
มิติใหม่ วงการข้าวถุงไทย “ข้าวหงษ์ทอง” กับแคมเปญ “ยิ่งหุง ยิ่งได้”
23 ก.ค. 2021
แม้แคมเปญสะสมแต้ม จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่หลายแบรนด์นิยมใช้
โดยเฉพาะ ธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือร้านสะดวกซื้อ
หลัก ๆ เพื่อหวังสร้าง Brand Loyalty เปลี่ยนลูกค้าขาจรให้เป็นขาประจำ
โดยเฉพาะ ธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือร้านสะดวกซื้อ
หลัก ๆ เพื่อหวังสร้าง Brand Loyalty เปลี่ยนลูกค้าขาจรให้เป็นขาประจำ
แต่ใครจะไปคิดว่า วันนี้แค่ซื้อข้าวสารบรรจุถุง ก็สามารถนำรหัสในถุงข้าว มาลุ้นโชคแถมแลกของรางวัลได้เหมือนกัน
แคมเปญการตลาดที่เปลี่ยนถุงข้าวธรรมดา ให้กลายเป็นถุงข้าวที่มีค่านี้เกิดขึ้นจริงแล้ว
เมื่อ “ข้าวหงษ์ทอง” แบรนด์ข้าวสารบรรจุถุงที่คนไทยคุ้นเคยมาช้านาน ลุกขึ้นมาสร้างมิติให้วงการข้าวสารบรรจุถุงของไทย
เป็นแบรนด์แรก ที่ทำระบบสะสมแต้ม หรือ Loyalty Program ให้ลูกค้านำรหัสที่อยู่ด้านในถุงข้าว มาลุ้นโชคและแลกของสมนาคุณ รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 4,000,000 บาท
เมื่อ “ข้าวหงษ์ทอง” แบรนด์ข้าวสารบรรจุถุงที่คนไทยคุ้นเคยมาช้านาน ลุกขึ้นมาสร้างมิติให้วงการข้าวสารบรรจุถุงของไทย
เป็นแบรนด์แรก ที่ทำระบบสะสมแต้ม หรือ Loyalty Program ให้ลูกค้านำรหัสที่อยู่ด้านในถุงข้าว มาลุ้นโชคและแลกของสมนาคุณ รวมมูลค่าของรางวัลกว่า 4,000,000 บาท
คำถามคือ ทำไม ข้าวหงษ์ทอง ถึงปิ๊งไอเดีย ลุกขึ้นมาทำแคมเปญสะสมแต้ม ?
แม้ข้าวหงษ์ทองจะเป็นแบรนด์ข้าวหอมมะลิคุณภาพ ที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 85 ปี
ได้รับความไว้วางใจในเรื่องความพิถีพิถันและความใส่ใจในกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้ข้าวหอมมะลิแสนอร่อย
ได้รับความไว้วางใจในเรื่องความพิถีพิถันและความใส่ใจในกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้ข้าวหอมมะลิแสนอร่อย
แต่วันนี้ ข้าวหงษ์ทองกำลังก้าวไปอีกขั้น ด้วยการส่งมอบคุณค่าที่มากกว่าการเป็นส่วนหนึ่งในมื้ออาหาร
แต่มองไปถึงการสร้างความผูกพันในระยะยาว พร้อมคืนกำไรให้ลูกค้า
จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “ยิ่งหุง ยิ่งได้” เพื่อให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก และใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้นอีกระดับ ด้วยการชวนลูกค้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวข้าวหงษ์ทอง
แต่มองไปถึงการสร้างความผูกพันในระยะยาว พร้อมคืนกำไรให้ลูกค้า
จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “ยิ่งหุง ยิ่งได้” เพื่อให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก และใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้นอีกระดับ ด้วยการชวนลูกค้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวข้าวหงษ์ทอง
ที่น่าสนใจคือ แทนที่จะใช้วิธีอัดโปรโมชัน ลดแลกแจกแถม เพื่อกระตุ้นยอดขาย
หรือให้ลูกค้าสะสมถุงข้าว เพื่อส่งมาร่วมสนุกชิงรางวัล
หรือให้ลูกค้าสะสมถุงข้าว เพื่อส่งมาร่วมสนุกชิงรางวัล
ข้าวหงษ์ทอง เลือกใช้วิธีชวนลูกค้ามาเป็นเพื่อนกันบน Line @hongthongrice
จากนั้นแค่นำรหัสที่อยู่ด้านในถุงข้าวหงษ์ทองที่ร่วมรายการ (ขนาด 5 กิโลกรัม) มากรอกเพื่อสะสมพอยต์
เพียงแค่นี้ ก็มีสิทธิ์ลุ้นรางวัล 2 ต่อ
เพียงแค่นี้ ก็มีสิทธิ์ลุ้นรางวัล 2 ต่อ
- ต่อแรก ลุ้นโชคผ่านการจับรางวัล โดยรหัสจากข้าว 1 ถุง จะได้รับ 1 สิทธิ์
- ต่อที่สอง นำพอยต์ไปสะสม เพื่อนำไปแลกของสมนาคุณ
- ต่อที่สอง นำพอยต์ไปสะสม เพื่อนำไปแลกของสมนาคุณ
โดยข้าวหงษ์ทอง 1 ถุงจะมีค่าเท่ากับ 70 หรือ 100 พอยต์ ขึ้นอยู่กับประเภทของข้าวที่นำมาสะสมพอยต์
ที่น่าสนใจคือ มูลค่าของรางวัลในแคมเปญนี้ก็ไม่น้อย เพราะมีมูลค่ารวมกว่า 4,000,000 บาทเลยทีเดียว
ที่น่าสนใจคือ มูลค่าของรางวัลในแคมเปญนี้ก็ไม่น้อย เพราะมีมูลค่ารวมกว่า 4,000,000 บาทเลยทีเดียว
แน่นอนว่า ข้อดีของการทำแคมเปญการตลาดแบบนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างสีสันให้กับแบรนด์มีความเคลื่อนไหวหรืออยู่ในกระแส
ที่สำคัญคือ ยังช่วยแบรนด์สร้างฐานแฟนลูกค้าให้มีความเหนียวแน่น ทำให้แบรนด์มีความใกล้ชิดกับลูกค้า และเป็นแบรนด์ที่ลูกค้านึกถึงอยู่เสมอ
ที่สำคัญคือ ยังช่วยแบรนด์สร้างฐานแฟนลูกค้าให้มีความเหนียวแน่น ทำให้แบรนด์มีความใกล้ชิดกับลูกค้า และเป็นแบรนด์ที่ลูกค้านึกถึงอยู่เสมอ
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการดึงดูดลูกค้าใหม่ ที่อาจจะไม่เคยเป็นลูกค้าของข้าวหงษ์ทอง
แต่พอมีแคมเปญแบบนี้ ก็ทำให้แบรนด์เป็นที่พูดถึง หรือทำให้อยากเปลี่ยนใจมาลอง
เพราะถ้ามองเรื่องความคุ้มค่าในระยะยาว ข้าวสารถือเป็นของจำเป็น ที่ต้องมีคู่ครัว
แต่พอมีแคมเปญแบบนี้ ก็ทำให้แบรนด์เป็นที่พูดถึง หรือทำให้อยากเปลี่ยนใจมาลอง
เพราะถ้ามองเรื่องความคุ้มค่าในระยะยาว ข้าวสารถือเป็นของจำเป็น ที่ต้องมีคู่ครัว
ยิ่งครอบครัวไหน เน้นทำกับข้าวกินเองที่บ้าน ข้าวจึงเป็นหนึ่งในลิสต์สินค้าจำเป็นที่ต้องซื้อเป็นประจำ
ดังนั้น ถ้าสามารถเปลี่ยนยอดซื้อมาเป็นแต้มสะสม ที่ไม่ใช่แค่ลุ้นโชค แต่แลกของสมนาคุณได้จริง
ซึ่งมีตั้งแต่น้ำมันพืช ไปจนถึงของใช้ อย่างกะละมังพับได้ กล่องใส่ข้าวสาร กล่องใส่อาหาร ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่า
ดังนั้น ถ้าสามารถเปลี่ยนยอดซื้อมาเป็นแต้มสะสม ที่ไม่ใช่แค่ลุ้นโชค แต่แลกของสมนาคุณได้จริง
ซึ่งมีตั้งแต่น้ำมันพืช ไปจนถึงของใช้ อย่างกะละมังพับได้ กล่องใส่ข้าวสาร กล่องใส่อาหาร ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่า
ที่สำคัญระบบสะสมแต้ม ยังเปิดโอกาสให้แบรนด์ได้เข้าถึงข้อมูลลูกค้ามหาศาล
เพื่อเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น และสามารถนำไปต่อยอดการทำแคมเปญการตลาด หรือทำ Personalized Marketing ได้ในอนาคต เพื่อตอบโจทย์ช่องทางการขายต่าง ๆ
เพื่อเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น และสามารถนำไปต่อยอดการทำแคมเปญการตลาด หรือทำ Personalized Marketing ได้ในอนาคต เพื่อตอบโจทย์ช่องทางการขายต่าง ๆ
โดยปัจจุบัน ข้าวหงษ์ทอง มีช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุม ทั้งในส่วนของออฟไลน์และออนไลน์
และยังเป็นข้าวแบรนด์แรกที่มีช่องทางจำหน่ายข้าวผ่านออนไลน์เป็นของตัวเองผ่าน Hongthong Online Shop และมีช่องทางการจำหน่ายผ่าน Online Marketplace เกือบครบทุกช่องทาง
และยังเป็นข้าวแบรนด์แรกที่มีช่องทางจำหน่ายข้าวผ่านออนไลน์เป็นของตัวเองผ่าน Hongthong Online Shop และมีช่องทางการจำหน่ายผ่าน Online Marketplace เกือบครบทุกช่องทาง
เรียกได้ว่า แคมเปญ “ยิ่งหุง ยิ่งได้” ของข้าวหงษ์ทองเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
แม้จะเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมานาน เป็นที่รู้จักและวางใจในคุณภาพ
แต่การที่แบรนด์ไม่หยุดนิ่ง และขยันทำการตลาดที่ไม่ได้หวังยอดขาย แต่มองไปถึงการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว คือ อีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืนให้กับแบรนด์
แม้จะเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมานาน เป็นที่รู้จักและวางใจในคุณภาพ
แต่การที่แบรนด์ไม่หยุดนิ่ง และขยันทำการตลาดที่ไม่ได้หวังยอดขาย แต่มองไปถึงการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว คือ อีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืนให้กับแบรนด์