Haidilao ลุยศึกบุฟเฟต์ เปิดตัว “Hi Dee Shabu” ขายเป็นเซตเริ่ม 199 บาท จ่ายเพิ่ม 69 บาท ได้บาร์บุฟเฟต์

ล่าสุด เฟซบุ๊กของ Central Rama 3 ได้โพสต์ว่าร้าน Haidilao สาขาเซ็นทรัลพระราม 3 ที่ปิดปรับปรุงมาพักใหญ่ ตอนนี้กลับมาเปิดให้บริการแล้ว แต่เป็นแบรนด์ใหม่ชื่อว่า “Hi Dee Shabu”

ไฮไลต์ที่น่าสนใจของ Hi Dee Shabu คือ จะมีการปรับภาพลักษณ์ ของร้านให้ดู “เข้าถึงได้ง่ายขึ้น” ไม่ว่าจะเป็น

- ปรับเมนูรูปแบบใหม่

โดยทางร้านจะขายอาหารในรูปแบบ A La Carte เป็นเซตเมนู เช่น ชุดหมู เริ่มต้นที่ราคา 199 บาท และ ชุดเนื้อ เริ่มต้นที่ราคา 349 บาท

ซึ่งราคานี้ ลูกค้าจะได้น้ำซุปคอมบุ ถ้าอยากได้น้ำซุปอื่นต้องจ่ายเงินเพิ่ม

และถ้าลูกค้าสั่งอาหารเซตแล้ว จะสามารถจ่ายเงินเพิ่มอีก 69 บาทเพื่อตักสลัดบาร์ ที่มีเครื่องดื่ม, ลูกชิ้น, ผัก, ข้าว, น้ำจิ้ม, ผลไม้, ของทอด ไปจนถึงไอศกรีมได้แบบไม่อั้นอีกด้วย

- ปรับขนาดของหม้อน้ำซุปให้เล็กลง

จากเดิมในร้าน Haidilao จะเป็นหม้อใหญ่แบ่งได้ 4 ช่อง เปลี่ยนเป็นขนาดเล็กแบ่งได้ 2 ช่อง มีขนาดพอ ๆ กับร้านสุกี้สายพานนั่นเอง

- ปรับรูปแบบร้านให้มีโซนสำหรับ “นั่งคนทานเดียว” เยอะขึ้น

แต่บรรยากาศร้านโดยรวมก็ยังจะเหมือนกับร้าน Haidilao และโซนสำหรับให้ลูกค้านั่งทำเล็บระหว่างรอก็ยังอยู่

เรื่องนี้น่าสนใจว่า การปรับโมเดลร้านครั้งนี้ของ Haidilao น่าจะเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมของลูกค้า ที่ชอบความคุ้มค่ามากขึ้น

เห็นได้จากร้านอาหารที่ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น สุกี้ตี๋น้อย, ลัคกี้ สุกี้ หรือ แม้แต่ BONUS SUKI ของ MK

โดยถ้าดูจากผลประกอบการของ บริษัท ไฮ้ ดิ เหลา พร็อพไพรเอทเทอร์รี่ (ไทยแลนด์) จำกัด เจ้าของร้าน Haidilao ในประเทศไทย

ปี 2565 รายได้ 1,074 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 1,343 ล้านบาท กำไร 34 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 1,282 ล้านบาท ขาดทุน 137 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าทั้งรายได้และกำไรเริ่มลดลง ดังนั้นการปรับโมเดลร้านตามเทรนด์และพฤติกรรมของลูกค้า น่าจะเป็นท่าที่ Haidilao หยิบมาแก้เกมตรงนี้

สุดท้ายนี้สำหรับคนที่อยากลอง Hi Dee Shabu จะมีเปิดแค่สาขาเดียวคือที่ เซ็นทรัลพระราม 3 ซึ่งก็น่าลุ้นต่อว่า Haidilao จะเอาโมเดลแบบนี้ไปทำตลาดเพิ่มที่ไหนอีก

อ้างอิง :
- https://www.facebook.com/share/p/14SqVyZvCM7/