ยูนิลีเวอร์ เผยกลยุทธ์การวัดผลแบรนด์และประสิทธิภาพเพื่อความสำเร็จระยะยาวตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการตลาดแบบบูรณาการในอุตสาหกรรม FMCG

ยูนิลีเวอร์ ผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลกและนวัตกรรมดิจิทัล เผยมุมมองและกลยุทธ์ด้านการวัดผลการตลาดแบบบูรณาการ ชูแนวคิดการผสานการวัดผลทั้งด้านแบรนด์และประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างความสำเร็จระยะยาวให้กับธุรกิจ ในงาน Marketing Oops! Summit 2025 สะท้อนความมุ่งมั่นในการแบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเพื่อร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน

ยูนิลีเวอร์ได้พัฒนาแนวทางการวัดผลแบบบูรณาการซึ่งประกอบด้วย สัญญาณข้อมูลแบบเร็ว (Fast Data Signals) เช่น Reach, Impressions, CTR (Click-Through Rate) และ ROAS (Return on Ad Spend) ที่ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบแคมเปญระหว่างดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสัญญาณข้อมูลแบบช้า (Slow Data Signals) เช่น Brand Impact Studies และ Offline Sales สำหรับการวัดผลกระทบต่อธุรกิจในระยะยาวซึ่งครอบคลุมทั้งก่อน ระหว่าง และหลังแคมเปญ โดยมี Excellence Lab เป็นกลไกสำคัญในการทดสอบแนวคิดอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การตั้งสมมติฐาน ทดสอบในตลาดนำร่อง วัดผล และตัดสินใจขยายผล ปรับปรุง หรือยุติแนวคิด เรียกได้ว่าแนวทางดังกล่าวของยูนิลีเวอร์ช่วยลดความเสี่ยง ประหยัดต้นทุน และสามารถขยายผลไปยังตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคได้อย่างรวดเร็ว

นางสาวนิดารัตน์อุไรเลิศประเสริฐผู้อำนวยการกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดและข้อมูลของผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนและกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “ยูนิลีเวอร์ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Approach) การขยายฐานผู้บริโภคด้วยข้อมูลปฐมภูมิ (1st Party Data) การสร้างสรรค์งานที่มีประสิทธิภาพ และการสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลง เราจึงให้ความสำคัญกับการวัดผลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากทำความเข้าใจวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายทางธุรกิจเพื่อกำหนด Metrics That Matter หรือตัวชี้วัดที่สำคัญจริงๆ สำหรับแต่ละแคมเปญ โดยผสานการวัดผลด้านแบรนด์และด้านประสิทธิภาพเข้าด้วยกันเพื่อให้เห็นภาพรวมของผลกระทบทางธุรกิจ ทำให้เราสามารถปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์พร้อมกับเรียนรู้เพื่อพัฒนาแคมเปญในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น”

นาย Pawara Soh ผู้อำนวยการกลยุทธ์การประเมินผลของผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า “หัวใจสำคัญในการดำเนินงานของยูนิลีเวอร์คือการเข้าใจผู้บริโภคอย่างถ่องแท้ เราจึงมุ่งมั่นผสานข้อมูลและความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ในการทดสอบงานครีเอทีฟก่อนเปิดตัวแคมเปญเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถสื่อสารได้ตรงใจผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในประเทศไทยและระดับภูมิภาค”

ทั้งนี้ ยูนิลีเวอร์ จะยังคงเดินหน้าพัฒนาแนวทางการวัดผลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่ยั่งยืนและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีที่สุด ควบคู่ไปกับการยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศไทยให้แข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืนบนเวทีโลก

###

เกี่ยวกับยูนิลีเวอร์

ยูนิลีเวอร์เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกด้านผลิตภัณฑ์ความงามและการดูแลส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม โดยมียอดขายในกว่า 190 ประเทศและเข้าถึงผู้บริโภค 3.4 พันล้านคนต่อวัน มีพนักงาน 128,000 คน สร้างยอดขายได้ 60.8 พันล้านยูโรในปี 2567  

ตลอดเวลากว่า 90 ปี ที่ยูนิลีเวอร์ประกอบกิจการในประเทศไทย เรามีเป้าหมายที่มุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมและตอบโจทย์ความต้องการให้กับผู้บริโภคทุก ๆ คนอย่างสูงสุด จากการสนับสนุนจากคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง ยูนิลีเวอร์ได้เติบโตอย่างมั่นคงและได้กลายมาเป็นอันดับหนึ่งบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย โดย 99% ของครัวเรือนไทย 25 ล้านครัวเรือนใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา 3 ครั้งต่อวัน ที่สำคัญ ยูนิลีเวอร์มีความภาคภูมิใจที่ได้รับการยกย่องจากยูนิเวอร์ซัมว่าเป็นนายจ้างดีเด่นอันดับ 1 ติดต่อกันถึง 6 ปี สำหรับนักศึกษา และได้รับรางวัลจาก HR Asia ในฐานะหนึ่งในบริษัทที่น่าร่วมงานมากที่สุดในประเทศไทยเป็นเวลา 6 ปีติดต่อกัน (พ.ศ. 2562 - 2567)