รู้จัก ABCA กองทุน IPO ลงทุนอย่างไรให้ยั่งยืน ในหุ้นจีน A Share

รู้จัก ABCA กองทุน IPO ลงทุนอย่างไรให้ยั่งยืน ในหุ้นจีน A Share

13 มิ.ย. 2023
ถ้าเราลองย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จะพบว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศ ที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างโดดเด่น และน่าจับตามองที่สุด
โดยข้อมูลจาก World Bank ระบุว่า จีนมี GDP เติบโตเฉลี่ย 7-8% ต่อปี และเป็นประเทศที่มีอิทธิพลระดับเบอร์ต้น ๆ ของโลก (ข้อมูลจาก World Bank ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2566)
แม้ว่าช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นในจีนจะเจอปัญหามากมาย ทั้งมาตรการคุมเข้มเรื่องโรคระบาด ที่ทำให้เศรษฐกิจชะงัก และการที่รัฐบาลจีนเข้มงวดกับธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้เติบโตดีได้ในระยะยาว
แต่ในไตรมาสล่าสุด คล้ายกับเป็นช่วงฟ้าหลังฝนของจีน เมื่อสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนประกาศ GDP ไตรมาส 1/2566 เติบโตถึง 4.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน (ข้อมูลจาก China Briefing ณ วันที่ 18 เมษายน 2566)
ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนกำลังฟื้นตัว​ สวนทางกับประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ของโลก ที่กำลังเข้าสู่ช่วงถดถอย
ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นจีน อย่าง MSCI China A Onshore Index (USD) ก็พลิกกลับมาเป็นบวกแล้วด้วยเช่นกัน
ส่วนอีกหนึ่งตัวเลขที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ในปี 2565 สัดส่วนการลงทุนในหุ้นของคนจีน เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมด พบว่าอยู่ที่ 11% เท่านั้น
ซึ่งหากวัดจากคนอเมริกันที่ลงทุนในหุ้นถึง 36% ของสินทรัพย์ทั้งหมด จะเห็นว่ามีช่องว่างให้เติบโตได้อีกมหาศาล (ข้อมูลจาก abrdn ณ เดือนธันวาคม ปี 2565)
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นหลายตัวยังลดลงจากจุดสูงสุดเกิน 50% ดังนั้นจึงคาดว่าหุ้นส่วนใหญ่มีโอกาสที่ราคาจะต่ำกว่าที่ควรจะเป็นได้
แต่ต้องบอกก่อนว่า ใช่ว่าทุกหุ้นจะกลับไปเติบโตได้เหมือนเดิม หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
แล้วธุรกิจแบบไหนที่รัฐบาลจีนส่งเสริม หรือมองว่าเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ?
1. ธุรกิจที่เน้นการบริโภคในประเทศ
ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นของคนจีน นำไปสู่การเติบโตอย่างรวดเร็วของการบริโภคทั้งสินค้าและบริการในระดับพรีเมียม เช่น ภาคการท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ทำให้ทางภาครัฐเห็นความสำคัญและให้การสนับสนุน เพราะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง ลดการพึ่งพาจากนานาชาติ อย่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ผ่านมา
2. ธุรกิจเทคโนโลยี
ปัจจุบันการเชื่อมต่อทางดิจิทัลเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการยอมรับเทคโนโลยีอย่างแพร่หลาย ดังนั้นธุรกิจความปลอดภัยทางไซเบอร์ ธุรกิจคลาวด์ และผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ ที่เปรียบเสมือนหัวใจของโลกดิจิทัล รัฐบาลจีนซึ่งให้ความสนใจมาโดยตลอด จึงไม่พลาดที่จะส่งเสริมธุรกิจเหล่านี้ภายในประเทศ มากกว่าจากประเทศอื่น ๆ
3. ธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง
เมื่อความมั่งคั่งของคนจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งธุรกิจที่จะเติบโตไปด้วยกัน คงหนีไม่พ้นธุรกิจบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง เช่น ธุรกิจบริการการลงทุน หรือธุรกิจประกันก็ตาม โดยธุรกิจเหล่านี้นับว่ามีความสำคัญในการสร้างรากฐานให้กับชาวจีน
4. ธุรกิจด้านสุขภาพ
เมื่อรายได้ของคนจีนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น คนที่มีกำลังซื้อก็จะเริ่มหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงพยาบาลชั้นนำ และผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์
5. ธุรกิจพลังงานสะอาด
ทั่วโลกต่างมุ่งที่จะสร้างโลกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยคาร์บอนให้น้อยลง ซึ่งที่ผ่านมาจีนนี่เองถือเป็นหนึ่งในผู้นำในการขับเคลื่อน ทั้งการใช้พลังงานหมุนเวียน การผลิตแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง
ที่น่าสนใจคือ ธุรกิจที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนอยู่ในตลาดหุ้นจีน A-Share หรือหุ้นจีนที่สามารถซื้อขายในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้-เซินเจิ้น นั่นเอง
แล้วหากถามต่อว่า หุ้นจีน A-Share ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีอะไรบ้าง ขอยกตัวอย่างมา 3 หุ้น
1. Kweichow Moutai ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใหญ่สุดในโลก โดยเป็นเจ้าของสุราเหมาไถ ซึ่งมีความสำคัญต่อประเทศ เพราะผู้ผลิตรายนี้เป็นรัฐวิสาหกิจ
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การเติบโตของ Kweichow Moutai มาจาก “สินค้าแชมเปียน” นั่นก็คือเหล้าขาว 
ซึ่งสร้างรายได้ คิดเป็น 87% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท (ข้อมูลจาก Statista ณ วันที่ 6 เมษายน 2566)
ในขณะที่ต้นทุนในการผลิตเหล้าขาวของบริษัท มีวัตถุดิบหลักเป็นข้าวฟ่าง และข้าวสาลี ที่มีราคาค่อนข้างต่ำ จึงทำให้ อัตรากำไรขั้นต้นของ Kweichow Moutai อยู่ในระดับที่สูง 
ปี 2560 อัตรากำไรขั้นต้น 90% 
ปี 2561 อัตรากำไรขั้นต้น 91% 
ปี 2562 อัตรากำไรขั้นต้น 91% 
(ข้อมูลจาก Yahoo Finance ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2566) 
ซึ่งกำไรขั้นต้นระดับนี้ ถือว่าสูงยิ่งกว่าบริษัทเทคโนโลยี ที่ไม่ต้องมีต้นทุนในการผลิตสินค้า และการจัดจำหน่ายเสียอีก
ทำให้ในปัจจุบัน Kweichow Moutai มีมูลค่าบริษัท 10.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดอันดับ 2 ในตลาดหุ้นจีน (ข้อมูลจาก Yahoo Finance ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2566) 
2. Contemporary Amperex Technology ผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV อันดับ 1 ของโลก 
ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตมากที่สุดของโลก
เพราะได้รับผลประโยชน์จาก 2 ทาง ทั้งอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลจีนที่มีนโยบายผลักดันประเทศ ให้เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้มากถึง 35% มากกว่าอันดับ 2 อย่าง LG ที่ 15.9% เกินกว่า 2 เท่าเลยทีเดียว (ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2565) 
ในขณะที่เมื่อปีที่แล้ว CATL มีรายได้ทั้งปีอยู่ที่ 1,690,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า มากถึง 137% (ข้อมูลจาก Statista ณ วันที่ 5 มกราคม 2566) 
3. Ping An Insurance Group หนึ่งในบริษัทประกันสัญชาติจีน ที่ติดอันดับบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดในโลก และหลายคนน่าจะคุ้นชื่อ เพราะเป็นบริษัทที่ซีพีได้ลงทุนไว้
ปัจจุบัน ผิงอัน ผันตัวเป็นบริษัทโฮลดิง มีบริษัทย่อยทำธุรกิจประกัน การเงิน และหลักทรัพย์ แบ่งออกเป็น
- ธุรกิจประกันชีวิต
- ธุรกิจประกันรถยนต์
- ธุรกิจธนาคารและการเงิน
- ธุรกิจบัตรเครดิต
- ธุรกิจหลักทรัพย์และกองทุน
นอกจากนี้ ผิงอัน ถือเป็นบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำในประเทศจีน เช่น บริการ Ping An Good Doctor ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่นำเทคโนโลยี AI มาช่วยให้คุณหมอวินิจฉัยอาการคนไข้เบื้องต้น ผ่านทางหน้าจอสมาร์ตโฟน (ข้อมูลจาก Ping An Insurance (Group) ANNUAL REPORT ปี 2565)
พอเป็นแบบนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม Ping An Insurance Group ถึงเติบโตจนมีมูลค่าบริษัทแตะระดับ 4.3 ล้านล้านบาท และได้กลายมาเป็นหนึ่งในบริษัทประกันภัยที่ใหญ่สุดในประเทศจีน (ข้อมูลจาก Yahoo Finance ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2566) 
จากตัวอย่างที่ยกมา จะเห็นได้เลยว่า ล้วนเป็นพี่ใหญ่ในวงการธุรกิจนั้นจริง ๆ
สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสในจีน ขอแนะนำกองทุนหนึ่งให้รู้จักคือ ABCA กองทุนเปิด อเบอร์ดีน ไชน่า A Share ซัสเทนเนเบิล เอคควิตี้ ฟันด์
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนที่แตกต่างเพื่อความยั่งยืน ในหุ้นจีน A-Share ซึ่งจะลงทุนในตราสารทุนเป็นหลัก โดยเฉลี่ยในรอบปีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV 
ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ กองทุน Aberdeen Standard SICAV I - China A Share Sustainable Equity Fund (กองทุนหลัก) 
ซึ่งเน้นกระจายการลงทุนใน 5 ธีมหลัก ตามที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่
- การบริโภคในประเทศ (Aspiration)
แน่นอนว่า เมื่อคนจีนมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น ความต้องการสินค้าและบริการระดับพรีเมียมก็เพิ่มขึ้นตามอย่างเห็นได้ชัด
- เทคโนโลยี (Digital)
รัฐบาลจีนสนับสนุนโลกดิจิทัล เพราะเป็นความมั่นคงระดับประเทศ และยังสนับสนุนให้บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนเติบโตสู่เวทีโลก อีกด้วย 
- บริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง (Wealth)
พอคนจีนมีฐานะร่ำรวยขึ้น บริการด้านการบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง (Wealth Management) จึงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย 
- สุขภาพ (Health)
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เทรนด์ดูแลสุขภาพกำลังกลายมาเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง 
- พลังงานสะอาด (Green)
หนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลจีนสนับสนุน คือ การขับเคลื่อนประเทศด้วยพลังงานหมุนเวียน และการผลิตผลิตแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 
โดยกองทุนหลักมีการคัดเลือกหุ้นที่แข็งแกร่งและมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต 
ซึ่ง 3 หุ้นที่ยกตัวอย่างมาก็ติด 5 อันดับแรก ที่กองทุนหลักลงทุนในสัดส่วนสูงที่สุด (ข้อมูลจาก abrdn ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2566)
ทั้งนี้ กองทุนหลักของกองทุน ABCA เป็นกองทุนเชิงรุก ที่มุ่งหวังสร้างผลตอบแทนมากกว่าดัชนีชี้วัด และลงทุนในหุ้นทั้งหมด 30-40 บริษัท (ข้อมูลจาก abrdn ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566) 
นํ้าหนักและธีมการลงทุน รวมถึงตัวอย่างการลงทุนในหุ้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ ผลการดําเนินงานของกองทุนหลักยังโดดเด่นและได้รับการจัดอันดับจาก Morningstar ให้อยู่ในอันดับต้นของกลุ่ม (Top-quartile) นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (ที่มา: Morningstar, abrdn, ธันวาคม 2565 จัดตั้งกองทุนหลักเมื่อ 16 มีนาคม 2558)
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ สามารถขอรับหนังสือชี้ชวน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 
เบอร์ 02-352-3388 หรือ Email: client.services.th@abrdn.com 
หรือหากท่านใด อยากจะทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถคลิกได้ที่ 
https://www.abrdn.com/th-th/investor/what-we-do/abrdn-china-a-share-sustainable-equity-fund
ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถเปิดบัญชีเพื่อลงทุนผ่าน abrdn mobile app ได้แล้ววันนี้ แค่คลิก https://onelink.to/abrdn?utm_source=facebook&utm_medium=post&utm_campaign=China%20A&utm_content=market%20think
พิเศษ ! สำหรับนักลงทุนที่เปิดบัญชีสำเร็จภายในวันนี้-30 มิถุนายน 2566 จะได้รับ Starbucks E-voucher มูลค่า 200 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
คำเตือน: กองทุน ABCA-A เป็นกองทุนชนิดสะสมมูลค่า และมีความเสี่ยงระดับ 6
ผลการดำเนินงานในอดีต ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
หมายเหตุ: มูลค่าบริษัท ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2566 (ข้อมูลจาก Yahoo Finance)
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.