สัมมากร พัฒนาโครงการบ้านหรูอย่างไร ให้ขายดี

สัมมากร พัฒนาโครงการบ้านหรูอย่างไร ให้ขายดี

25 พ.ย. 2022
ใครจะคิดว่า หลังจาก “สัมมากร” ดีเวลลอปเปอร์ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 50 ปี คิดจะขยายพอร์ตโฟลิโอ
หันมาจับตลาดบ้านหรูระดับ Luxury เป็นครั้งแรก
เพื่อจับกลุ่มผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถสะท้อนตัวตนและรสนิยม
พร้อมเติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกมิติได้อย่างเต็มที่ ก็ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ท่ามกลางภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ยังไม่ได้ฟื้นตัวกลับมาเต็มที่
ทำไมสัมมากร ถึงประสบความสำเร็จ ในการขายบ้านหรู ราคา 43-65 ล้านบาท* ?
ไปหาคำตอบพร้อมกัน..
ต้องบอกก่อนว่า ถึงจะคร่ำหวอดในวงการมายาวนาน แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่สัมมากร หันมาจับตลาดกลุ่ม Luxury
เหตุผลก็เพราะ สัมมากรต้องการขยายเซกเมนต์บ้านเดี่ยวให้มีความหลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น
พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มระดับ Luxury ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีดีมานด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีกำลังทรัพย์พร้อมจะจ่าย หากรู้สึกว่า ของสิ่งนั้นสามารถสะท้อนรสนิยม หรือช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี
อย่างไรก็ตาม ถึงจะเพิ่งแจ้งเกิดในตลาด Luxury แต่ก็ต้องบอกว่า สัมมากรไม่ใช่มือใหม่ แต่มาพร้อมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในวงการ
จึงมั่นใจและวางใจได้ว่า เมื่อลุกขึ้นมาพัฒนาโครงการระดับ Luxury ก็ต้องไม่ธรรมดา และไม่ทำให้ลูกค้าผิดหวังอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะ จุดแข็งในด้านการเลือกทำเลของสัมมากร
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า ทุกโครงการของสัมมากร อาจจะไม่ได้อยู่ในย่านใจกลางเมือง แต่ก็จะเลือกปักหมุดในทำเลที่ดีที่สุดของการอยู่อาศัย สามารถเดินทางได้สะดวกในหลากหลายเส้นทาง
ที่ขาดไม่ได้ คือ คอนเซปต์ในการพัฒนาโครงการให้ออกมาตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้อย่างแตกต่าง
เน้นสร้างสังคมที่น่าอยู่และปลอดภัย
รวมถึงให้ความสำคัญกับกระบวนการออกแบบให้มีดีเทลที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความเป็น Young Millionaire มองหาความหรูหรา ที่เป็น New Luxury เน้นดิไซน์ที่สะท้อนตัวตนได้มากที่สุด
เพื่อให้สอดรับกับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในแต่ละเซกเมนต์ และแต่ละกลุ่ม
ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวใหญ่ ครอบครัวเล็ก หรือครอบครัวที่มีหลายเจเนอเรชันอยู่ร่วมกัน
สำหรับ โครงการ Providence Lane ต้องบอกว่า สัมมากรจัดเต็ม..
สามารถหลอมรวมจุดแข็งของตัวเอง สะท้อนผ่านรายละเอียดของโครงการ อย่าง Bauhaus Style ซึ่งเป็น การผสานศิลป์ของความประณีตและศาสตร์ของศิลปะไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
โดยคงจุดเด่นในเรื่องของความเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย
ขณะเดียวกันยังคงไว้ซึ่งสุนทรียะตามแบบฉบับของ “Bauhaus”
ซึ่ง Providence Lane ก็ถือเป็นอีกโครงการที่ได้แรงบันดาลใจ โดยนำหลักปรัชญาความงามของ Bauhaus ที่นับว่าเป็นมรดกทางงานศิลปะมาปรับใช้ได้อย่างไร้ที่ติ
เริ่มต้นจาก ทำเลที่ตั้ง ซึ่งปักหมุดอยู่บนไพรม์โลเคชัน โซนเอกมัย-รามอินทรา
ศูนย์กลางแห่งการใช้ชีวิตครบทุกด้าน ใกล้ห้างสรรพสินค้า
ไม่ว่าจะเป็น Central Festival East Ville, Crystal Park, The Walk เกษตร-นวมินทร์, Chic Republic
นอกจากนี้ ยังใกล้โรงพยาบาล สถานศึกษา และทางพิเศษฉลองรัช
ในส่วนของการออกแบบโครงการก็น่าสนใจ เพราะได้ 3 บริษัทออกแบบระดับชาติชื่อดัง ที่มีผลงานอันโดดเด่นมาจากโครงการที่พักอาศัยหลายโครงการ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มาร่วมออกแบบ
ไม่ว่าจะเป็น PODesign ช่วยออกแบบสถาปัตยกรรม TADAH Collaboration ช่วยออกแบบภายใน และ Sanitas Studio ช่วยออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม โครงการ Providence Lane ถึงชวนให้น่าค้นหาตั้งแต่แรกเห็น
โดยบ้านแต่ละหลัง ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Defining Me ที่ “น้อยแต่มีพลัง”
ภายนอกบ้านอาจจะดูเรียบ ๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ฟังก์ชันภายในบ้าน กลับซ่อนลูกเล่นที่น่าสนใจไว้มากมาย
เพราะหัวใจหลักของบ้านแต่ละหลัง คือ การผสานธรรมชาติและความเป็นส่วนตัวให้เป็นเรื่องเดียวกันในทุกส่วน
พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด ออกแบบมาให้เอื้อสําหรับการพักผ่อน และรองรับกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย
มีการออกแบบวางผังในลักษณะตัว U โอบล้อมด้วย Courtyard
ภายในบ้าน ตรงโซนห้องรับแขกเป็น Double Volume สูงถึง 6.5 เมตร ที่เชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหาร และสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน เปิดรับทุกมุมมอง เพื่อการพักผ่อนภายในบ้าน
แต่ยังคงเชื่อมโยง และไม่รู้สึกถึงการถูกปิดกั้นเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้าน เอื้อให้ผู้ใช้งานใกล้ชิดธรรมชาติจากภายในบ้านให้มากที่สุด
ภายในมีระบบ Energy Recovery Ventilator (ERV) ซึ่งเป็นระบบการแลกเปลี่ยนพลังงาน ช่วยสร้างคุณภาพอากาศที่ดีภายในอาคารและประหยัดพลังงาน
พร้อมกันนี้ทางโครงการยังเดินสายไฟแยกเฟสไว้สำหรับ EV Charger เพื่อรองรับการชาร์จไฟ ตอบโจทย์รถพลังงานไฟฟ้า
นอกจากพื้นที่พักอาศัยที่โดดเด่น ภายนอกผนังตกแต่งด้วย Travertine กระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อน
ที่มีดิไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากอาร์ติแฟคท์ ดีไซน์ ลวดลาย สีสัน และผิวหน้า เสมือนหินอ่อน เพิ่มความหรูหราให้กับการตกแต่งได้เป็นอย่างดี
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการหรือ Clubhouse
ยังมีแนวคิดในการออกแบบเป็นเหมือน Sculpture ที่ตั้งอยู่ใน Secret Garden
ชั้นล่างของ Clubhouse เป็นส่วนของ Lobby Area และชั้นสองเป็นส่วนของ Gym ที่สามารถพักสายตาได้ เพราะมองออกไป จะเห็นสวนสีเขียวของโครงการ
ถือเป็นอีกหนึ่งมุมพักผ่อน สำหรับนั่งคุยงาน หาไอเดีย หรือแวะมาเปลี่ยนบรรยากาศในการออกกำลังกาย
เรียกได้ว่า โครงการ Providence Lane เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ออกแบบมา เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ใส่ใจ และให้ความสำคัญกับความเป็นตัวเอง สนุกสนานกับทุกสิ่งที่ทำ
ที่สำคัญ ลงตัวสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นคนโสดหรือกำลังเริ่มสร้างครอบครัว
ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนบ้านในโครงการที่มีเพียง 12 หลังเท่านั้น
ลงทะเบียนรับสิทธิ์ : http://bit.ly/3GOW9Cb
มาถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่า ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด
เพื่อให้ “บ้าน” เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่สามารถสะท้อนถึงตัวตน และรสนิยมของกลุ่มเป้าหมายอย่างมีระดับ
ทำให้โครงการ Providence Lane ไม่เพียงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามอง แต่ยังเป็นโครงการที่หลายคนเห็นแล้วอยากเก็บกระเป๋า แล้วย้ายเข้ามาอยู่
พิสูจน์ได้จาก ผลตอบรับโครงการ Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา ที่เปิดตัวไปในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2564 ก็ขายไปแล้วกว่า 80%
จากความสำเร็จของโครงการแรกดังกล่าว ทำให้สัมมากร มั่นใจและพร้อมเปิดตัวโครงการใหม่
ภายใต้แบรนด์ Park Heritage วิลลาหรู 3 ชั้น สไตล์ Modern Classic จำนวน 32 หลัง ราคาเริ่มต้น ​​49-95 ล้านบาท*
มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัว มีการจัดผังโครงการเป็น Cluster Zone ที่ไม่สามารถทะลุผ่านกันได้ และออกแบบให้บ้านที่ติดกับถนนหลักนั้นมีการหันหลังบ้านติดกับถนน
โดยมีการออกแบบเป็น Double Front เพื่อให้หลังบ้านที่ติดกับถนนหลักมีความกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งกับอุโมงค์ต้นไม้ที่ทอดยาวตลอดถนนโครงการ
เอาเป็นว่า ใครที่กำลังมองหา “บ้าน” ที่มากกว่าบ้าน แต่เป็น “บ้าน” ที่เป็นเหมือน Safe Zone ให้หลับสบาย ไร้กังวล
อย่าพลาดโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของโครงการคุณภาพจากสัมมากร..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.