TikTok จับมือ Ticketmaster เปิดให้ซื้อขายบัตรคอนเสิร์ต-อิเวนต์ บนแพลตฟอร์ม

หลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า TikTok ได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า TikTok Music เพื่อที่จะทำแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงแข่งกับ Spotify และ Apple Music

ล่าสุด TikTok ก็ยังคงมุ่งพัฒนาฟีเชอร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเพลง ด้วยการจับมือกับ Ticketmaster ยักษ์ใหญ่ด้านการจัดจำหน่ายบัตรการแสดง เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อบัตรคอนเสิร์ต, งานแสดง หรืองานอิเวนต์ต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม TikTok โดยตรงได้แล้ว

หลักการง่าย ๆ ก็คือ ครีเอเตอร์ เช่น นักร้อง หรือเจ้าของอิเวนต์ จะสามารถเซิร์ชชื่องานที่ขายบัตรผ่าน Ticketmaster บน TikTok ได้
จากนั้นก็จะสามารถกดเพิ่มลิงก์ที่จัดจำหน่ายบัตรลงบนวิดีโอได้เลย
ซึ่งเมื่อผู้ใช้งานคนอื่น ๆ เห็น ก็แค่ทำการกดลิงก์ ก็จะสามารถซื้อบัตรได้ทันที

โดยครีเอเตอร์ ที่สามารถใช้งานฟีเชอร์ขายบัตรคอนเสิร์ตผ่าน TikTok ได้แล้ว เช่น Demi Lovato, OneRepublic, Usher, Backstreet Boys รวมถึงยังมีบัตรชมกีฬามวยปล้ำ WWE อีกด้วย

อย่างไรก็ดี ในช่วงเริ่มต้น มีครีเอเตอร์บางแอ็กเคานต์เท่านั้น ที่สามารถเพิ่มลิงก์จำหน่ายบัตรลงบนวิดีโอได้ แต่ TikTok ก็ตั้งเป้าว่า จะขยายไปใช้งานกับครีเอเตอร์รายอื่น ๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต

การจับมือร่วมกันในครั้งนี้ ก็เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงงานอิเวนต์ และงานแสดง ได้มากขึ้น
ในขณะเดียวกัน นักร้อง และศิลปิน ก็สามารถเข้าถึงแฟน ๆ ได้มากขึ้น โดยอาศัยระบบ AI ที่คอยแนะนำคอนเทนต์ให้ผู้ใช้งาน

สำหรับ Ticketmaster เมื่อไม่นานมานี้ ได้ประกาศเข้าซื้อหุ้น ThaiTicketMajor จาก Major Cineplex ราว 200,000 หุ้น หรือราว 20% คิดเป็นมูลค่ารวม 122.94 ล้านบาท

และ Ticketmaster ยังตั้งใจว่า จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน ThaiTicketMajor ด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อหุ้นเพิ่มจาก Tero Entertainment

ดังนั้น ก็ไม่แน่ว่าในอนาคต ถ้าหาก Ticketmaster เข้าซื้อและขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน ThaiTicketMajor
เมื่อนั้น คนไทยก็จะสามารถซื้อบัตรคอนเสิร์ต และงานอิเวนต์ต่าง ๆ ของ ThaiTicketMajor บน TikTok ได้โดยตรงเช่นกัน..

อ้างอิง:
-https://techcrunch.com/2022/08/03/ticketmaster-tiktok-partnership/
-https://www.theverge.com/2022/8/3/23290490/tiktok-ticketmaster-buy-tickets-demi-lovato-wwe-onerepublic-usher-backstreet-boys
-https://classic.set.or.th/dat/news/202207/22085750.pdf