ช้างดาว จับมือ ห่านคู่ วางขายสินค้ารุ่นพิเศษ “เสื้อห่านคู่ รุ่นช้างดาว” และ “รองเท้าแตะช้างดาว รุ่นห่านคู่”

ช้างดาว จับมือ ห่านคู่ วางขายสินค้ารุ่นพิเศษ “เสื้อห่านคู่ รุ่นช้างดาว” และ “รองเท้าแตะช้างดาว รุ่นห่านคู่”

29 มี.ค. 2022
หลายคนน่าจะรู้จักช้างดาว แบรนด์รองเท้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน
และห่านคู่ แบรนด์เสื้อยืดกันดีอยู่แล้ว ในฐานะที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 69 ปี
ล่าสุด นี่จะเป็นครั้งแรกในรอบ 69 ปีที่ช้างดาว ประกาศจับมือกับ ห่านคู่
ผลิตสินค้ารุ่นพิเศษ และวางจำหน่ายร่วมกัน
โดยจะวางขายเป็นชุด ๆ ซึ่งแต่ละชุดจะประกอบด้วยสินค้า 3 อย่าง
ที่มีความพิเศษ คือ จะนำสัญลักษณ์ของแบรนด์อีกฝั่ง เข้ามาอยู่ในสินค้าของตัวเอง ได้แก่
-เสื้อห่านคู่ รุ่นช้างดาว คือ เสื้อยืดคอกลมตราห่านคู่ ที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่จะมาพร้อมกับลายพิมพิเศษ “ช้างดาว : ห่านคู่” พร้อมกับหมายเลขประจำเสื้อ ตั้งแต่ 00001 - 10000
-รองเท้าแตะช้างดาว รุ่นห่านคู่ คือ รองเท้าแตะหูคีบช้างดาวคลาสสิก มาพร้อมกับพื้นสีเขียว และหูคีบสีน้ำเงินที่มีคำว่าห่านคู่อยู่ด้วย
โดยยังคงอัตลักษณ์ของสินค้า คือ ความคลาสสิก ง่าย ๆ ทนทาน เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
-กระเป๋าย่ามช้างดาว : ห่านคู่ คือ กระเป๋าย่ามที่ได้รับการออกแบบร่วมกัน โดยใช้ผ้าจากรองเท้านันยาง และผ้าด้านในจากห่านคู่ โดยจะมีช่องพิเศษสำหรับใส่เสื้อยืดและรองเท้าแตะโดยเฉพาะด้วย
ซึ่งทั้งหมดนี้ จะเป็นสินค้ารุ่นพิเศษ ที่จะมีการวางจำหน่ายเพียงแค่ 10,000 ชุดเท่านั้น
หมายความว่า สินค้าแต่ละอย่าง ก็มีเพียงแค่ 10,000 ชิ้นเท่านั้น..
ทั้งนี้ จำหน่ายราคาชุดละ 990 บาท (ไม่มีค่าจัดส่ง)
สั่งซื้อได้ทาง www.Thailandpostmart.com
เริ่มจำหน่าย 29 มีนาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 19.53 น. เป็นต้นไป
ทาง ดร.จักรพล จันทวิมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ได้กล่าวถึงแนวคิดการร่วมมือกันในครั้งนี้ว่า เริ่มต้นจากความบังเอิญที่ทั้ง 2 แบรนด์มีอะไรเหมือน ๆ กัน
เช่น มีผู้ก่อตั้งเป็นชาวจีน และเข้ามาทำงานในเมืองไทยเหมือนกัน, ผลิตสินค้าประเภทเดียวกัน, ประสบความสำเร็จในช่วงเวลาเดียวกัน
โดยการออกแบบ จะยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของทั้ง 2 แบรนด์
แต่จะเพิ่มความแปลกใหม่ให้สินค้า ด้วยการนำลวดลายของ ช้างดาวและห่านคู่ มาอยู่ร่วมกันนั่นเอง..
การร่วมมือกันระหว่างช้างดาวและห่านคู่ ก็คือการนำกลยุทธ์ในการจับมือกัน หรือ Collaboration มาใช้
ซึ่งเป็นวิธีที่แบรนด์ต่าง ๆ นิยมใช้กัน
ข้อดีก็คือ แบรนด์ต่าง ๆ ได้โอกาสในการทดลองตลาด
โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาว เช่น ยอดขายไม่ดี
เพราะเป็นเพียงคอลเลกชันพิเศษ ที่วางขายในปริมาณจำกัดเท่านั้น
และถึงแม้ว่าจะมีการร่วมมือกันแล้ว แต่ถ้าหากไม่ประสบผลสำเร็จก็ไม่เป็นไร
เพราะอย่างน้อย ก็น่าจะสร้างกระแสหรือได้รับความสนใจจากผู้บริโภคไปแล้วนั่นเอง..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.