“Alisa” Generative AI รายแรกของไทย สุดยอดผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมให้ใช้งานฟรีบน Line@Alisa

“Alisa” Generative AI รายแรกของไทย สุดยอดผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมให้ใช้งานฟรีบน Line@Alisa

8 มิ.ย. 2023
“Alisa AI Chatbot” นวัตกรรมที่ช่วยตอบคำถาม สร้างรูปภาพ และเขียนโค้ดโปรแกรม ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ Generative Pre-Trained Transformer  มีระบบประมวลผล Large Language Models Chatbot สามารถสร้างรูปแบบสนทนาและข้อมูล ได้คล้ายกับการสรรสร้างภาษาของมนุษย์
ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับผู้ช่วยดิจิทัลในภาษาธรรมชาติ รองรับภาษาไทย ทำให้คนไทยสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ Line@Alisa ผ่านแอปพลิเคชัน Line บนโทรศัพท์มือถือ ก็จะช่วยให้เข้าถึงแชทบอท AI และเริ่มใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ทันสมัยได้ง่ายขึ้น
คุณจรัญพัฒน์ บุญยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) หรือ GLORY ผู้พัฒนา AI ChatBot ไทย “ Alisa (อลิสา)”  เปิดเผยว่า 
จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) ได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และกำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงในทุกอุตสาหกรรม  เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย โดยเร็วที่สุด 
บริษัทฯได้พัฒนา “Alisa AI” แชตบอตทรงพลังและมีความแตกต่างจากแชตบอตอื่น ๆ ที่มาพร้อมกับความสามารถในการประมวลผลภาษาธรรมชาติขั้นสูง (NLP) ออกแบบมาเพื่อเป็นผู้ช่วยส่วนตัว ช่วยผู้ใช้งานจัดการงานและกิจกรรมประจำวัน สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อคำขอทุกประเภทได้อย่างเหมาะสม ตั้งแต่การสอบถามง่าย ๆ ไปจนถึงงานที่มีความซับซ้อน   
อีกทั้ง “Alisa AI”  ยังได้รับการตั้งโปรแกรมให้ตอบคำถามจนถึงปี 2023 และยังคงอัปเดตอย่างต่อเนื่องในขอบเขตที่สามารถเรียนรู้ได้  เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและใกล้เคียงกับปัจจุบันที่สุด  ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่สนใจใช้เทคโนโลยี AI สมัยใหม่   
“Alisa AI” มีฟีเจอร์หลักที่สำคัญคือ ช่วยผู้ใช้งานลดขั้นตอนการทำงานในการค้นหาข้อมูล ข้อความต่าง ๆ (Text) ถาม-ตอบ ขอไอเดีย  รองรับการสร้างความคิด และอื่น ๆ   ขึ้นอยู่กับการปรับใช้งานของผู้ใช้ ว่าต้องการให้ “Alisa”  ช่วยอะไร  
และ “Alisa AI”  ยังเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้งาน สร้างสรรค์ รูปภาพจากข้อความ (Text-To-Image) จากจินตนาการของผู้ใช้ ในระยะเวลาที่รวดเร็ว และสามารถใช้ฟังก์ชันเพื่อกำหนดให้รูปเป็นแนวตั้ง หรือแนวนอน นอกเหนือจากรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่เป็นมาตรฐาน  ซึ่งรองรับการใช้งานในภาษาไทย และภาษาอังกฤษ    
ล่าสุดเปิดตัวฟีเจอร์ นวัตกรรมใหม่ของโลก "Goal (AutoGPT+OwnerMode)" ซึ่งผู้ใช้สามารถพิมพ์เป้าหมายที่ต้องการเพียงครั้งเดียว  แล้วอลิสาจะจัดตั้งทีม AI จำนวนมากกว่า 10 คน ประกอบไปด้วย CEO, Manager และ Specialist มาร่วมกันทำงานให้กับเป้าหมายของผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ  และยังสามารถขอแก้ไข หรือขอรายละเอียดจากแต่ละตำแหน่งแบบเฉพาะเจาะจงได้ตามต้องการ เหมือนกับเจ้าของ (Owner) อีกด้วย 
ซึ่งทำได้ตั้งแต่ เขียนโฆษณา เขียนแผนงาน เขียนหนังสือ ปรึกษาพูดคุย ขอไอเดีย เขียน Code โปรแกรม และอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าคล้ายกับคนเลยทีเดียว โดยรองรับทั้ง ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ  
จะเห็นได้ว่า AI สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติจากคำสั่งเดียว ซึ่งเป็นจุดเด่นของ “Alisa” และเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน และคิดว่าจะสามารถช่วยสนับสนุนให้กับผู้ใช้งานทุกอาชีพเป็นอย่างมาก ส่วนดีไซน์การออกแบบ “Alisa AI” (คอนเซปต์ตัวละคร) อลิสา (Alisa) เป็นตัวละครที่มีชื่อเป็นภาษาไทย แต่งกายชุดไทยผสมจีน ซึ่งเป็นตัวละครที่ตั้งใจออกแบบให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยด้วย มีความสุภาพ เรียกผู้ใช้ว่านายท่าน และลงท้ายด้วยเจ้าค่ะ  คล้าย ๆ กับการเป็น ผู้ช่วย Maid AI ประจำตัวของนายท่าน
สำหรับกลยุทธ์การตลาด “Alisa AI”  มุ่งเน้นช่องทางการโปรโมทผ่านโซเชียลมีเดีย ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย  ชูจุดเด่นที่ถือเป็นจุดแข็ง คือ ลดขั้นตอนการทำงานให้กับทุกอาชีพ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย, การรีวิวจากผู้ใช้งานจริง, และสร้างความประทับใจจนเกิดการบอกต่อ ควบคู่ไปกับการใช้สื่อประเภท Out Of Home Media (OOH) โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท Yellow Media ติดตั้งตามเส้นทางต่าง ๆ ในโลเกชันสำคัญ ๆ  เพื่อสร้างการรับรู้ (awareness) ไปยังกลุ่มเป้าหมาย เช่น นักเรียน นักศึกษา หรือกลุ่มคนวัยทำงาน  
และเปิดโอกาสให้ผู้อ่านมีเวลายาวนานในการอ่านข้อความโฆษณาซ้ำ ๆ ทุกวันจนเกิดการจดจำแบรนด์ในที่สุด ทำให้ยอดผู้ใช้งานจากเดิม 3-4 แสนคน  หลังจาก”Alisa” เปิดตัวเพียง 2 เดือน  และได้รับผลตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง  เพิ่มขึ้นเป็น 1.6 ล้าน User คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 300%   และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งเป้าฐานผู้เข้าใช้งาน 5 ล้านคน และยอด Subscriber ที่มีอัตราการเติบโตตามสัดส่วนคือ 0.1-1% ภายในปี 2566  
ทั้งนี้การเข้าใช้งาน สำหรับแพ็กเกจ Free สามารถใช้งาน การ Generate Text ได้ 50,000 Token/เดือน  โดยที่ 1 Token มีค่าประมาณ 1 ตัวอักษรสำหรับภาษาที่อลิสารองรับ  และจะ Reset Token ใหม่ทุกๆเดือน ตามระยะเวลาที่เริ่มต้นใช้งาน สามารถดูรอบการ Recurring แพ็กเกจ ได้โดยพิมพ์ /info บนแชทไลน์ @alisa) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกสมัครแพ็กเกจ Premium ได้ที่ https://sub.alisamaid.com/
นอกจากนี้ “Alisa Ai”  ยังมีแผนพัฒนาต่อยอดในอนาคต โดยกำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่คือ Chatfile ซึ่งจะสามารถอัพโหลดไฟล์เข้าไปเพื่อพูดคุยถามตอบได้ เช่น อัพโหลดหนังสือเรียนเข้าไปแล้วขอให้ช่วยสอน หรืออัพโหลดงานวิจัยที่มีความยาวหลายร้อยหน้าเข้าไปเป็นภาษาอังกฤษ แล้วถามตอบเป็นภาษาไทย หรือให้ช่วยสรุป เป็นต้น ทั้งนี้ยังมีฟีเจอร์อีกมากที่เตรียมจะพัฒนาในอนาคต เพื่อรองรับต่อผู้ใช้งานที่เป็น End User และผู้ใช้งานที่เป็นกลุ่มบิสซิเนส หรือองค์กรต่างๆ  เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้อย่างทั่วถึง และปลอดภัย โดยเร็วที่สุด โดยมองว่า ปัจจุบันเมื่อ AI เริ่มเข้าใจภาษามนุษย์แล้ว การพัฒนาจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะในภาพของ AI ที่เราเห็นเป็น Chatbot ในปัจจุบัน  แต่ AI จะอยู่ในเบื้องหลังการพัฒนาครั้งสำคัญต่างๆของโลกในอนาคต 
ด้านคุณมาลินี ขับสนิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด Yellow Media  บริษัทที่ได้รับมอบหมายจากสินค้าและ แบรนด์ต่าง ๆ ให้วางแผนการใช้สื่อนอกบ้าน-Out Of Home Media (OOH)  อย่างครบวงจรมากกว่า 10 ปี กล่าวว่า การทำแคมเปญการตลาดในปัจจุบัน หากเลือกว่าจะออนไลน์อย่างเดียว  หรือออฟไลน์อย่างเดียวแค่นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป แบรนด์ต้องทำทั้ง 2 อย่างควบคู่กัน เพื่อให้การทำธุรกิจสื่อสารไปยังผู้บริโภคมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเนื่องจาก Out Of Home Media หรือสื่อนอกบ้าน เป็นสื่อที่ทำให้ผู้คนพบเห็นได้ในจำนวนมาก ไม่เพียงเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนทั่วไป หรือคนที่อาจจะมาเป็นลูกค้าในอนาคต ทำให้เกิดการรับรู้แบรนด์ รู้จักสินค้า ทำให้ผู้คนรู้สึกคุ้นชินและเกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะเห็นได้ว่า Out of home media หรือสื่อนอกบ้าน เป็นช่องทางการโฆษณาและทำการตลาดที่ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.