ถอดรหัสลับเทคโนโลยีจอ LED Volume ความ “เนียนกริบ” ที่บริษัทบันเทิงระดับโลกใช้ถ่ายทำ Virtual Production

ซีรีส์เกาหลี ฉากที่มีดาราอยู่ในรถพร้อมวิวสวย ๆ รอบข้าง และฉากโรแมนติกที่มีภาพสวยงาม
เบื้องหลังภาพสวย ๆ เหล่านี้ เชื่อหรือไม่ว่า ถูกถ่ายทำในสตูดิโอทั้งหมด
หรือซีรีส์ Star Wars: THE MANDALORIAN ในทุก ๆ ตอนก็ถ่ายทำในสตูดิโอเช่นกัน

เรื่องนี้ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้เลย เพราะเมื่อดูผ่านจอทีวี เราเห็นภาพที่ “เนียนกริบ”
โดยเบื้องหลังเรื่องนี้มาจากการถ่ายทำ Virtual Production ที่มีจอ “LED Volume”

อธิบายกระบวนการทำงานให้เข้าใจง่าย ๆ คือ จะมีทีมงานไปถ่ายภาพเคลื่อนไหวตามสถานที่
หรือที่เรียกว่า Footage อีกทั้งยังสามารถใช้โปรแกรมอย่าง Unreal Engine ใช้สร้าง 3D Computer Graphics เป็นสภาพแวดล้อมได้เช่นกัน จากนั้นก็ใส่ในระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง
เพื่อประมวลภาพลงบนจอ LED ขนาดใหญ่ โดยเมื่อถ่ายจากกล้องและเลนส์จะได้ภาพที่คมชัด
มีความสเถียรสูง ไม่ว่าจะเป็นฉากหลังและฉากรวมในการถ่ายทำ

นั่นแปลว่า ทีมงานถ่ายทำซีรีส์และละครต่าง ๆ, มิวสิกวิดีโอ ในหลาย ๆ ฉาก
ไม่ต้องยกทีมงานไปถ่ายทำในสถานที่จริง และไม่ต้องกังวลในเรื่องภูมิอากาศ ฝนตก แสงไม่สวย
เมื่อการถ่ายทำ Virtual Production เสมือนเราเป็น “พ่อมดในวงการบันเทิง”
เพราะสามารถควบคุมทุกฉาก ทุกซีน องค์ประกอบฉาก ได้ทั้งหมด ก่อนลงมือถ่ายทำจริง

ความน่าตื่นเต้นของเรื่องนี้คือ ได้มีบริษัทไทยในตลาดหลักทรัพย์รายหนึ่ง
ตัดสินใจลงทุน 40 ล้านบาท เพื่อซื้อจอ “LED Volume” ที่มีขนาดกว้าง 18 เมตร สูง 7 เมตร

อีกทั้งยังมีจอที่สามารถแขวนเป็น Ceiling และสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างหลากหลายรูปแบบ
อีก 30 ตารางเมตร โดยเป็นจอที่ใหญ่สุดในอาเซียน ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำ ๆ
แสดงผลผ่านจอคุณภาพสูง โดยเจ้าจอ “LED Volume” นี้ หลายบริษัทบันเทิงระดับโลก
ใช้เพื่อถ่ายทำ Virtual Production

โดยบริษัทที่เป็นเจ้าของจอนี้ นั่นคือ บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ซึ่งเป็นผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้า และอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทย
โดยมีลูกค้าองค์กร ทั้งศูนย์การค้าชื่อดัง, โครงการอสังหาฯ, สนามบิน และอื่น ๆ
รวมไปถึงยังเป็นเจ้าของแบรนด์หลอดไฟ LED ที่ชื่อ L&E และ LUMAX

“จอ LED Volume เป็นหนึ่งในการลงทุนในธุรกิจ Entertainment Support
เหตุผลที่เราลงทุนในธุรกิจนี้มาจาก Passion ที่ต้องการยกระดับอุตสาหกรรมบันเทิงเมืองไทย”

คุณอโรชา กิตติวิทยากุล ผู้จัดการแผนก Entertainment Lighting
บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เผยถึงเหตุผลที่เธอตัดสินใจลงทุนในธุรกิจ
Entertainment Support ที่จะเป็นการสร้าง New S-Curve ใหม่ให้แก่บริษัทของเธอ

โดยธุรกิจนี้จะใช้ชื่อแบรนด์ว่า L&E Beyond ให้บริการ Production ด้านบันเทิงครบวงจร
โดยแบ่งออกเป็น 3 ธุรกิจหลัก

1. บริการขายโคมไฟและอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานระดับโลก เพื่อติดตั้งงาน Entertainment ครบวงจร
เช่น ห้องจัดเลี้ยง, หอประชุม หรือสถานบันเทิง เป็นการใช้ธุรกิจเดิมมาต่อยอดธุรกิจใหม่
เพราะบริษัทมีโรงงานผลิตหลอดไฟ LED เป็นของตัวเอง

2. บริการให้เช่าโคมไฟและอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานระดับโลก
เป็นการต่อยอดจากที่มีสินค้าขายอยู่แล้ว ธุรกิจให้เช่าจึงเป็นอีกตัวเลือกให้แก่ลูกค้า
ด้านคนทำงานการแสดงสดทุกรูปแบบ ทั้ง Concert, ถ่ายรายการ และถ่ายทำ Content ต่าง ๆ

3. บริการด้านสตูดิโอที่เน้นเรื่อง Virtual Technology ที่มีหัวใจคือ “LED Volume” ที่พูดถึงข้างต้น รองรับการถ่ายทำทั้งรูปแบบ Extended Reality (XR) และ Virtual Production (VP)

ที่น่าสนใจคือ ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้ลงทุนจอ LED ในการถ่ายทำ Extended Reality
หรือ XR และประสบความสำเร็จอย่างมาก เมื่อมีบริษัทบันเทิงและธุรกิจอื่น ๆ มาใช้บริการ
เลยเป็นที่มาให้บริษัทกล้าลงทุนจอใหม่อย่าง “LED Volume”
ที่ใหญ่กว่า และมีคุณภาพสูงกว่า รองรับการถ่ายทำ Virtual Production

โดยเจ้าจอ LED Volume มาพร้อมอุปกรณ์และระบบสุดไฮเทคมาตรฐานระดับโลก
มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลด้าน Virtual Production
ที่ไม่ว่าจะถ่ายมิวสิกวิดีโอ, หนังและซีรีส์, งานเปิดตัวสินค้า
สามารถทำได้หมดในสตูดิโอ โดยไม่ต้องออกนอกสถานที่ เป็นการประหยัดต้นทุนและเวลา

เป็นการปฏิวัติวงการ Production บันเทิงเมืองไทย คุณอโรชา ได้ให้นิยามไว้อย่างนั้น

“เมื่อทีมงาน Production ไม่ต้องไปถ่ายทำในสถานที่จริง หลาย ๆ ฉากถ่ายในสตูดิโอ
ทำให้การเดินทางลดน้อยลง และลดการเซตฉากที่วุ่นวาย พอมันสะดวกและง่ายขึ้น
ทีมงานก็มีเวลาเหลือที่จะไปคิดสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด”

อย่างไรก็ตาม Virtual Production ไม่ใช่มาแทนที่การถ่ายทำในระบบเดิม
เมื่อการถ่ายภาพยนตร์และซีรีส์ส่วนใหญ่ ก็ยังถ่ายทำผ่านสถานที่จริงเป็นหลัก
แต่เทคโนโลยีนี้ จะเข้ามาเป็นส่วนสนับสนุนการถ่ายทำบางฉากให้ง่ายและได้ภาพ
จนถึง Content ต่าง ๆ จะมีภาพสวยงามเมื่อออกมาสู่สายตาคนทั่วไป

ถึงแม้เวลานี้คนในแวดวงบันเทิงจะเริ่มรู้จักเทคโนโลยี Virtual Production ผ่านจอ LED Volume
แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่ยังคุ้นชินกับระบบการถ่ายทำแบบเดิม ๆ และยังไม่รู้ว่า
เทคโนโลยีนี้มันดีและตอบโจทย์อย่างไร

เป็นความท้าทายที่คุณอโรชายืนยันว่า เธอจะพยายามอย่างสุดความสามารถ
เพื่อให้การถ่ายทำ Virtual Production เป็นที่ยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมบันเทิงไทย

“เป็นเหตุผลให้เราซื้อจอ LED Volume แบรนด์ AOTO ที่หลายบริษัทบันเทิงระดับโลกใช้กัน
และยังได้รับการยอมรับจาก Video Streaming ระดับโลก ถึงมาตรฐานในการถ่ายทำ เพื่อให้คนในวงการบันเทิงได้สัมผัสว่าเทคโนโลยีนี้ มันเปลี่ยนโลกการทำงานของคุณ”

ความพยายามของคุณอโรชา แน่นอนเป้าหมายแรกคือ การสร้างรายได้
แต่สิ่งที่สำคัญ ไม่แพ้เรื่องรายได้ ก็คือ Passion ที่เธอต้องการยกระดับมาตรฐานวงการบันเทิงไทย

คุณอโรชา เล่าว่า ช่วงหนึ่งชีวิตได้ทำงานด้าน Production ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
สิ่งที่ได้เห็นคือ พี่ ๆ และเพื่อน ๆ ในวงการ มีความสามารถไม่แพ้ชาวต่างชาติ

แต่สิ่งที่มันขาดหายไปคือ อุปกรณ์เทพ ๆ เทคโนโลยีล้ำ ๆ ทำให้มีความเชื่อมาตลอดว่า
หากคนไทยได้ใช้และมีความชำนาญด้านเทคโนโลยีระดับโลกเหล่านี้
งานด้าน Production ในอุตสาหกรรมบันเทิงไทยไม่แพ้ประเทศใด ๆ ในโลกแน่นอน

ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมบันเทิงไทยในยุคนี้ ได้เปิดกว้างกว่าในอดีต
เมื่อผู้ผลิต Content ไม่ได้จำกัดแค่บริษัทยักษ์ใหญ่ แต่ได้เกิดค่ายเพลงเล็ก ๆ
เจ้าของช่อง YouTube จนถึงเอเจนซี และแบรนด์สินค้าที่ต้องการทำโฆษณาบนโลกออนไลน์

ทำให้ทั้งจอ LED Volume, ธุรกิจโคมไฟ และระบบการถ่ายทำภาพและเสียงต่าง ๆ
ที่อยู่ในธุรกิจ Entertainment Support ของบริษัทแห่งนี้
มีเป้าหมายเพื่อช่วยสนับสนุนเหล่าคนทำ Content ทั้งรายเล็กและรายใหญ่สร้างผลงานคุณภาพ

โดยคุณอโรชา หวังในใจลึก ๆ ว่าอุตสาหกรรมบันเทิงไทย
ในอนาคตอันใกล้จะทะยานขึ้นไปสู่ระดับโลก กลายเป็น Soft Power อันทรงพลัง
และสร้างรายได้ให้แก่ประเทศอย่างมหาศาล

และการจะทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงได้ อันดับแรกสุด รากฐานโครงสร้างในอุตสาหกรรม
ต้อง แข็งแกร่ง หนึ่งในนั้นก็คืองานด้าน Production นั่นเอง