพอร์ต และเตรียมรถขนส่งมารองรับ จนทำให้การจัดส่งในครั้งนั้นดำเนินไปได้อย่างเสร็จสิ้น สิ่งที่เราเรียนรู้จากกรณีศึกษานี้ก็คือ องค์ประกอบในการทำธุรกิจไลฟ์สดขายของออนไลน์ มีความสำคัญเท่ากันทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นตัวแม่ค้าเอง ทีมงาน ทัศนคติของคนทำงาน การวางแผนที่ดี

รวมถึงระบบขนส่งที่ต้องเลือกให้ดี เพราะการขนส่ง คือจุดสุดท้ายที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ประกอบการกับลูกค้า อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก เพราะหากได้บริการขนส่งที่ดี ก็จะช่วยเติมเต็มการทำงานทุกขั้นตอนได้อย่างสมบูรณ์

ดังนั้นเราต้องเลือกระบบขนส่งที่ไว้ใจได้ และรับผิดชอบงานของเราได้เสมือนเป็นเจ้าของธุรกิจเอง เหมือนอย่างไปรษณีย์ไทยที่ดูแลธุรกิจของผู้ประกอบการด้วยความเต็มใจ เหมือนเพื่อนแท้ที่อยู่เคียงข้างในทุกสถานการณ์

จะเห็นว่าทุกองค์ประกอบเปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ที่เมื่อรวมกันแล้วกลายเป็นสิ่งที่สมบูรณ์ และเป็นตัวส่งให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้ ถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไป ก็จะไม่ทำให้ RIREW เสื้อผ้าแฟชั่น ประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้

สรุปแล้ว บริการ Partner@post ของไปรษณีย์ เป็นบริการที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ผู้ประกอบการ ช่วยลดปัญหาจุกจิก
เหมือนได้เพื่อนคู่คิดช่วย จัดการธุรกิจให้แบบส่วนตัว

โดยเป็นอีกหนึ่งบริการที่ทางไปรษณีย์คัดสรรมา เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายในการทำธุรกิจออนไลน์ เสริมฟังก์ชันการให้บริการพิเศษไว้มากมายให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างสะดวกแบบ ครบวงจร เช่น บริการรับพัสดุถึงที่
อัตราค่าบริการพิเศษ การให้บริการคลังสินค้าครบวงจร

เพราะไปรษณีย์ไทยเข้าใจดีว่า กว่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะหารายได้มาได้นั้น ต้องผ่านขั้นตอนมากมาย ซึ่งบางขั้นตอนไม่ได้ก่อให้เกิดมูลค่า แต่ยังสร้างภาระเพิ่ม ทั้งกำลังและเวลา เช่น การเดินทางไปส่งของที่ทำการไปรษณีย์ที่ต้องฝ่ารถติด และต้องรอคิวเป็นเวลานาน หรือแม้แต่ร้านที่ขายดีมาก และเริ่มมีปริมาณออเดอร์จำนวนมาก แต่ไม่มีที่จัดเก็บสินค้า หรือขาดทีมงานช่วยเก็บ-แพ็กของ ไปรษณีย์ไทยก็ยังมีบริการ fulfillment ที่พร้อมเป็นผู้ช่วยจัดการหลังบ้านให้ธุรกิจเดินหน้าต่อแบบไม่มีสะดุด

ดังนั้นหากมีบริการที่สามารถลดขั้นตอนเหล่านี้ได้ ก็เท่ากับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ จะได้มีเวลาไปบริหารธุรกิจเพิ่มเติม และนี่คือสิ่งที่ ไปรษณีย์ไทยเล็งเห็นถึงโอกาสและประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ

สำหรับบริการ Partner@Post จึงจัดมาเพื่อตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อม และการประสานงาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้า e-Commerce ด้วยบริการพิเศษที่คิดมาเพื่อเติมเต็มธุรกิจของคุณ
ไปรษณีย์ไทยพร้อมเป็นคู่คิดธุรกิจออนไลน์ในทุกๆ การแข่งขัน..