แมพ แอคทีฟ ร่วมกับ ฮาสโบร ปลุกกระแสตลาดคาแรคเตอร์หนังดังระดับโลก จัดงานเปิดตัวของเล่น-ฟิกเกอร์หุ่นแปลงร่าง Transformers :Rise Of The Beasts  คาดกวาดยอดขายทั่วไทยกว่า 15 ล้านบาท

แมพ แอคทีฟ ร่วมกับ ฮาสโบร ปลุกกระแสตลาดคาแรคเตอร์หนังดังระดับโลก จัดงานเปิดตัวของเล่น-ฟิกเกอร์หุ่นแปลงร่าง Transformers :Rise Of The Beasts คาดกวาดยอดขายทั่วไทยกว่า 15 ล้านบาท

15 มิ.ย. 2023
การกลับมาของภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส นอกจากจะสร้างเสียงฮือฮาให้กับคอหนังแล้ว ยังส่งผลต่อแนวโน้มความนิยมที่แฟนคลับอยากจะครอบครองของเล่นสะสมคาแรคเตอร์ตัวเอกในเรื่องอีกด้วย  ทำให้ “ฮาสโบร” หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตของเล่นที่ใหญ่ที่สุดจากประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่รอช้าส่งคาแรคเตอร์หุ่นแปลงร่าง “Transformers : Rise Of  The Beasts” เจาะตลาดทันที พร้อมจับมือร่วมกับ แมพ แอคทีฟ จัดงานเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ ตระการตา สมกับการรอคอยของเหล่าบรรดาสาวกแฟนคลับทรานส์ฟอร์เมอร์ส
มร. ดีพัก โทมาร์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จำกัด ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์จากฮาสโบร ในการจัดจำหน่ายสินค้าอย่างถูกลิขสิทธิ์ของ Transformers : Rise Of  The Beasts แต่เพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย กล่าวว่า “จากกระแสความนิยมของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Transformers ที่มีกลุ่มแฟนคลับเหนียวแน่นมากว่า 16 ปี นับตั้งแต่ภาพยนตร์ Transformers เปิดตัวในภาคแรกเมื่อปี 2550 ซึ่งสามารถสร้างฐานแฟนคลับอย่างมหาศาลโดยเฉพาะในต่างประเทศ ครอบคลุมถึงนักสะสมของเล่นและฟิกเกอร์ ที่เมื่อก่อนเป็นเด็ก เติบโตเป็นวัยรุ่น
กระทั่งปัจจุบันเริ่มมีครอบครัว แต่ก็ยังเป็นแฟนคลับของทรานส์ฟอร์เมอร์ส อย่างหุ่นออพติมัส ไพร์ม หรือ บัมเบิ้ลบี อยู่เช่นเดิม จนมาในปี 2566 แฟนๆจะได้พบกับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส Transformers :Rise of The Beasts และแน่นอนว่าต่างรอคอยที่จะชื่นชมสินค้าของเล่น โดยเฉพาะฟิกเกอร์แปลงร่าง  ซึ่งภาคนี้จะมาในดีไซน์ยานพาหนะที่ผู้ชมรวมไปถึงแฟนๆทรานส์ฟอร์เมอร์สรักและชื่นชอบ”
ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงได้จัดงานเปิดตัว ของเล่นหุ่นแปลงร่างสายพันธุ์ใหม่ Transformers :Rise Of  The Beasts ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลุกกระแสของทรานส์ฟอร์เมอร์ส กับสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุด เจาะกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มเด็ก, ผู้ใหญ่ หรือลูกค้าทั่วไปที่ชื่นชอบทรานส์ฟอร์เมอร์ส ทั้งในรูปแบบภาพยนตร์ หรือของเล่น ตลอดจนกลุ่มนักสะสมฟิกเกอร์ ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจไปพร้อมกับเรา ทั้งยังได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยน และสนุกสนานไปกับกิจกรรมต่างๆ มากมาย
โดยไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือการได้ Meet & Greet กับ Optimus Prime  ที่มีความสูงกว่า 2.5 เมตร เป็นครั้งแรกและเป็นที่แรกในประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้จัดการประกวด “Transformers Cosplay Contest” ชิงรางวัลพร้อมทุนการศึกษา สำหรับน้องๆ แฟนคลับที่สนใจ ไม่จำกัดเพศและอายุ เพราะเราต้องการเปิดกว้างในด้านความคิดสร้างสรรค์ ของน้องๆเด็กๆ แฟนคลับ และเยาวชน โดยไม่จำกัดเทคนิดใดๆ ที่สำคัญคือสมัครฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
สำหรับสินค้า Transformers : Rise of The Beasts ของฮาสโบรในปีนี้  เรามีสินค้าที่เหมาะกับเด็กๆ อายุ 5-8 ปี ที่ชื่อว่า “Beast Alliance” โดยสินค้าจะเป็นฟิกเกอร์ที่จะมีขั้นตอนฝึกทักษะในการแปลงร่างอยู่ 3-5 ขั้นตอน ซึ่งเด็กๆสามารถเล่นได้ด้วยตนเอง หรือจะมีครอบครัวช่วยแนะนำเด็กๆ เพื่อเป็นการทำกิจกรรมร่วมสนุกด้วยกันได้อีกด้วย  ส่วนกลุ่มอายุ 8 ปีขึ้นไป มักจะชื่นชอบรุ่น “Studio Series” ซึ่งตัวฟิกเกอร์จะถูกถอดแบบคาแรคเตอร์มาจากในภาพยนตร์  ไม่ว่าเป็นตอนเปลี่ยนร่างเป็นหุ่นยนต์ หรือเปลี่ยนร่างเป็นยานพาหนะ ซึ่งเหมาะกับเด็กๆ หรือแฟนคลับที่ชมภาพยนตร์แล้วประทับใจในตัวละครและอยากจะเก็บสะสมเป็นที่ระลึก
และในช่วงเปิดตัวนี้ เราได้จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ รับส่วนลดทันที 25% เมื่อซื้อสินค้าภายในงาน โดยเมื่อซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท รับฟรี Transformers Griptok มูลค่า 199 บาท 1 ชิ้น  และเมื่อซื้อสินค้าในช่วงงานเปิดตัว เฉพาะที่พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์  ซื้อสินค้าครบ 500 บาท รับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม Meet & Greet กับ Optimus Prime /  ซื้อครบ 2,400 บาท รับบัตรชมภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มูลค่า 250 บาท จำนวน 2 ใบ มูลค่า 500 บาท (พิเศษ ! เฉพาะเฉพาะลูกค้า M CARD ซื้อเพียง 2,000 บาท  สิทธ์มีจำนวนจำกัด) ตั้งแต่วันที่ 8– 14 มิ.ย.66
ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายของเล่น Transformers : Rise Of  The Beasts ในช่วงเปิดตัว 3-6 เดือนแรกที่ประมาณ 5-8 ล้านบาท และสิ้นปีนี้ที่ราว 15 ล้านบาท
ด้านภาพรวมของตลาดคาแรคเตอร์ในปัจจุบัน มีจุดเด่น คือเป็นสินค้าที่สร้างสรรค์ประสบการณ์ และจินตนาการ ส่งเสริมพัฒนาการ อีกทั้งยังเป็นการใช้เวลาที่ดีร่วมกันระหว่างครอบครัวอีกด้วย ซึ่งแบรนด์ฮาสโบร ปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดเกือบ 50%  ด้วยจุดแข็ง คือสินค้าของฮาสโบร เป็นสินค้าที่ดีมีคุณภาพ ผลิตโดยใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และฟังก์ชั่นที่ครบครัน ตอบโจทย์ทุกกลุ่มอายุ ทั้งนี้ตลาดคาแรคเตอร์ มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยเช่นเดียวกัน ฮาสโบร มีนโยบายเชิงกลยุทธ์ที่เรียกว่า Blueprint 2.0 อันมีแกนสำคัญคือ Entertainment เน้นสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคผ่านเรื่องราว (Story Telling) เพื่อให้ผู้บริโภคมีการเชื่อมโยง จดจำแบรนด์ ประกอบกับใส่นวัตกรรมเข้าไปในสินค้าให้เด็กเกิดการเรียนรู้
นอกจากนี้ในส่วนของตลาดของเล่นนักสะสม ก็เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากแบรนด์หลักๆ ซึ่งได้แก่ Marvel, Star War และTransformers โดยสินค้าภายใต้แบรนด์ฮาสโบร ที่ร่วมกับ แมพ แอคทีฟ  มีการสร้างช่องทางการจำหน่ายที่ผ่านตัวแทนรายย่อยเฉพาะตลาดนักสะสมโดยเฉพาะ  การขายผ่านช่องทางออนไลน์ และ Social Commerce
ทั้งนี้นักสะสมนิยมสินค้าหายากที่เป็น Limited Edition  ที่สำคัญเน้นคุณภาพมากกว่าราคา ซึ่งขบวนการตัดสินใจซื้อนั้น  ก็เกิดมาจากที่นักสะสมเกิดความประทับใจในคาแรคเตอร์ผ่าน Content ต่างๆ และสร้างตลาดกลุ่มสะสมที่มีการขยายกลุ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตามในช่วงโควิดที่ผ่านมา แมพ แอคทีฟ ได้มีการขยายกิจการ และยังเสริมความเป็นพันธมิตรกับบริษัท ฮาสโบร และ บริษัท e One ขยายฐานลูกค้าผู้ซึ่งชื่นชอบ Entertainment และเป็นผู้สร้างการ์ตูน Peppa pig & PJM เจาะกลุ่มเด็ก Pre-School รวมทั้งขยายตลาดสินค้าลิขสิทธิ์และของเล่นคุณภาพเข้าสู่ตลาดมากมาย
ทั้งนี้ภายในปี 2566 เราเตรียมที่จะคลอดของเล่นใหม่เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาดอีกจำนวนมาก เพื่อสนับสนุนให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาเล่นกับลูกๆ ควบคู่กับการเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นทางออกที่ดีกว่าการเล่นผ่านหน้าจอ โดยมีตัวเลือกให้คุณพ่อคุณแม่ น้องๆในทุกช่วงอายุ ครอบคลุมทุกแบรนด์สินค้าภายใต้ฮาสโบร
อาทิ Nerf Blaster รุ่น Rival, Peppa Pig, My Little Pony, PlayDoh และสินค้าในกลุ่ม Action Figure สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบฮีโร่ เช่น The Marvel, X-Men, Spider Man รวมถึง Spidey and Amazing Friends ซึ่งจะมีการทำแคมเปญพิเศษต่างๆ ที่รอให้เหล่าสาวกของเล่นได้ติดตามกันด้วย.
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.