
เทรนด์ใหม่จาก นักไลฟ์ตัวท็อปจีน ใช้ “AI สร้างร่างโคลน” มาไลฟ์แทน ทำยอดขาย 250 ล้าน
25 มิ.ย. 2025
เชื่อไหมว่า ทั้งสองคนในภาพนี้ “ไม่ใช่คน” แต่เป็น AI ที่ถูกสร้างให้เหมือนคนจริง ๆ โดยมีต้นแบบมาจาก คุณ Luo Yonghao และ คุณ Xiao Mu สองนักไลฟ์เบอร์ต้น ๆ ของประเทศจีน
ที่น่าสนใจคือ AI ที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบ สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้แบบ Real-Time และยังสามารถอธิบายรายละเอียดของสินค้าได้อย่างชัดเจน ไม่ต่างจากการใช้นักไลฟ์จริง ๆ มาขายของ
แล้วทั้งสองคน สร้าง AI ขึ้นมาได้อย่างไร ?
- คุณ Luo Yonghao และ คุณ Xiao Mu ได้ทดลองสร้าง AI เลียนแบบตัวเองขึ้นมาไลฟ์สดขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของ Baidu ที่ชื่อว่า “Youxuan” นาน 6 ชั่วโมง
ด้วยเครื่องมือ AI ที่มีชื่อว่า “ERNIE” ซึ่งพัฒนาโดย Baidu Inc. บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Google ของประเทศจีน
โดยทั้งคู่ได้แชร์เคล็ดลับเกี่ยวกับการเทรน AI ให้สามารถขายของให้ได้เก่ง ๆ ด้วยการป้อนคลิปวิดีโอต่าง ๆ ตลอดอาชีพการไลฟ์สดของพวกเขากว่า 5 ปี
เพื่อให้ AI สามารถเข้าใจจังหวะการพูด, มุกตลก รวมไปถึงท่าทางต่าง ๆ ของพวกเขาได้ และเอาไปสร้างเป็น Avatar ที่เหมือนตัวจริงให้ได้มากที่สุด
ผลปรากฏว่า หลังจากที่พวกเขาทดลองนำ AI มาไลฟ์สดแทน ไลฟ์ดังกล่าวเพียงไลฟ์เดียว สามารถสร้างสถิติมียอดคนดูกว่า 13 ล้านบัญชี
และมียอด GMV (Gross Merchandise Value) หรือมูลค่ารวมของสินค้าที่สามารถขายได้กว่า 55 ล้านหยวน หรือถ้าตีเป็นเงินไทยราว 250 ล้านบาทเลยทีเดียว
จากเรื่องนี้ ทำให้ทั้งสองคนยอมรับว่า AI สามารถไลฟ์ขายของได้เก่งกว่าตัวพวกเขาเองเสียอีก..
- แล้วทำไมพวกเขาถึงใช้ AI มาไลฟ์แทน ?
การนำ AI มาขายของเองแบบนี้ ถ้าคิดไว ๆ อย่างน้อยก็น่าจะช่วยให้ คนที่ใช้ AI มีระยะเวลาในการขายนานขึ้น
เพราะ AI แบบนี้จะไม่มีวันเหนื่อย ไม่ว่าจะไลฟ์นานแค่ไหน ก็สามารถพูดด้วยน้ำเสียงเดิม พลังงานเท่าเดิม และให้ข้อมูลไม่ผิดพลาด
ซึ่งหมายความว่าคนที่ใช้ AI มาช่วยไลฟ์สดขายของ จะมีโอกาสสร้างรายได้ได้นานกว่าคนที่ไม่ใช้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เทคนิคแบบนี้จะค่อนข้างซับซ้อนและต้องใช้ความรู้เฉพาะทางมากหน่อยก็ตาม
- สำหรับประเทศไทย ก็ใช่ว่าจะไม่มีแบรนด์ไหนเคยเอา AI มาไลฟ์สดเลย
ก่อนหน้านี้ หลายคนก็น่าจะเคยเห็นเคสของแบรนด์ “Evian” แบรนด์น้ำแร่พรีเมียมที่ใช้ AI มาไลฟ์สดแทนคนให้เห็นเหมือนกัน
แต่ AI ที่เอามาไลฟ์สดจะเป็น AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาเอง และไม่ได้มีต้นแบบมาจากคนจริง ๆ เหมือนเคสนี้
โดยในเคสนั้นของ Evian มีอินไซต์ว่า Performance ของการใช้ AI มาไลฟ์สด อาจจะยังสู้ “นักไลฟ์” ที่เป็นคนจริง ๆ ไม่ได้ โดยจะต่ำกว่าคนจริง ๆ ประมาณ 30% ในด้านต่าง ๆ
โดยในเคสนั้นของ Evian มีอินไซต์ว่า Performance ของการใช้ AI มาไลฟ์สด อาจจะยังสู้ “นักไลฟ์” ที่เป็นคนจริง ๆ ไม่ได้ โดยจะต่ำกว่าคนจริง ๆ ประมาณ 30% ในด้านต่าง ๆ
แต่กลับกันก็ทำให้แบรนด์สามารถลดต้นทุนในการไลฟ์ต่อชั่วโมงได้ “ถูกกว่า” การใช้คนไลฟ์จริง ๆ ถึง 90%
ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ จะชอบเอา AI มาไลฟ์สดแทนในช่วงที่เป็น “Non-Peak Time” หรือช่วงเวลาที่กลุ่มเป้าหมายไม่ค่อยซื้อสินค้ามากกว่า
เพราะอย่างน้อยการเลือกใช้ AI ที่มีต้นทุนต่ำมาใช้ไลฟ์สดในช่วงที่ไม่ค่อยมีคนซื้อสินค้า ก็น่าจะเพิ่มยอดขายระหว่างวันได้ ซึ่งก็น่าจะดีกว่าการปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉย ๆ โดยไม่ได้ไลฟ์เลย
สุดท้ายนี้ การที่ AI สามารถทำ Performance ในการขายของได้ดีแบบเคสนี้ ก็เป็นเหมือน Milestone ที่สำคัญมาก ๆ ว่า AI เริ่มสามารถทำงานในพาร์ตของ งานขาย-งานบริการ ได้แล้ว
จากที่ก่อนหน้านี้ใครจะคิดว่า AI จะสามารถมานั่ง “ปิดการขายกับคน” ได้ดีกว่า หรือพอ ๆ กับคนจริง ๆ ได้