Apple ทำพิษ Facebook นโยบายความเป็นส่วนตัวของ iOS จะกระทบรายได้กว่า 3 แสนล้านบาท ในปีนี้

ล่าสุดทาง Meta ได้ออกมาบอกว่า “Ask App Not To Track” นโยบายด้านความปลอดภัยของระบบ iOS กำลังจะทำให้รายได้ของบริษัทลดลงกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 330,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ Apple ออกฟีเชอร์ ATT (App Tracking Transparency) ครั้งแรกบน iOS 14.5 ที่ปล่อยออกมาในปีที่แล้ว และต่อมายังมี iOS 15 ที่ครอบคลุมผู้ใช้ iPhone รุ่นใหม่กว่า 72%

โดยระบบ ATT จะขึ้น Pop-Up ที่ถามผู้ใช้ iPhone ว่า “Ask App Not To Track” หรือต้องการปิดการติดตามของแอปนี้หรือไม่

และหากผู้ใช้ปฏิเสธการติดตาม นักพัฒนาหรือผู้ยิงโฆษณาผ่านแอปจะเข้าถึง “Identifier for Advertisers หรือ IDFA” ซึ่งเป็นรหัสอุปกรณ์ที่ใช้กำหนดเป้าหมายและวัดประสิทธิภาพของโฆษณาออนไลน์ ไม่ได้อีกต่อไป

ทางคุณ Dave Wehner CFO ของ Meta กล่าวว่า
“เราเชื่อว่าผลกระทบของ iOS โดยรวมเป็นอุปสรรคต่อธุรกิจของเราในปี 2022
มูลค่ามันอยู่ที่ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นจึงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับธุรกิจของเรา”

เห็นได้จากการศึกษาโดย AppsFlyer บริษัทวัดผลการโฆษณา ชี้ให้เห็นว่า 62% ของผู้ใช้ iPhone เลือกที่จะไม่แชร์ IDFA หรือก็คือไม่อนุญาตให้ผู้ทำโฆษณาติดตามการเคลื่อนไหวนั่นเอง

ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าจากฟีเชอร์นี้ เข้ามาลดความสามารถในการระบุกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ iPhone และผลิตภัณฑ์ของ Apple อย่างชัดเจน

และหลาย ๆ ฝ่ายก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่านโยบายความโปร่งใสนี้ จะมีผลกระทบต่อผู้ทำธุรกิจรายย่อยใน Facebook, แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ
และยังมีบริษัทด้านการโฆษณา หรือเอเจนซี ที่จะระบุกลุ่มเป้าหมายได้ยากขึ้น

ซึ่งเรื่องนี้ เคยสร้างความไม่พอใจถึงขนาดที่ Meta เคยทำแคมเปญการตลาดตีพิมพ์ลงบนสื่อพิมพ์รายใหญ่ ช่วงปลายปี 2020 เพื่อบอกว่าฟีเชอร์นี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อ “ความเป็นส่วนตัว” แต่มันคือ “ผลกำไร” ต่างหาก

แต่ถึงแม้ว่าจะมีคนที่ได้รับผลกระทบไม่พอใจมากขนาดไหน เรื่องนี้ Apple กลับได้ใจสาวกแบรนด์, ผู้ใช้งาน iPhone และคนที่ใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัว ไปเต็ม ๆ..

อ้างอิง:
-https://www.cnbc.com/2022/02/02/facebook-says-apple-ios-privacy-change-will-cost-10-billion-this-year.html