ทั้งปี 2022 BYD แซง Tesla ขึ้นแท่นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ด้วยยอดขาย 1.8 ล้านคัน

ทั้งปี 2022 BYD แซง Tesla ขึ้นแท่นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ด้วยยอดขาย 1.8 ล้านคัน

4 ม.ค. 2023
ดูเหมือนว่าปี 2022 ที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน จะสามารถทำผลงานได้ดี
โดยเฉพาะ BYD ที่ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ในวงการรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยยอดขายที่สามารถเอาชนะ Tesla ไปได้
BYD รายงานว่า ในปี 2022 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถส่งมอบรถยนต์ EV ทุกประเภท ไปได้ทั้งสิ้น 1.86 ล้านคัน
โดยแบ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ราว 9.11 แสนคัน คิดเป็นสัดส่วน 49%
และรถยนต์ไฟฟ้า Plug-in Hybrid อีกราว 9.46 แสนคัน คิดเป็นสัดส่วน 51%
สิ่งที่น่าสนใจคือ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD เติบโตขึ้นกว่า 213% เมื่อเทียบกับปี 2021 ซึ่งมีปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโต คือ ความต้องการของลูกค้าในประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าราคาย่อมเยา จากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ การจ้างงาน และโรคระบาด ที่ส่งผลต่อกำลังซื้อที่ลดลง ทำให้ชาวจีนจำนวนมาก มองหารถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ผลิตในประเทศ ที่มีราคาถูกกว่า ทดแทนรถยนต์ไฟฟ้าจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ โครงสร้างราคาของรถยนต์ไฟฟ้า BYD ในประเทศจีน ยังสร้างความได้เปรียบ ทำให้ BYD สามารถเจาะตลาดลูกค้าชนชั้นกลาง และมนุษย์เงินเดือนได้ดี
รถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ในประเทศจีน มีราคาอยู่ที่ราว 100,000 - 200,000 หยวน (ราว 4.97 - 9.94 แสนบาท)
ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Nio, Xpeng และ Tesla มีราคาอยู่ที่ราว 300,000 หยวน (ราว 1.49 ล้านบาท)
รวมถึงชาวจีน ยังมีค่านิยมที่มองว่ารถยนต์ไฟฟ้าของ BYD มีคุณภาพดี ใช้แบตเตอรี่คุณภาพสูง ใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้าในระดับพรีเมียม ซึ่งมีราคาแพงกว่า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า BYD จะสามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 1.86 ล้านคัน ในปี 2022 ที่ผ่านมา
แต่ในปี 2023 นี้ มีการคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีน จะมียอดขายที่ลดลงราว 30% จากที่เคยเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2022 ด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้น 6.4 ล้านคัน
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน ในปีนี้อาจหดตัวลง ก็เป็นเพราะการยกเลิกนโยบายการให้เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลจีน ในช่วงเดือนนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อกลุ่มลูกค้าที่มีความอ่อนไหวต่อราคาสูง
ส่วนในด้านของ Tesla ซึ่งนับว่าเป็น “คู่แข่ง” รายสำคัญของ BYD นั้น พบว่าในปี 2022 ที่ผ่านมา Tesla สามารถสร้างยอดขายไปได้ทั้งสิ้น 1.31 ล้านคัน คิดเป็นอัตราการเติบโต 40% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
แต่ตัวเลขการเติบโตของ Tesla ในปีที่แล้ว ก็ยังพลาดเป้า เพราะแม้ตัวเลขยอดขายจะดูเยอะ และเติบโตได้มากถึง 40% แต่ในความจริงแล้ว Tesla ยังไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าในปี 2022 จะต้องทำให้ยอดขาย เติบโตได้ 50% เมื่อเทียบกับปี 2021
ทั้งนี้ หากนับเฉพาะในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) นั้น Tesla ยังคงความเป็นผู้นำอยู่
เพราะ Tesla ขายได้ 1.31 ล้านคัน ส่วน BYD ขายได้ 9.11 แสนคัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มอัตราการเติบโตที่สูงมากของ BYD
อาจทำให้ในเร็ว ๆ นี้ BYD สามารถแซงหน้า Tesla ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ก็เป็นได้
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.