แม็คโคร เปิดโมเดลธุรกิจชุมชน “บัดดี้มาร์ท” พร้อมพันธมิตร เริ่มต้นลงทุน 4 แสนบาท ขอสินเชื่อได้ 100%

บัดดี้มาร์ท เป็นโมเดลธุรกิจร้านค้าปลีกที่พัฒนาให้เป็นสูตรสำเร็จ ภายใต้แนวคิด “ครบ คุ้ม เพื่อนคู่ใจชุมชน” มุ่งเป็นเพื่อนแท้ของทุกคนในท้องถิ่น

ที่สำคัญยังคงเสน่ห์ของร้านโชห่วย โดยเน้นความเป็นเจ้าของเดิม
แต่เสริมความสัมพันธ์กับชุมชน และการดำเนินธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญที่แม็คโคร มีมากกว่า 33 ปี
ทำให้เจ้าของร้าน รู้ใจลูกค้าในชุมชนมากยิ่งขึ้น ด้วยฐานข้อมูล Big Data

โดยแม็คโคร ได้ร่วมกับพันธมิตรสำคัญ เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจโชห่วยไทย ผ่านโมเดล “บัดดี้มาร์ท” ทั้ง ไทยน้ำทิพย์, Unilever, Procter & Gamble, Nestlé

มานำเสนอดีลพิเศษเฉพาะสำหรับร้านบัดดี้มาร์ท แตกต่างจากร้านเครือข่ายธุรกิจอื่น ที่เน้นขายเฮ้าส์แบรนด์ของตนเอง อีกทั้งยังมีการทำโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง

รวมไปถึง ธนาคารกรุงเทพ ที่มาช่วยตอบโจทย์ด้านเงินลงทุน ด้วยเงื่อนไขสุดพิเศษ
ทำให้คู่ค้าของบัดดี้มาร์ท กู้เงินลงทุนได้สูงสุดถึง 100% และมีระยะเวลาการผ่อนชำระนานถึง 5 ปี

ไม่ว่าจะนำไปลงทุนสร้างร้านใหม่, รีโนเวตตกแต่งร้านค้า และเป็นค่าค้ำประกันตามสัญญา
แก้ปัญหาขาดสภาพคล่อง และขาดความสามารถในการขอกู้เงินเพื่อปรับปรุงร้านโชห่วย

ปัจจุบัน บัดดี้มาร์ท มีฐานข้อมูลสำคัญที่มาจากประสบการณ์ในการทำธุรกิจกับโชห่วยกว่า 5 แสนรายของแม็คโคร
ทำให้รู้ลึก รู้จริง ในสิ่งที่ร้านโชห่วยควรปรับ เพื่อสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ยังเน้นความเป็นเจ้าของที่ใช้เสน่ห์ดั้งเดิมของโชห่วย อย่างเรื่องความสัมพันธ์ในชุมชนเข้ามาต่อยอด
จึงมีโปรแกรมช่วยส่งเสริมการขายให้เจ้าของร้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำบ่อย ๆ

หรือก็คือ หน้าที่ในการบริหารจัดการร้าน เจ้าของร้านมีตัวช่วยคือ บัดดี้มาร์ท
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับชุมชน ซึ่งสำคัญมากสำหรับการทำร้านโชห่วย เจ้าของร้านจะยิ่งแข็งแรงกว่าเดิม ด้วยเครื่องมือการตลาด ที่ทางแม็คโครช่วยสนับสนุน

ที่สำคัญ เพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเก็บสต็อกสินค้าจำนวนมาก
ทางบัดดี้มาร์ท จึงออกแบบให้เจ้าของร้านสั่งสินค้าได้บ่อย ๆ และมีความถี่ในการส่งสินค้าเข้าร้านถึงอาทิตย์ละ 4 ครั้ง

นอกจากนี้เจ้าของร้านยังสามารถปรับเปลี่ยนออร์เดอร์ให้เหมาะกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้
ส่งผลให้ผู้ที่เปิดร้านกับบัดดี้มาร์ท มียอดขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 40% จากเดิม

สำหรับกลยุทธ์ของ บัดดี้มาร์ท จะมีการดึงดูดลูกค้าเข้าร้านเพิ่มขึ้น ให้สมกับที่เป็น “ร้านค้าคู่ใจชุมชน” ด้วยการเสริมบริการพิเศษอื่น ๆ เช่น ตู้เติมเงิน ตู้กาแฟอัตโนมัติ ตู้ซักผ้าอัตโนมัติ
และในอนาคตยังวางแผนเพิ่มสินค้าชุมชนภายในร้าน เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจภายในชุมชน

พร้อมตั้งเป้า เปิดบัดดี้มาร์ทให้ได้ 2,000 ร้านค้า ภายในปี 2023

สำหรับการลงทุนกับ บัดดี้มาร์ท
จะใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 4 แสนบาท (ขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน)

ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็น ค่าปรับปรุงร้าน 2 แสนบาท และค่าประกัน 2 แสนบาท

ส่วนค่าใช้จ่ายที่เหลือ บัดดี้มาร์ท จะลงทุนให้ 1.5 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน)

โดยรูปแบบของร้านมีให้เลือกตั้งแต่
-พื้นที่น้อยกว่า 50 ตร.ม.
-พื้นที่ 51 - 100 ตร.ม.
-พื้นที่มากกว่า 100 ตร.ม.

และสิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับ คือ การตกแต่งร้านให้ได้มาตรฐาน, ลงสินค้าครั้งแรกให้เต็มร้าน, อุปกรณ์พร้อมขายอย่างครบครัน, เครื่องคิดเงินอัตโนมัติ (POS) และกิจกรรมส่งเสริมการขาย

สิทธิ์พิเศษ สำหรับผู้สมัครลงทุนกับ บัดดี้มาร์ท ในวันนี้ - 31 ธ.ค. 2565
ฟรี.. ค่าปรับปรุงร้านค้ามูลค่าสูงสุด 2 แสนบาท (จำกัดสิทธิ์ 300 ร้านค้า)

- สรุป 5 จุดเด่นของธุรกิจ “บัดดี้มาร์ท”

1) โมเดลการลงทุนที่คุ้มค่า (Attractive investment)
บัดดี้มาร์ท ลงทุนน้อยแต่คุ้มค่า จากเดิมเริ่มต้น 4 แสนบาท ในช่วงนี้ที่มีโปรโมชัน ส่วนลด 2 แสนบาท จนถึงสิ้นปี 2565

และบัดดี้มาร์ทลงทุนให้คู่ค้า มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาท สำหรับเป็นค่าระบบ POS ระบบบริหารจัดการร้าน อุปกรณ์ชั้นวาง ตู้แช่ และสินค้าทั้งหมดภายในร้าน

2) ข้อเสนอด้านสินค้าที่ดีจากพันธมิตรทางธุรกิจ (Best offer)
ซัปพลายเออร์ชั้นนำให้การสนับสนุนสินค้าราคาดี คุ้มค่า มากกว่า 20,000 รายการ พร้อมโปรโมชันที่ดึงดูดลูกค้า สร้างแทรฟฟิกให้ร้านบัดดี้มาร์ทอย่างต่อเนื่อง

3) การเข้าถึงสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการด้วยเงื่อนไขที่ดีที่สุด (Best loan)
โดยร่วมกับธนาคารกรุงเทพ ปล่อยสินเชื่อโดยสามารถกู้ได้สูงสุด 100% ของมูลค่าการลงทุน มีระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดนาน 5 ปี พร้อมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับผู้ประกอบการบัดดี้มาร์ท

4) มีกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง
โดยใช้ฐานข้อมูลที่แข็งแกร่งของแม็คโคร สำหรับการวิเคราะห์เรื่องการทำตลาดกับคนในชุมชนละแวกร้านค้า การดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ รวมถึงการจัดโปรโมชัน แนะนำสินค้าขายดีในร้านโชห่วยที่จะสร้างโอกาสทำเงินได้มากขึ้น

5) การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจให้แข็งแกร่ง (Technology)
พัฒนาระบบเพื่อแก้ไขปัญหาที่เคยเกิดขึ้น ตอบโจทย์การบริหารจัดการ มีความทันสมัย สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป เข่น ระบบ POS และช่องทางการชำระเงิน E-payment ต่าง ๆ