
Apple เปิดตัว ประกันแบบใหม่ "AppleCare One" จ่ายรายเดือน 645 บาท เลือกคุ้มครองสินค้าได้ 3 อย่าง
24 ก.ค. 2025
ล่าสุด Apple เพิ่งประกาศเปิดตัวแพ็กเกจประกันสินค้ารูปแบบใหม่ ชื่อว่า “AppleCare One” เป็นแพ็กเกจรายเดือน ซึ่งทดลองที่แรกคือ ในประเทศสหรัฐอเมริกา
เรียกว่าเป็นการขยายประกันแบบใหม่ จากเดิมที่มีแค่เพียง AppleCare+ ที่จะขยายระยะประกันคุ้มครองสินค้าจากเดิม 1 เป็น 2 ปี
แล้วแพ็กเกจ AppleCare One คุ้มครองอะไรบ้าง ?
AppleCare One เป็นสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองเช่นเดียวกันกับ Apple Care+ แต่จ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน ไม่ว่าจะเป็น
- บริการซ่อมแบบไม่จำกัดจำนวน สำหรับอุบัติเหตุ เช่น การทำตกหรือน้ำหกใส่
- บริการด้านแบตเตอรี่
- ที่น่าสนใจคือ AppleCare One ยังขยายความคุ้มครองการโจรกรรมและการสูญหาย ครอบคลุมทั้ง iPhone, iPad และ Apple Watch
โดยถ้าเราเลือกสมัคร AppleCare One เราจะสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ของ Apple มาเข้าร่วมความคุ้มครองได้ 3 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น iPhone, Apple Watch รวมไปถึง Macbook
ซึ่งมีจะค่าบริการรายเดือนเริ่มต้น 19.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน หรือประมาณ 645 บาท
และหากต้องการเพิ่มอุปกรณ์ชิ้นต่อไปสามารถเพิ่มความคุ้มครองได้ ในราคาชิ้นละ 5.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ
หรือประมาณ 193 บาท
หรือประมาณ 193 บาท
แล้วเงื่อนไขการสมัครต้องทำอย่างไรบ้าง ?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ตอนนี้แพ็กเกจ AppleCare One เพิ่งเปิดให้บริการแค่ในประเทศอเมริกาเท่านั้น
ที่น่าสนใจคือ แม้ว่าอุปกรณ์จะอายุเกิน 60 วัน และไม่สามารถสมัคร Apple Care+ ได้แล้ว แต่สำหรับ AppleCare One สามารถนำอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วมาเพิ่มในแผน AppleCare One ได้
ขอแค่เป็นอุปกรณ์ที่มีอายุไม่เกิน 4 ปี และหูฟังต้องไม่เกิน 1 ปี มีสภาพที่ดีและผ่านการตรวจสอบ
แต่ถ้าหากนำเครื่องที่อยู่ในการคุ้มครองของ AppleCare One ไปเทรดอิน (Trade-in) กับ Apple โดยตรง เครื่องใหม่ที่ได้มาก็จะถูกเพิ่มเข้ามาในแผน AppleCare One ให้อัตโนมัติ
สุดท้ายนี้ ถ้าถามว่าแล้วแพ็กเกจ AppleCare One เหมาะกับใคร ?
แพ็กเกจนี้ก็เหมาะกับคนที่ซื้อ AppleCare+ ให้สินค้าต่าง ๆ อยู่แล้ว
โดย Apple คำนวณมาให้ว่า ถ้าเราซื้อ AppleCare+ ให้กับ iPhone, iPad และ Apple Watch เทียบกับซื้อ AppleCare One เป็นรายเดือน
จะพบว่า AppleCare One ช่วยประหยัดเงินได้สูงสุดถึงเดือนละ 11 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 355 บาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม บริการนี้เปิดตัวแค่เฉพาะในสหรัฐอเมริกา
สำหรับใครที่อยากใช้งาน ก็อาจจะต้องรอติดตามกันต่อว่า จะเปิดตัวในไทยเมื่อไร..
สำหรับใครที่อยากใช้งาน ก็อาจจะต้องรอติดตามกันต่อว่า จะเปิดตัวในไทยเมื่อไร..