TCL เปิดตัวสมาร์ททีวีพรีเมียม “C Series QD-Mini LED TV”  ตั้งเป้ายอดขายปี 68 กว่า 3 แสนเครื่อง มาร์เก็ตแชร์ 20% ใน 3 ปี 

TCL เปิดตัวสมาร์ททีวีพรีเมียม “C Series QD-Mini LED TV” ตั้งเป้ายอดขายปี 68 กว่า 3 แสนเครื่อง มาร์เก็ตแชร์ 20% ใน 3 ปี 

20 ส.ค. 2025
TCL สร้างปรากฎการณ์ใหม่ตลาดทีวีไทย เปิดไลน์อัพสมาร์ททีวีพรีเมียมปี 2568  C Series QD-Mini LED TV รวม 3 รุ่นหลัก ได้แก่  C6K, C7K และ C8K ชูเทคโนโลยี QD-Mini LED มอบประสบการณ์ภาพและเสียงระดับไฮเอนด์ ดีไซน์หรูหรา นวัตกรรมเอกสิทธิ์เฉพาะ TCL เสริมแกร่งพันธมิตรกีฬาระดับโลกโอลิมปิก และ ทีมสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล  ชูความได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิต วางเป้าเพิ่มยอดขาย          ปี 2568 กว่า 300,000 เครื่อง ชิงมาร์เก็ตแชร์กลุ่มทีวีจอขนาดใหญ่และตลาดระดับ Mid to Hi-end มากกว่า 20% ภายในปี 2571  
นายเฉลิมชัย รัตนเอม Business Director บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด  ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน แบรนด์ทีวีระดับโลก เปิดเผยว่า ตลาดทีวีไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่สมาร์ททีวีเต็มรูปแบบ ผู้บริโภคหันมารับชมผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมากขึ้น TCL       จึงมุ่งพัฒนานวัตกรรมที่ให้คุณภาพระดับไฮเอนด์ พร้อมขยายการเข้าถึงตลาดกลุ่มจอใหญ่ และ คุณภาพระดับไฮเอนด์ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
TCL เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่านการเปิดตัว สมาร์ททีวีระดับพรีเมียม   C Series QD Mini LED ไลน์อัพปี 2568 โชว์ศักยภาพเทคโนโลยี QD-Mini LED ที่ผสานประสิทธิภาพของ Quantum Dot และ Mini-LED เข้าด้วยกันเพื่อมอบประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับทั้งด้านภาพและเสียงในราคาที่เข้าถึงได้ ประกอบด้วย 3 รุ่นหลักที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน ดังนี้
รุ่น C6K ถือเป็นประตูสู่โลก QD-Mini LED ทีวีระดับ Entry Premium โดดเด่นด้วยหน้าจอ QD-Mini LED ขนาดใหญ่ 55 นิ้ว - 98 นิ้ว โดยขนาด 55 - 75 นิ้ว ใช้หน้าจอแบบ HVA Panel เทคโนโลยีล่าสุดของ TCL และขนาด 85 และ 98 นิ้ว หน้าจอเป็นแบบจอแมต Matte HVA Panel หรือจอแบบด้าน ช่วยลดแสงสะท้อน ไม่มีแสงรบกวน รองรับภาพความละเอียด 4K พร้อมแผง HVA Panel ให้สีดำลึก  คอนทราสต์สูง และระบบเสียง ONKYO 2.1 Hi-Fi ช่วยมอบเสียงคมชัดเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ อีกทั้งยังรองรับการแสดงผลที่อัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz ตอบโจทย์คอเกมและคอบอลที่ต้องการความลื่นไหลไม่สะดุด
รุ่น C7K ยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงสำหรับคอหนังและเกมเมอร์ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Precise Dimming ที่ควบคุมแสงได้ละเอียดสูงสุดถึง 1,568 โซน ให้ความสว่างสูงสุดถึง 3,000 nits    พร้อมระบบประมวลผล AiPQ Pro Processor ที่ปรับภาพให้แม่นยำตามคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ ผสานกับแผง CrystGlow HVA Panel เอกสิทธิ์จาก TCL ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใส และรายละเอียดที่โดดเด่นในทุกๆ ส่วนของภาพ โดยเฉพาะในด้านความลึกของสีดำและความสว่างของสีสัน ขนาดจอ 55 นิ้ว – 85 นิ้ว และระบบเสียงพรีเมียมจาก Bang & Olufsen ที่เสริมมิติเสียงด้วยฟีเจอร์ Beosonic นอกจากนี้ยังรองรับ         รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz และ AMD FreeSync Premium Pro เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหล 
รุ่น C8K ที่สุดของไลน์อัพ ประสบการณ์สมาร์ททีวีระดับพรีเมียม  ศูนย์กลางของ Smart Home ไฮไลท์ความสว่างหน้าจอสูงสุด 5,000 nits ด้วยแผง CrystGlow WHVA เทคโนโลยีหน้าจอที่ดียิ่งกว่านอกจากความคมชัด สีสันสดใสและรายละเอียดที่ดีเยี่ยมแล้ว ยังได้มุมมองที่กว้างยิ่งกว่าอีกด้วย รองรับ Dolby Vision IQ และ HDR10+ พร้อมขับเคลื่อนด้วย AiPQ Pro Processor เพื่อการปรับภาพและเสียงแบบเรียลไทม์ ระบบเสียง Bang & Olufsen พร้อมการปรับแต่งเสียง Beosonic ที่ยกระดับประสบการณ์การฟังที่ดีขึ้น TCL C8K จะมีลำโพงที่ยิงเสียงขึ้นด้านบน(Up-firing Speakers) เพื่อเพิ่มมิติเสียงสำหรับระบบ Dolby Atmos อีกระดับ ดีไซน์ไร้ขอบ ZeroBorder™ ขยายมุมมองเต็มตา ให้ภาพคมชัดลึกทุกพิกเซล     
นอกจากนี้ 3 รุ่นยังมาพร้อม Google TV และการควบคุมอัจฉริยะด้วยเสียงผ่านระบบ AI ที่ช่วยให้ใช้งานง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่มองหาทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์ล้ำยุค และขนาดจอที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่    65นิ้ว - 98 นิ้ว 
ส่วนกลยุทธ์ด้านการตลาด TCL สร้างความแข็งแกร่ง ด้วยการเป็นพันธมิตรกับมหกรรมกีฬาระดับโลกกับโอลิมปิก (Olympic Global Partner) และ พันธมิตรระดับโลกของสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล (Arsenal Global Partner)  เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์เทคโนโลยีระดับพรีเมียมและขยายการรับรู้ในตลาดโลก พร้อมจัดโรดโชว์ในห้างสรรพสินค้า รวมถึงการจัดแคมเปญ “C MORE C ASENAL” ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์จริงผ่านโรดโชว์ในห้างสรรพสินค้า ตัวจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงการตลาดผ่าน      อีคอมเมิร์ซ เพื่อกระตุ้นยอดขาย และต่อยอดความสนใจใน QD-Mini LED โดยมีกระแสตอบรับที่ดี มียอดคำสั่งซื้อ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง 
เทรนด์เทคโนโลยีในอนาคตจะขับเคลื่อนด้วย AI-powered display , ระบบเสียงระดับพรีเมียม , สามารถปรับแสงตามสภาพแวดล้อม (Dolby Vision IQ/HDR10+), การควบคุมผ่าน IoT และ ecosystem เชื่อมต่อสมาร์ทโฮม จอภาพขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น  TCL จึงวางแผนพัฒนาแพลตฟอร์มควอนตัมซูเปอร์คอมพิวติ้ง และ AI Agents เพื่อเพิ่มความชาญฉลาดให้ภาพ เสียง และเชื่อมต่อสมาร์ทโฮม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ได้อย่างครบวงจร
ทั้งนี้ TCL ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกและแบรนด์ทีวีอันดับ 2 ของโลก กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก ด้วยความได้เปรียบจาก เทคโนโลยีจอแสดงผลที่ล้ำสมัย และด้านต้นทุน การผลิต สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ผ่านการเป็นเจ้าของโรงงานผลิตแผงหน้าจอ (CSOT) ระบบการผลิตแบบบูรณาการตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ  สามารถนำเสนอเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง QD-Mini LED ในราคาที่คุ้มค่าภายใต้แนวคิด “พรีเมียมแต่คุ้มค่า” ส่งผลให้ในปี 2567  แบรนด์  TCL         ครองอันดับ 1 ของโลกใน 3 หมวดหมู่ ได้แก่ 
อันดับ 1 ของโลก ทีวีจอใหญ่พิเศษ (85 นิ้วขึ้นไป) ครองส่วนแบ่งตลาด 22.1%
อันดับ 1 ของโลก ทีวี Mini LED ครองส่วนแบ่งตลาด 28.8%
อันดับ 1 ของโลก Google TV โดยครองอันดับต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021–2024          
“จากกลยุทธ์เชิงรุกรวมถึง ความมุ่งพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง TCL ตั้งเป้ายอดขายตั้งเป้าเพิ่มยอดขายทีวีไว้ที่ประมาณ 300,000 เครื่องในปี 2568 หรือเพิ่มขึ้น 10 - 15% และตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาดทีวีในไทยไว้ที่ประมาณ 20% ภายในปี 2571-2575 โดยเน้นกลุ่ม Big screen และ จับตลาดกลุ่ม      Mid to Hi-end เป็นหลัก” เฉลิมชัย กล่าว    
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.