ไขข้อสงสัย “แมคฟิช” เบอร์เกอร์ปลาของ McDonald's ทำไมใส่ชีสแค่ครึ่งแผ่น

ไขข้อสงสัย “แมคฟิช” เบอร์เกอร์ปลาของ McDonald's ทำไมใส่ชีสแค่ครึ่งแผ่น

1 มิ.ย. 2023
คงจะมีเบอร์เกอร์ไม่กี่เมนูบนโลก ที่สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 300 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “แมคฟิช” เบอร์เกอร์ปลาของ McDonald's
และเชื่อเหลือเกินว่า คนที่กำลังเริ่มอ่านบทความนี้ อย่างน้อยก็น่าจะเคยลองชิมเจ้าเบอร์เกอร์ปลาแมคฟิช มาแล้วสักครั้ง
แต่รู้หรือไม่ว่า ภายใต้ภาพขนมปังทรงกลมที่มีปลา, ซอส และชีส ตรงกลางที่เราคุ้นเคยนี้
เมื่อเปิดออกมา จะพบว่ามีชีสแค่ “ครึ่งแผ่น” แทนที่จะเป็นเต็มแผ่น..
เรื่องนี้สร้างความสับสนให้ใครหลายคนไม่น้อย 
จนเคยกลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์อยู่พักหนึ่งว่า McDonald's ตั้งใจลดต้นทุนหรือเปล่า ?
ถึงอย่างนั้น ถ้าเราดูที่เมนูเบอร์เกอร์อื่น ๆ ที่ใส่ชีสของ McDonald's อย่าง ชีสเบอร์เกอร์ ก็จะเห็นได้ว่าทางร้านก็ใส่ชีสให้เต็มแผ่นทุกเมนู ยกเว้นแค่เมนู “แมคฟิช”
แล้วคำตอบของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร McDonald's ตั้งใจลดต้นทุนหรือเปล่า ? 
บทความนี้ MarketThink จะสรุปให้ฟัง
สูตรของแมคฟิช ถูกคิดขึ้นตอนปี 1961 โดยคุณ Lou Groen ผู้ได้สิทธิ์แฟรนไชส์ McDonald's ในเมืองซินซินแนติ ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยเมืองดังกล่าว มีประชากรส่วนมากนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีธรรมเนียมไม่ทานอาหารที่มีส่วนประกอบของ “สัตว์บก” ทุกชนิดในวันศุกร์
ทำให้ยอดขายของ McDonald's ที่ตอนนั้นมีแต่เมนูเนื้อ ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ
คุณ Lou Groen จึงเสนอไอเดียในการขายเบอร์เกอร์ปลาให้กับคุณ​ Ray Kroc เจ้าของแฟรนไชส์ McDonald's เพื่อหาทางเพิ่มยอดขาย
ซึ่งสูตรแมคฟิชแบบดั้งเดิม จะมีส่วนประกอบด้วยกันแค่ 3 อย่างคือ
- ปลาแฮลิบัต ชุบแป้งทอด 
- ซอสทาร์ทาร์ 
- ขนมปังเบอร์เกอร์
และแม้คุณ Ray Kroc จะไม่ค่อยชอบไอเดียเบอร์เกอร์ปลานี้เท่าไร เพราะตัวเขามีไอเดียจะทำเบอร์เกอร์สับปะรด ที่ชื่อ Halu Burger มากกว่า
จนถึงขั้นมีการแข่งขันกันระหว่าง “เบอร์เกอร์ปลา” และ “เบอร์เกอร์สับปะรด”
เพื่อหาว่าใครจะขายดีกว่ากันในวันศุกร์ประเสริฐ (วันสำคัญทางศาสนาคริสต์) โดยเมนูที่ขายดีกว่า จะถูกบรรจุเป็นเมนูถาวรของ McDonald's เลยทีเดียว
และสุดท้ายก็เป็นแมคฟิชที่ชนะได้แบบขาดลอย ด้วยคะแนน 350 ชิ้นต่อ 6 ชิ้น..
ทำให้แมคฟิชได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในปี 1963
อย่างไรก็ดี คุณ Ray Kroc กลับมองว่า การใช้ปลาแฮลิบัตนั้นมี “ต้นทุนที่สูงเกินไป” 
ทำให้มีการเปลี่ยนปลาที่ใช้มาเป็นปลาค็อดแดง ในภายหลัง
และมีการเพิ่ม “ชีสครึ่งแผ่น” เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับเบอร์เกอร์
ที่ต้องเป็นชีสครึ่งแผ่น ก็เพราะว่าชีสนั้นมีกลิ่นแรง เมื่อนำมาใช้กับเนื้อปลา ก็อาจทำให้เสียรสชาติได้
เรื่องนี้ถ้าเราดูที่วัฒนธรรมการทานอาหารอิตาลี ก็จะเห็นได้ว่า มีธรรมเนียมที่จะไม่ใส่ชีสกับอาหารเมนูปลาอยู่เหมือนกัน
ดังนั้น McDonald's จึงมองว่า ถ้าใส่ชีสแค่ครึ่งแผ่น จะได้ความกลมกล่อมลงตัวที่สุด นั่นเอง..
โดย McDonald's ยังคงใช้สูตรดังกล่าวมาเรื่อย ๆ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงสูตรนิดหน่อย จากปลาค็อดแดง มาเป็นปลาอะแลสกาพอลล็อก เพราะเหตุผลเรื่องการทำประมงอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ดี สูตรการใช้ชีสแค่ครึ่งแผ่น ต่อปลา 1 ชิ้น ก็ยังเป็นสิ่งที่ McDonald's ทำมาจนถึงทุกวันนี้ และมีการปรับใช้กับทุกสาขาทั่วโลก..
โดยถ้าเราสังเกตดี ๆ กับเมนูดับเบิ้ลแมคฟิช ที่มีปลาทั้งหมด 2 ชิ้น
เราจะเห็นได้ว่า ทางร้านมีการแบ่งชีสครึ่งแผ่น มาท็อปบนปลาแต่ละชิ้น เช่นกัน
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนน่าจะหายสงสัยแล้วว่า การที่แมคฟิช มีชีสแค่ครึ่งแผ่น เหตุผลหลัก ๆ ไม่ได้เป็นการรักษาต้นทุน แต่เป็นการรักษารสชาติต่างหาก
ซึ่งเอาดี ๆ ทาง McDonald's เอง ก็เคยหยิบเรื่องนี้ออกมาสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างตรงไปตรงมา ถึงที่มาของวัตถุดิบและเหตุผลในการใส่ชีสครึ่งแผ่นหลายครั้งแล้ว
โดยทางร้านยังเคยบอกว่า ถ้าใครอยากทานชีสเต็มแผ่น
ก็สามารถสั่งเพิ่มได้ ในราคาเพียง 15 บาท อีกด้วย..
--------------------------
Sponsored by JCB
สัมผัสประสบการณ์ที่มากกว่ากับ บัตรเครดิต JCB
ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษดีๆ มากมาย
ให้คุณได้เพลิดเพลินทั้ง ช้อป กิน เที่ยว
พร้อมกับการให้บริการสุดพิถีพิถันทุกรูปแบบ 
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ >> http://www.specialoffers.jcb/th/promotion/japan_contents_of_ASEAN/
ติดตามความพิเศษที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะคุณได้ที่ 
Facebook : JCB Thailand
LINE Official Account : @JCBThailand (https://bit.ly/JCBTHLine)
#JCBThailand #JCBCard
#JCBOwnHappinessOwnStory
#อีกขั้นของความสุขในรูปแบบที่เป็นตัวคุณ
-------------------------
อ้างอิง:
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.