สรุปไอเดียการตลาด ของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ในช่วงครึ่งปีแรก ปรับตัวกันอย่างไร ในตลาดทะเลเลือด

สรุปไอเดียการตลาด ของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ในช่วงครึ่งปีแรก ปรับตัวกันอย่างไร ในตลาดทะเลเลือด

29 มิ.ย. 2025
ปี 2568 ยังคงเป็นปีที่ท้าทายอีกปีหนึ่งของธุรกิจร้านอาหาร จากการแข่งขันกันอย่างดุเดือดต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน
บทความนี้ MarketThink จะพาไปส่องตัวอย่างไอเดียของธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ในช่วงครึ่งปีแรกนี้กันว่า มีกลยุทธ์อะไรที่แต่ละแบรนด์งัดออกมาใช้ฟาดฟันคู่ต่อสู้กันบ้าง ?
1. ออกโมเดลธุรกิจใหม่ คล้ายคู่แข่ง
ตัวอย่างเช่น
MK Restaurants แบรนด์ร้านสุกี้ที่ขายอาหารแบบเป็นเซต หันมาให้บริการโมเดลใหม่เป็น “สุกี้บุฟเฟต์” ในราคา 299 บาท ซึ่งเป็นโมเดลที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ และเจาะตลาดกลุ่มแมสมากขึ้น
หรือแม้แต่แบรนด์ Swensen’s ก็ยังจัดแคมเปญทานไอศกรีมแบบบุฟเฟต์ 30 นาที เพื่อหวังกระตุ้นยอดขายเช่นกัน
จนเกิดเป็นกระแสว่า ธุรกิจร้านอาหารกำลังทำสงครามราคากันในโลกความจริง ตามรอยซีรีส์ “สงคราม ส่งด่วน”
_______________
2. เพิ่มเมนูทางเลือกให้หลากหลายมากขึ้น
การเพิ่มเมนูอาหารและเครื่องดื่ม ช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น และเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้เช่นกัน แต่ก็ต้องระวังอย่าให้มีเมนูมากจนเกินไป เพราะลูกค้าจะสับสนและเกิดปรากฏการณ์ “Paradox of Choice” ได้
ตัวอย่างเช่น
ชาตรามือ แบรนด์ชาและเครื่องดื่มยอดนิยม เปิดตัว “ชาไทยไม่ใส่สี”
โดยกระแสชาไทยไม่ใส่สีนี้ มาจากความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับการใส่สีผสมอาหารลงไปในชา และบางประเทศก็มีกฎหมาย ห้ามเติมสีผสมอาหารชื่อ Sunset Yellow FCF เพราะอาจมีอันตรายต่อสุขภาพ
_______________
3. Me Too Marketing
คือ กระแสทำการตลาดตามแบรนด์เจ้าอื่น ๆ หรือ “เธอทำอะไร ฉันขอทำตามด้วย” เป็นกลยุทธ์ที่มีมานานแล้ว โดยมีข้อดีคือ มั่นใจได้ว่า สินค้าจะถูกใจลูกค้าและเจาะตลาดได้
ตัวอย่างเช่น
Café Amazon เปิดตัว “ชาไทยพรีเมียม (Premium Thai Tea) ไม่ใส่สี” โดยวางขายตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ในราคา 60 บาท โดยตัวชาใช้ใบชาอัสสัม จากจังหวัดน่าน มีกลิ่นโทนวานิลลา
การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นหลังจาก ชาตรามือ ประกาศเปิดตัวเมนูชาไทยไม่ใส่สีเพียงไม่นาน
และหลังจากนั้น หลาย ๆ แบรนด์ก็ประกาศว่า แบรนด์ตัวเองก็มีเมนูเหมือนกัน
เช่น KOI Thé ก็ออกมาประกาศว่า เมนู “Thai Tea ชาไทยไม่ใส่สี” ของแบรนด์ KOI Thé มีขายมานานกว่า 5 ปีแล้ว โดยทำมาจาก Ceylon Black Tea ในราคา 95 บาท และ 115 บาท อีกด้วย
_______________
4. จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
การเพิ่มยอดขายที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดก็ยังคงหนีไม่พ้น “การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย” ซึ่งหลาย ๆ แบรนด์ ต่างก็ออกโปรโมชันมาแบบรัว ๆ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามาซื้อมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น
- McDonald’s จัดโปร เฟรนช์ฟรายส์ไซซ์ XXXL ราคา 99 บาท และไซซ์จัมโบลด 50% ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
- KFC จัดโปร ซื้อมันบด 1 ถ้วย แถม 1 ถ้วย ในราคา 49 บาท
_______________
5. ขยายฐานลูกค้าด้วยการแตกแบรนด์ลูกใหม่ ๆ
บางครั้งการเพิ่มเมนูใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากไลน์อาหารของแบรนด์เดิมโดยสิ้นเชิงอาจจะไม่เหมาะสม การแตกแบรนด์ใหม่ออกมา จึงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง
ตัวอย่างเช่น
iberry Group เปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่กับเชฟญี่ปุ่น ชื่อว่า Maison RORU เป็นร้านอาหารที่นำเสนอซูชิแฮนด์โรล (Temaki) โดยมีทั้งแบบ A La Carte, แบบเซต และแบบ Omakase
โดยการแตกแบรนด์นี้ก็เนื่องจาก เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นร้านแรกของแบรนด์ในเครือ และต้องการเจาะตลาดกลุ่ม Premium Mass ที่เป็นคนรักอาหารญี่ปุ่น จึงจำเป็นต้องแตกแบรนด์ร้านอาหารใหม่ออกมา
_______________
6. การขยายสาขาจนเกิด Economies of Scale
กลยุทธ์นี้เหมาะกับธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องการขยายสเกลให้ใหญ่ขึ้น จนถึงจุดหนึ่งที่เรียกว่า “Economies of Scale” หรือการประหยัดต่อขนาด ที่จะทำให้ต้นทุนวัตถุดิบและอื่น ๆ ต่ำลง
ตัวอย่างเช่น
ธุรกิจบุฟเฟต์อย่าง สุกี้ตี๋น้อย ที่นอกจากจะต้องแข่งกันจัดโปรโมชันเพื่อดึงดูดลูกค้าแล้ว ในส่วนหลังบ้านก็ต้องบริหารจัดการให้ต้นทุนธุรกิจต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ธุรกิจยังคงมีกำไร
ซึ่งวิธีหนึ่งก็คือ การขยายสาขาออกไปมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ปริมาณการสั่งซื้อวัตถุดิบแต่ละครั้งเพิ่มสูงขึ้น และได้ราคาซื้อที่ต่ำลงมานั่นเอง
_______________
7. จัดเมนูอาหารให้เหมาะกับการทานแบบคนเดียวมากขึ้น
เทรนด์การอยู่คนเดียวและเป็นโสด กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้ธุรกิจร้านอาหารต่างก็ออกเมนูหรือโปรโมชันใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์กับการทานแบบคนเดียวมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น
- The Pizza Company ออกเมนู “ไบท์” พิซซาขนาดเล็กสำหรับทานคนเดียวตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งก็ประสบความสำเร็จและกลายมาเป็นหนึ่งในเมนูพื้นฐานให้ลูกค้าเลือกสั่งได้มาจนถึงตอนนี้
- ร้านบุฟเฟต์หลาย ๆ ร้าน มีที่นั่งเคาน์เตอร์บาร์สำหรับลูกค้าที่มาทานคนเดียว หรือหลาย ๆ แบรนด์ก็แตกแบรนด์ลูกของตัวเองมาลงเล่นในตลาดนี้กันมากขึ้น เช่น Yakiniku Like และ Hitori Shabu
_______________
8. ให้ความสำคัญกับลูกค้าประจำที่รักแบรนด์
ตอนนี้หลาย ๆ แบรนด์ต่างก็โฟกัสไปที่ลูกค้าประจำมากขึ้น เพราะการรักษาลูกค้าเก่า ๆ ที่เขาชื่นชอบเราเอาไว้ มันง่ายและประหยัดงบการตลาดมากกว่าจะไปควานหาลูกค้าใหม่ ๆ ถึง 25 เท่า
ตัวอย่างของกลยุทธ์นี้ก็คือ การสร้างระบบสมาชิกและสะสมแต้มขึ้นมา เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อสินค้าของแบรนด์อีกซ้ำ ๆ อย่างที่หลาย ๆ แบรนด์ต่างก็ใช้กันอยู่เป็นประจำ
อีกตัวอย่างก็คือ Kindness Marketing ของแบรนด์ร้านอาหารหลายแบรนด์ที่ไม่เก็บเงินลูกค้า ที่กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ขณะเกิดแผ่นดินไหวในช่วงที่ผ่านมา เช่น MAGURO, MO-MO-Paradise, Yayoi
ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและยินดีที่จะกลับไปใช้บริการกับแบรนด์ต่าง ๆ เหล่านี้อย่างแน่นอน
_______________
9. ปรับปรุงการบริการให้ดีมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น Katsu Midori ร้านซูชิสายพานเจ้าดัง ที่ลูกค้าต้องรอหลายร้อยคิวไปจนถึงหลักพันคิว ซึ่งบางครั้งก็ต้องรอนาน 2-3 ชั่วโมง ทำให้ลูกค้าบางคนอาจรอไม่ไหวและหันไปใช้บริการร้านอื่น
ทางร้านจึงแก้ Pain Point นี้ ด้วยการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน “Hungry Hub” โดยไม่จำเป็นต้องมารับบัตรคิวที่หน้าร้านอีก
จากตัวอย่างนี้ ก็น่าจะทำให้ทาง Katsu Midori สามารถบริหารจัดการคิวลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มยอดขายที่อาจหายไประหว่างที่ลูกค้ารอได้อีกด้วย
_______________
10. เพิ่มเวลาขายให้นานขึ้น
ร้านอาหารส่วนใหญ่มักจะเปิดในเวลากลางวันไปจนถึงช่วงค่ำ ๆ และจะขายดิบขายดีในช่วงเวลาที่ผู้คนออกมาหาอาหารรับประทาน
แต่จากอินไซต์ของ LINE MAN Wongnai บอกว่า ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มสามารถเพิ่มยอดขายได้ง่าย ๆ เพียงแค่เพิ่มเวลาขายออกไปให้นานขึ้น เพื่อตอบโจทย์คนทำงานกลางคืนและคนที่หาอาหารมื้อดึกทาน
จากอินไซต์นี้ก็ทำให้ร้านอาหาร Street Food หรือแบรนด์ต่าง ๆ เพิ่มเวลาเปิดให้บริการมากขึ้น และยิ่งร้านที่มีบริการส่งทางดิลิเวอรี ก็ยิ่งมีโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้นไปด้วย
ตัวอย่างแบรนด์เช่น Jungle Juice แบรนด์ร้านน้ำผลไม้ดิลิเวอรี ที่เปิดถึงตี 3 ทำให้มียอดขายแตะหลักล้านบาทต่อเดือน เพราะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้านอนดึก และเป็นช่วงเวลาที่มีคู่แข่งน้อยนั่นเอง
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.