
ไขข้อสงสัย ทำไม “Mountain Dew” น้ำดื่มขวดเขียว ถึงแพ้ในตลาดไทยถึง 2 ครั้ง
31 ต.ค. 2022
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 หรือเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก “Mountain Dew” น้ำอัดลมกลิ่นซิตรัสในขวดสีเขียวนีออนสะดุดตา ที่แม้แต่รถสิบล้อ ยังต้องเอาขวดไปห้อยหลังรถ..
โดยในตอนนั้น Mountain Dew ถือเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดพอสมควร จากกลยุทธ์ที่เน้นสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ ประกอบกับแพ็กเกจจิงที่สวยงาม จนทำให้อัตราการรับรู้ในแบรนด์ของผู้บริโภคนั้นสูงถึง 86% เลยทีเดียว
แต่พอมาวันหนึ่ง Mountain Dew กลับหายไปจากตลาดแบบเงียบ ๆ จนทำให้หลายคนสงสัยว่า ทำไมเครื่องดื่มที่ติดตลาดแล้ว ถึงล้มเลิกไปเฉย ๆ
ซึ่งตรงนี้น่าสนใจมาก เพราะก่อนหน้านี้ Mountain Dew ก็เคยมาทำตลาดในประเทศไทยไปแล้วช่วงหนึ่ง เมื่อราว 40 ปีที่แล้ว แต่ก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไปเช่นกัน..
โดยในวันนี้ MarketThink จะขออาสาพาทุกคนไปตามหาคำตอบ ว่าทำไมเครื่องดื่มที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และประสบความสำเร็จในหลายประเทศอย่าง “Mountain Dew” ถึงล้มเหลวกับตลาดในประเทศไทย ถึง 2 ครั้ง
Mountain Dew เป็นเครื่องดื่มกลิ่นซิตรัส ที่ถูกคิดค้นขึ้นในช่วงปี 2483 และเริ่มมีชื่อเสียงไปทั่วโลก หลังจากที่ PepsiCo บริษัทแม่ของเครื่องดื่มเป๊ปซี่.. ได้ซื้อลิขสิทธิ์ในการผลิตและจัดจำหน่ายของแบรนด์ไปในช่วงปี 2507
จุดนี้เองที่ทำให้ Mountain Dew มีจุดกระจายสินค้าเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ผ่านช่องทางของ PepsiCo ที่มีอยู่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
ซึ่งตอนนั้นบริษัท “เสริมสุข” ยังมีการทำสัญญาในการผลิตและกระจายสินค้ากับ PepsiCo อยู่
จึงทำให้ เสริมสุข ได้มีโอกาสผลิตและจัดจำหน่าย Mountain Dew ในประเทศไทยไปด้วย
จึงทำให้ เสริมสุข ได้มีโอกาสผลิตและจัดจำหน่าย Mountain Dew ในประเทศไทยไปด้วย
และถึงแม้ Mountain Dew จะเป็นน้ำอัดลมกลิ่นซิตรัสแบรนด์แรก ๆ ที่ออกวางจำหน่าย
แต่ในตอนนั้นตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมกลิ่นซิตรัสในประเทศไทย ก็มีผู้เล่นที่แข็งแกร่งอยู่ไม่น้อย
แต่ในตอนนั้นตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมกลิ่นซิตรัสในประเทศไทย ก็มีผู้เล่นที่แข็งแกร่งอยู่ไม่น้อย
ตั้งแต่ “คิกคาปู้” แบรนด์จากสหรัฐอเมริกา ที่มีรูปแบบการทำการตลาดคล้าย Mountain Dew ในหลายประเทศ
เช่น การใช้ลายการ์ตูนที่ดูสนุกสนานมาใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวดสีเขียว เพื่อให้แบรนด์ดูสนุกและสดใส
คล้ายกับ Mountain Dew ที่ในช่วงแรกก็มีบรรจุภัณฑ์ลายการ์ตูนเช่นเดียวกัน..
คล้ายกับ Mountain Dew ที่ในช่วงแรกก็มีบรรจุภัณฑ์ลายการ์ตูนเช่นเดียวกัน..
นอกจากนี้ยังมี “Mello Yello” ของบริษัท ไทยน้ำทิพย์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโค้กในประเทศไทย มาคอยแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดอีกด้วย
การแข่งขันดำเนินไปหลายปี จนในที่สุด.. ผู้ชนะก็คือ “คิกคาปู้” ที่มีรสชาติถูกปากคนไทยมากกว่า และทำให้ “Mountain Dew” ต้องออกจากตลาดประเทศไทยไป ในช่วงปี 2526 นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน กระแสของน้ำอัดลมกลิ่นซิตรัสในบ้านเรา ก็เริ่มเบาลงเรื่อย ๆ
จนแม้แต่คิกคาปู้เจ้าตลาดเอง ก็ต้องโบกมือลาประเทศไทยไปด้วยเช่นเดียวกัน
จนแม้แต่คิกคาปู้เจ้าตลาดเอง ก็ต้องโบกมือลาประเทศไทยไปด้วยเช่นเดียวกัน
ตัดภาพมาที่ช่วงปี 2556 หลัง PepsiCo ได้ตัดสินใจแยกทางกับเสริมสุข เพื่อมาตั้งโรงงานผลิตและจำหน่ายสินค้าด้วยตัวเอง
ตรงนี้เองที่ทำให้ Mountain Dew ได้มีโอกาสกลับเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เป็นครั้งที่ 2
เพราะ PepsiCo ก็ต้องการเพิ่ม SKU (ชนิดของสินค้า) ของตัวเอง โดยเฉพาะในหมวดน้ำอัดลมให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสชิงส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่งอย่างโค้ก
แต่กลับมาคราวนี้.. ไม่เหมือนเมื่อก่อน เพราะไม่มีแบรนด์คู่แข่งอย่าง “คิกคาปู้” อีกแล้ว
แถมการที่น้ำอัดลมกลิ่นซิตรัส หายไปจากตลาดนานขนาดนี้ มันทำให้การกลับมาของ Mountain Dew กลายเป็น “ของใหม่” ในสายตาของผู้บริโภคทันที
ซึ่งกลยุทธ์ที่ Mountain Dew ใช้ เริ่มตั้งแต่การเลือกแพ็กเกจจิงสีเขียวนีออนที่ดูฉูดฉาด มาดึงสายตาของผู้บริโภค ในจุดที่เกิดการตัดสินใจซื้ออย่าง “ชั้นวางสินค้า”
นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังได้มีการเข้าไปสร้างการรับรู้ ผ่านช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่อยู่
อย่างการไปแจกสินค้าและโปรโมตแบรนด์ในงานอิเวนต์เกี่ยวกับเกม เช่น งาน TGS (Thailand Game Show)
อย่างการไปแจกสินค้าและโปรโมตแบรนด์ในงานอิเวนต์เกี่ยวกับเกม เช่น งาน TGS (Thailand Game Show)
หรือไปร่วมมือกับเกมดังในยุคนั้นอย่าง Heroes of Newerth (HoN) เพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกันอีกด้วย..
ทั้งหมดนี้ทำให้ Mountain Dew ติดตลาดอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นาน
และกลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของน้ำอัดลมกลิ่นซิตรัสในบ้านเราเลยทีเดียว
และกลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของน้ำอัดลมกลิ่นซิตรัสในบ้านเราเลยทีเดียว
จนกระทั่ง ในช่วงปี 2560 ที่ภาครัฐได้มีการเปลี่ยนวิธีคำนวณการเก็บภาษี ตามจำนวนน้ำตาลในเครื่องดื่ม..
ซึ่งส่งผลกระทบกับตลาดเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาลอย่างมาก เพราะแบรนด์ไหนที่มีสัดส่วนเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลเยอะ ก็หมายถึงต้นทุนที่สูงขึ้นตามอัตราภาษีไปด้วย..
ดังนั้น PepsiCo จึงจำเป็นต้องปรับพอร์ตของเครื่องดื่ม ให้มีสัดส่วนเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลลดลง
และเพิ่มสัดส่วนของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพให้มากขึ้น เพื่อรักษาอัตรากำไรเอาไว้
และเพิ่มสัดส่วนของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพให้มากขึ้น เพื่อรักษาอัตรากำไรเอาไว้
เห็นได้จากการทำ Joint Venture กับ “ซันโทรี่” ผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น
ที่มีพอร์ตโฟลิโอหลากหลาย ตั้งแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำแร่ กาแฟ ชาพร้อมดื่ม น้ำอัดลม
และฟังก์ชันนัลดริงก์ เพื่อเสริมความหลากหลายให้กับตัวเอง
ที่มีพอร์ตโฟลิโอหลากหลาย ตั้งแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำแร่ กาแฟ ชาพร้อมดื่ม น้ำอัดลม
และฟังก์ชันนัลดริงก์ เพื่อเสริมความหลากหลายให้กับตัวเอง
และตอนนั้นเองที่ “Mountain Dew” จู่ ๆ ก็หายไปจากตลาดแบบดื้อ ๆ..
ซึ่งก็เดาได้ไม่ยาก เพราะว่า Mountain Dew เป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาล แถมยังดูทับไลน์กับ 7UP ของทางแบรนด์อยู่แล้ว
จึงไม่แปลกที่แบรนด์จะเลือกตัด Mountain Dew ออก แล้วนำกำลังการผลิตส่วนที่เหลือ มาผลิตเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ ที่กำลังเป็นเทรนด์และมีแนวโน้มสร้างกำไรได้มากกว่า..
และทำให้ Mountain Dew ต้องออกจากตลาดประเทศไทย ไปเป็นครั้งที่ 2 นั่นเอง..
ทั้งนี้ก็น่าคิดตามว่า.. ปัจจุบันเทรนด์การดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ก็ได้รับความนิยมขึ้นในผู้บริโภคชาวไทยมากขึ้นจริง ๆ จนน้ำอัดลมแทบทุกแบรนด์ ต้องทำสูตรน้ำตาล 0% ออกมาจำหน่าย..
ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่า ถ้า Mountain Dew ยังคงทำตลาดอยู่ในวันนี้ จะสามารถสู้พวกฟังก์ชันนัลดริงก์ ที่เกิดขึ้นมาแย่งส่วนแบ่งการตลาดน้ำดื่มได้ดีแค่ไหน ?
แต่ที่แน่ ๆ เลยคือ PepsiCo นั้นอ่านเกมขาด และสามารถลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับบริษัทได้ดี
สุดท้ายนี้ Mountain Dew ยังคงมีจำหน่ายอยู่ตามปกติในต่างประเทศ แถมยังเป็นหนึ่งในสินค้าเรือธงของ PepsiCo อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในโซนมาเลเซีย, สหรัฐอเมริกา ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
และถ้าถามว่า Mountain Dew จะกลับมาตีตลาดประเทศไทย เป็นรอบที่ 3 ไหม ?
ก็ไม่มีใครรู้..
ก็ไม่มีใครรู้..
แต่ถ้ากลับมา ก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็น Mountain Dew ในสูตรน้ำตาล 0% และขายในขวดใส เหมือนที่หลายแบรนด์เริ่มปรับให้แพ็กเกจจิงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นั่นเอง..
อ้างอิง:
-https://www.bangkokbiznews.com/blogs/columnist/117579
-https://www.bangkokbiznews.com/business/714740
-https://brandinside.asia/strategy-suntory-pepsico-beverage-thailand/
-https://www.marketingoops.com/pr-news/mountaindew/
-http://www.sermsukplc.com/uploads/ir/attach/AnnualReport25566.pdf
-http://www.sermsukplc.com/uploads/ir/attach/AnnualReport2555.pdf
-https://www.bangkokbiznews.com/blogs/columnist/117579
-https://www.bangkokbiznews.com/business/714740
-https://brandinside.asia/strategy-suntory-pepsico-beverage-thailand/
-https://www.marketingoops.com/pr-news/mountaindew/
-http://www.sermsukplc.com/uploads/ir/attach/AnnualReport25566.pdf
-http://www.sermsukplc.com/uploads/ir/attach/AnnualReport2555.pdf
Tag:Mountain Dew