ติดปีก SME ด้วย Google My Business

หลายคนมีฝัน ฝันที่อยากเป็นผู้ประกอบการ
แต่รู้ไหมว่า โลกธุรกิจไม่ต่างอะไรจากสมรภูมิรบ ซึ่งเต็มไปด้วยการแข่งขัน

โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่การเริ่มต้นธุรกิจ ง่ายกว่าแต่ก่อน
เนื่องจากตลาดเปิดกว้างมากขึ้น

ผู้ประกอบการต่างเข้าถึงเทคโนโลยี และข้อมูล ในต้นทุนที่ต่ำ
สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าจำนวนมากได้ผ่านโซเชียล หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
เทรนด์ตลาดผ่านเครื่องมือต่างๆ เช่น Google Trends
และโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี ที่บริษัทระดับโลกเปิดให้ใช้บริการในราคาต่ำ หรือฟรี..

ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจ โดยเฉพาะ SME ควรเรียนรู้เครื่องมือเหล่านี้
เพื่อนำเทคโนโลยีมาช่วยติดปีกให้ธุรกิจ

และเครื่องมือที่น่าสนใจที่สุดตอนนี้คือ “Google My Business”
ซึ่งทาง Google ได้คิดค้นขึ้นเมื่อปี 2014
เพื่อพลักดันให้ธุรกิจ SME ไทย เติบโตต่อไปได้ในโลกดิจิทัล

ผ่านแพลตฟอร์ม ที่ช่วยทำให้ธุรกิจสร้างความโดดเด่นบนโลกออนไลน์
ดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ให้มาพบเห็น และปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าบน Google Search และ Google Maps ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

Google My Business จะทำให้เราเพิ่มข้อมูลสำคัญของธุรกิจ
เวลาเปิด-ปิดให้บริการ, ที่อยู่, ลิงค์เว็บไซต์, รูปภาพ, เบอร์ติดต่อ, โพสต์ข้อความ, โปรโมชันหรืองานอีเวนต์ต่างๆ
ให้ผู้คนสามารถมาดูข้อมูลเหล่านี้ได้ ผ่านการค้นหาบน Google Search และ Google Maps

พร้อมทั้งช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ผ่านการอ่านและตอบกลับรีวิวจากลูกค้า
ซึ่งมีฟีเจอร์แปลภาษาในตัว ทำให้อ่านรีวิวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติง่ายขึ้น

รวมถึงแชทกับลูกค้าที่ติดตามธุรกิจเราได้โดยตรง
ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้บนแพลตฟอร์มเดียว

ลองพิมพ์คำว่า ร้านอาหารใกล้ฉัน หรือ ร้านกาแฟใกล้ฉัน บน Google Search
ข้อมูลของร้านหรือธุรกิจรอบๆ ตัวเราที่ใช้ Google My Business ก็จะปรากฎขึ้นมา

พฤติกรรมของผู้บริโภคทุกวันนี้ เมื่อมีสมาร์ตโฟนอยู่ในมือ
ก็จะค้นหาข้อมูลบนโลกออนไลน์ก่อนที่จะตัดสินใจ ซื้อสินค้า หรือไปใช้บริการก่อนเสมอ

ดังนั้น ธุรกิจที่ใช้ Google My Business จึงช่วยให้ร้านค้ามีความโดดเด่นขึ้นมา มากกว่าร้านอื่นๆ
เพราะร้านค้าจะถูกค้นหาได้บน Google Search และ Google Maps

ซึ่งสถิติบนแพลตฟอร์ม Google My Business บอกว่า

ถ้าธุรกิจหรือร้านไหนลงรูปภาพ จะมีคนกดเข้ามาดูร้านนั้น เพิ่มขึ้น 42%
ถ้าธุรกิจใส่ข้อมูลให้ครบ จะมีคนกดมากขึ้น 7 เท่า
ถ้าธุรกิจใส่เวลาให้บริการเปิด-ปิด มีโอกาส 90% ที่คนจะไปที่ร้านนั้น

และที่สำคัญ ผู้คนสมัยนี้ ซึ่งคิดเป็น 66% ให้ความสำคัญกับข้อมูลรีวิวก่อนที่จะตัดสินใจไปอุดหนุน

นอกจากนี้ผู้ประกอบการที่ใช้แพลตฟอร์มนี้
ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจได้

เช่น มีคนเข้ามาค้นหาร้านเรามากแค่ไหน
ค้นหาผ่านช่องทางอะไร สมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน iOS หรือ Android
ค้นหาผ่านช่วงเวลาไหนมากสุด เช้า กลางวัน เย็น
และค้นหาจากที่ไหนบ้าง ธุรกิจจะได้รู้ว้าควรขยายร้านที่ไหน เป็นต้น

ซึ่งธุรกิจจะได้นำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไปต่อยอด พัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

ขอยกตัวอย่าง ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ตัวจริง
ที่นำ Google My Business มาเสริมแกร่งธุรกิจ
ว่าเขาใช้ยังไง และได้ประโยชน์อะไร

“ร้านแดงอาหารทะเล” คุณกมเลศน์ กอสกุล ผู้บริหาร้านแดงและทายาทรุ่นที่สอง
เปิดเผยว่า ตนได้เรียนรู้การทำอาหารจากเจ๊แดง และคลุกคลีอยู่กับธุรกิจครอบครัวตั้งแต่เด็กๆ

ด้วยความเป็นคนสนใจในเรื่องเทคโนโลยี และยึดหลักการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา
เลยอยากนำเทคโนโลยีมากระตุ้นการเติบโตของร้าน

ซึ่งตนได้สมัครใช้ Google My Business เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน
และผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าประทับใจเกินคาด

ถึงแม้ร้านแดง ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสงคราม แต่หลังจากใช้แพลตฟอร์มนี้
ทุกวันนี้ลูกค้าจำนวนมากเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ลงทุนขับมาจากกรุงเทพฯ
และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตั้งใจเดินทางมาร้านแดงโดยเฉพาะ

เพราะลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลของร้านแดงบน Google
และขอเส้นทางไปที่ร้านได้แบบง่ายๆ

ไม่เหมือนสมัยก่อน ที่ทางร้านต้องคอยตอบลูกค้าทุกครั้งที่โทรมาถามทาง
ซึ่งเสียเวลาไปเป็นวันๆ

และร้านสามารถแชทกับลูกค้าได้โดยตรงบนแพลตฟอร์มนี้
ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบแชท สอบถามข้อมูล และจองโต๊ะที่ร้าน มากกว่าพูดคุยทางโทรศัพท์

และที่สำคัญ Google My Business ยังทำให้ลูกค้ารู้ว่า ร้านแดงตัวจริง คือร้านไหน

เนื่องจาก ร้านแดงมีชื่อเสียงมายาวนาน เลยทำให้มีร้านอาหารใหม่ๆ ตั้งชื่อคล้ายๆ ร้านแดงขึ้นมา
ทำให้ลูกค้าเกิดความสับสน ไม่แน่ใจว่าร้านไหนคือ “ต้นตำรับ”

แต่เมื่อ ร้านแดงใช้ Google My Business
ลูกค้าก็สามารถรู้ได้ทันทีว่า ร้านไหนคือตัวจริง ผ่านการค้นหา อ่านรีวิว ดูคะแนน เป็นต้น

โดยมีรายละเอียดสถิติของร้านแดงบน Google My Business ดังนี้

มีการเข้ามาค้นหาและเสิร์ซแผนที่มากกว่า 225,000 ครั้งในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
มีคนเข้ามาดูรูปภาพ 102,000 ภาพ และขอเส้นทาง 3,290 ครั้งในช่วง 28 วันที่ผ่านมา
มีคนเข้ามาชมรูปของร้านแดงมากกว่า 345% เมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ ในพื้นที่เดียวกัน

และขอยกตัวอย่าง SME อีก 2 ธุรกิจในจังหวัดสมุทรสงคราม
ที่ได้ประโยชน์จาก Google My Business ไม่แพ้กัน

ร้านกาแฟ “Hidden Tree Garden”
คุณสุรการต์ อังสุโชติ เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า

ตนอยากให้ผู้คนรู้จักร้านกันมากขึ้น เลยเข้ามาใช้แพลตฟอร์มนี้เมื่อปีที่แล้ว
ซึ่งผลลัพธ์ที่ต้องการ เกิดผลอย่างรวดเร็ว

ร้านของเขาโดดเด่น และถูกค้นพบได้ง่ายกว่าร้านอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน

ทางร้านมีการโพสต์รูปภาพกาแฟ เบเกอรี และบรรยากาศสวยๆ ของร้าน เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาดื่มด่ำ
ซึ่งลูกค้าบางราย ก็เดินทางมาถ่ายรูปที่ร้านโดยเฉพาะ

ภาพถ่ายของร้าน ได้ถูกรับชมได้มากกว่า 2,020% จากธุรกิจที่คล้ายกันในพื้นที่
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา 43% ร้านถูกขอเส้นทางโดยลูกค้าที่เป็นคนนอกพื้นที่

สิ่งที่คุณสุรการต์ ชอบมากที่สุดคือ การรีวิว
เพราะสามารถรับรู้ ตอบสนอง และปรับปรุงสิ่งที่ไม่ดี ลูกค้าไม่ชอบ ได้อย่างทันที

“สวนมะนาวโห่ลุงศิริ”
คุณทสม์ เจริญช่าง ต้องการสืบทอดสวนมะม่วงหาวมะนาวโห่ จากคุณพ่อ-แม่
โดยพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ที่ลูกค้าจะเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่การเก็บผลไม้ การทำ workshop การทำแยม

และสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวสินค้า ผ่านผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลิตผลในสวน เช่น ไอศกรีม แยม
นอกจากนี้ สวนยังมีร้านคาเฟ่เปิดให้บริการในวันหยุด เพื่อให้นักท่องเที่ยว เด็กนักเรียนมานั่งผ่อนคลาย

คุณทสม์ เริ่มใช้ Google My Business ประมาณ 4-5 ปีก่อน
เนื่องจากสวนของเขา อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองและแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัด

จึงอยากใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาหา

หลังจากใช้แพลตฟอร์มนี้ สวนมะนาวโห่ลุงศิริ จากธุรกิจบ้านๆ ไม่มีคนรู้จัก
ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัด
ที่มีผู้คนรู้จักและพูดถึงบนโลกออนไลน์กันมากขึ้น

โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีการขอเส้นทางไปที่สวนจำนวน 290 ครั้ง

หากผู้ประกอบการ SME อยากติดปีกธุรกิจให้เติบโต และโดดเด่นบนโลกออนไลน์

เพียงสมัครใช้บริการ Google My Business ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
เพียงแค่มีสมาร์ตโฟน ก็สร้างเว็บไซต์ได้ภายในไม่กี่นาที
และที่สำคัญ ธุรกิจไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

โดยทาง Google ตั้งเป้าช่วย SME ไทย 1 ล้านรายให้เข้าถึงลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มนี้