กรณีศึกษา ฟูจิฟิล์ม กับการก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ครบวงจรชูแนวคิด Never Stop

กรณีศึกษา ฟูจิฟิล์ม กับการก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ครบวงจรชูแนวคิด Never Stop

1 พ.ย. 2021
ใครจะไปคิดว่า หนึ่งในตัวช่วยที่ทีมแพทย์ไทยต้องการเป็นอันดับต้น ๆ
ในการรับมือกับสถานการณ์โควิด 19 อย่าง เครื่องเอกซเรย์ระบบดิจิทัลเคลื่อนที่
ที่ใช้เทคโนโลยี AI ประมวลผล ทำให้แพทย์หาร่องรอยของโควิด 19
ได้แม่นยำรวดเร็วมากกว่าการตรวจแบบปกติ
จะเป็นผลงานสุดล้ำของ “ฟูจิฟิล์ม” แบรนด์ที่คนทั้งโลกรู้จักเป็นอย่างดี
ในฐานะบริษัทที่ยืนแถวหน้าของโลกด้วยธุรกิจฟิล์มและกล้องถ่ายรูปมากว่า 80 ปี
แต่รู้หรือไม่ ปัจจุบัน ฟูจิฟิล์ม ก็กำลังต้องการยืนแถวหน้าของโลก
ด้วยธุรกิจที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง อย่างกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ และการดูแลสุขภาพ (Medical System และ Healthcare)
เหตุผลที่ ฟูจิฟิล์ม กำลังจริงจังกับตลาดนี้ นอกจากจะเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์
ที่ผู้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพรวมทั้งในประเทศไทย ด้วยแล้วนั้น
ยังเป็นการสร้างความหลากหลายให้พอร์ตโฟลิโอธุรกิจของบริษัท
หลายคนอาจจะแปลกใจว่า แล้วจากธุรกิจถ่ายภาพ
ทำไม ฟูจิฟิล์ม ถึงเลือกมาโฟกัสกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์
คุณยูโตะ คุมาไก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า
เมื่อย้อนไปเมื่อปี 2004 ถือเป็นจุดพลิกผันของบริษัทก็ว่าได้
เมื่อตลาดฟิล์มถ่ายภาพเจอกับกระแสดิจิทัลดิสรัปชันเข้าอย่างจัง
โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของ สมาร์ทโฟน
ทำให้ ฟูจิฟิล์ม ซึ่งในตอนนั้นมีธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจถ่ายภาพ ได้รับผลกระทบอย่างมาก
จนต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครั้งใหญ่
แทนที่จะมองว่าเป็น วิกฤติครั้งใหญ่ของบริษัท แต่​ ฟูจิฟิล์ม
เลือกที่จะพลิกมุมคิดว่า นี่คือโอกาสที่จะได้ต่อยอดธุรกิจด้วยการกระจายความเสี่ยง
เพิ่มความหลากหลายในการหารายได้
โดยนอกจากจะนำความชำนาญด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพ
เปลี่ยนจากผู้ผลิตกล้องถ่ายรูปด้วยฟิล์ม มาผลิตกล้องดิจิทัล แล้วนั้น
ก็ยังหันมาจริงจังกับการพัฒนาธุรกิจทางด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพ
ที่น่าสนใจ ฟูจิฟิล์ม ไม่ใช่เริ่มต้นธุรกิจนี้จากศูนย์
แต่นำจุดแข็งในการทำฟิล์มเอกซเรย์ที่ใช้ในวงการแพทย์ มาผสานกับการวิจัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง จนเกิดเป็นสมการธุรกิจที่ไม่ใช่ 1+1 = 2
แต่กลายเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านดูแลสุขภาพและอุปกรณ์การแพทย์จำนวนมหาศาล
ที่ในปัจจุบันใช้แพร่หลายกันทั่วโลกรวมถึงในบ้านเรา
หลายคนอาจไม่รู้ว่าปัจจุบัน ฟูจิฟิล์ม เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีทางการแพทย์มากมาย
โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก
1. ธุรกิจอุปกรณ์การแพทย์ (Medical Equipment)
ได้แก่ เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลเคลื่อนที่ (Portable Digital X-Ray), กล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหาร Endoscopy, เครื่องอัลตราซาวนด์ Sonosite, เครื่องตรวจเต้านม Mammography ฯลฯ
2. ธุรกิจสารสนเทศ (Healthcare IT)
ได้แก่ ระบบสารสนเทศทางการแพทย์ PACS-Picture Archiving and Communication System, ระบบการส่งรับ จัดเก็บรูปภาพทางการแพทย์ (Medical Images) ในรูปแบบดิจิทัล ภายใต้ชื่อ Synapse
จนถึงการใช้ AI Technology หรือ ปัญญาประดิษฐ์ มาช่วยในการวินิจฉัย
จะเห็นว่า ฟูจิฟิล์ม พัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ กลายเป็นแต้มต่อสำคัญ
ที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
ที่มีทั้งอุปกรณ์การแพทย์ที่วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ เพิ่มโอกาสการรักษาผู้ป่วยให้ง่ายขึ้น
ก็ยังมีโซลูชันบริหารจัดการ ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ ทำงานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพขึ้น
ซึ่งเวลานี้ธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ของ ฟูจิฟิล์ม ก็กำลังได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก
โดยใช้องค์ความรู้ที่มีทั้งหมดก้าวข้ามผ่านกระแสดิจิทัลดิสรัปชันได้อย่างแข็งแกร่ง
ตรงนี้เองที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ​โกลบอลแคมเปญ “NEVER STOP”
ซึ่งเป็นการประกาศให้โลกรู้ว่า ฟูจิฟิล์ม ไม่เคยหยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ
เพื่อมาตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบัน
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ธุรกิจทางด้านการแพทย์
แล้วเส้นทางธุรกิจนี้ของ ฟูจิฟิล์ม ในประเทศไทย มีทิศทางเป็นอย่างไร ?
คุณ ฐาปกรณ์ จิตติเลิศวุฒิ Head of Business Unit, Medical Systems บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังอย่างน่าสนใจ
ปัจุบันมีหลายปัจจัยเกื้อหนุนให้ธุรกิจนี้เติบโตในเมืองไทย
เช่น การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของสังคมไทย
ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น
สิ่งที่ตามมาก็คือ ความต้องการทางการแพทย์เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งสวนทางกับบุคลากรทางการแพทย์ที่อาจยังไม่เพียงพอ
จนต้องมีการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยแบ่งเบา จนถึงการขยายตัวของเมือง
ทำให้มีการขยายสาขาของโรงพยาบาลเอกชนทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมือง
นั้นแปลว่า ความต้องการเครื่องมือแพทย์ กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด
แล้ว ฟูจิฟิล์ม จะตอบสนองเรื่องนี้อย่างไร
นอกจากจุดแข็งของการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ครบวงจร
วิธีที่ดีที่สุดคือ Glocalization ที่เป็นการนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีเทคโนโลยีระดับโลก
มาผสมผสานโซลูชั่นในระบบสารสนเทศทางการแพทย์
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดในการรักษาคนไข้
ขณะเดียวกัน สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ บริการหลังการขายที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจ
ในการลงทุนของโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งหมดถือเป็นแต้มต่อสำคัญ
ที่ทำให้ ฟูจิฟิล์ม กลายเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามอง
พอเป็นแบบนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ก็เกินคาดหมาย เมื่อในเวลานี้ โรงพยาบาลชั้นนำกว่า 100 แห่งในประเทศไทย วางใจใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์ม
โดย คุณฐาปกรณ์ บอกว่า ในอนาคต ฟูจิฟิล์ม ก็มีแผนนำเทคโนโลยี AI
ไปพัฒนากับเครื่องมือการแพทย์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จนถึงการนำเสนอเครื่องมือดูแลป้องกันและวินิจฉัยที่ครบวงจรในทุกมิติของการรักษา
แน่นอนการเป็น เบอร์หนึ่งในธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ
แต่ ฟูจิฟิล์ม ก็ยังมองว่ายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
นั้นคือการมีส่วนร่วมเพื่อช่วยเหลือให้สุขภาพคนไทยในประเทศดียิ่งขึ้น
ก็เลยเป็นที่มาให้ในช่วงการระบาดของโควิด 19 ฟูจิฟิล์ม ขอเป็นหนึ่งพลังเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่
ด้วยการสนับสนุนเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลเคลื่อนที่ FDR Nano with AI
นวัตกรรมใหม่สุดล้ำที่ช่วยทีมแพทย์ค้นหาร่องรอยของโรคโควิด 19 ในผู้ป่วยได้แม่นยำและรวดเร็ว
และชุดตรวจโควิค 19 (Antigen Test) AG Test ที่แตกต่างกับชุดตรวจทั่วไป สามารถตรวจพบเชื้อได้ในระยะแรก ในเวลาเร็วขึ้น และอ่านผลได้แม่นยำ
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นการตอกย้ำแนวคิด “NEVER STOP”
เพราะ นอกจาก ฟูจิฟิล์ม จะพัฒนาสินค้าต่าง ๆ อย่างไม่เคยหยุดยั้งแล้วนั้น
ไม่ว่าจะเป็น กล้องดิจิทัล, เครื่องมือแพทย์ และสินค้าอื่น ๆ แล้วนั้น
การไม่หยุดช่วยเหลือคนในสังคมให้มีสุขภาพดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ ฟูจิฟิล์ม ไม่ยอมหยุดยั้งอยู่กับที่ด้วยเช่นกัน..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.