กสิกรไทยยกระดับยุทธศาสตร์ความยั่งยืน เดินหน้าสู่ Issue-based Strategy ตั้งเป้าอัดฉีดเม็ดเงินความยั่งยืน เป็น 4-5 แสนล้านบาท ภายในปี 2573

ธนาคารกสิกรไทยประกาศปรับยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนครั้งสำคัญ จาก ESG-based Strategy (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) ไปสู่ Issue-based Strategy ที่มุ่งจัดการประเด็นสำคัญแบบองค์รวมและเชื่อมโยงทุกมิติที่เกี่ยวข้อง ทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม โดยการปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะช่วยให้ธนาคารตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียได้ตรงจุด และรับมือกับความท้าทายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอนาคต

3 เป้าหมายหลักของยุทธศาสตร์ใหม่

• การเป็นธนาคารที่ทุกคนเชื่อมั่น (Be a Most Trusted Bank) มุ่งเป็นธนาคารที่ทุกคนเชื่อมั่น พร้อมเคียงข้างผู้มีส่วนได้เสียในการก้าวผ่านความท้าทายเพื่อสร้างการเติบโตที่อย่างยั่งยืน
• การเสริมความยืดหยุ่นพร้อมก้าวสู่อนาคตร่วมกัน (Reinforce Future-Ready Resilience) เสริมความยืดหยุ่นให้องค์กรและผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อพร้อมรับมือกับทุกความไม่แน่นอน และร่วมก้าวสู่โอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ในอนาคต
• การสร้างการเติบโตที่ครอบคลุมและทั่วถึง (Enable Inclusive Growth) ส่งมอบพลังให้ผู้มีส่วนได้เสียเข้าถึงศักยภาพสูงสุดผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ครอบคลุมและทั่วถึง

ตัวอย่างการทำงานของธนาคารที่ส่งมอบผลกระทบเชิงบวก | 1. การส่งเสริมศักยภาพเพื่อสร้างความยืดหยุ่นและความแข็งแกร่ง (Strengthening Capabilities to Enhance Resilience)

ธนาคารกสิกรไทยได้เผยตัวอย่างผลลัพธ์การทำงานด้านความยั่งยืนที่สำคัญ ทั้งด้านการเสริมศักยภาพ ส่งมอบสินเชื่อที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับศักยภาพของผู้รับ และโซลูชันทางการเงินที่ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มในหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งการผลักดันการลงทุนที่ยั่งยืน ผ่าน KAsset ด้วยกองทุน ESG Fund และ SRI Fund ที่มี AUM เป็นอันดับหนึ่ง ควบคู่กับการส่งมอบความรู้และการมอบเครื่องมือที่มากกว่าการเงิน ผ่านการดำเนินโครงการให้ความรู้ทางการเงิน ธุรกิจ ความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ขับเคลื่อนโดยหลากหลายหน่วยธุรกิจที่ผสานความยั่งยืนในทุกการทำงาน

ตัวอย่างการทำงานของธนาคารที่ส่งมอบผลกระทบเชิงบวก | 2. การเร่งเครื่องการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อส่งมอบอนาคตที่ยั่งยืน (Accelerating Climate Transition to Secure a Sustainable Future)

การขับเคลื่อนธนาคารบนพันธกิจสู่ Net Zero สร้างผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและจับต้องได้ โดยธนาคารได้เร่งเดินหน้าการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศตาม Net Zero Commitment ทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของธนาคารเองและการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำด้วยการสนับสนุนทั้งด้านการเงิน ความรู้ และเทคโนโลยี ผ่านการปล่อยสินเชื่อและการลงทุน โดยมียอดสะสมของสินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนกว่า 173,231 ล้านบาท (ณ สิงหาคม 2568) ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 2.74 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ทั้งนี้ ธนาคารยังได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการสนับสนุนสินเชื่อและการลงทุนด้านความยั่งยืนเป็น 4–5 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 (ค.ศ.2030) เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมพัฒนานวัตกรรม Beyond Banking Solution และตั้งเป้าเป็น “The Most Comprehensive Climate Solution Provider – ผู้ให้บริการโซลูชันด้านสภาพภูมิอากาศที่ครอบคลุมที่สุด”

นายจงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่นี้ ธนาคารจะสามารถขับเคลื่อนการเติบโตควบคู่กับการผสานมิติความยั่งยืนได้อย่างกลมกลืนในทุกการทำงาน พร้อมสร้างผลกระทบเชิงบวกที่วัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งต่อผู้มีส่วนได้เสียและต่อสังคมโดยรวม โดยเน้นย้ำว่าทุกพันธกิจที่ธนาคารขับเคลื่อนต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในระบบนิเวศ เพื่อสร้างรากฐานที่ยืดหยุ่น แข็งแกร่ง และมีคุณภาพให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างสมดุล เพื่อให้ทุกชีวิตและทุกธุรกิจเดินหน้าผ่านพ้นทุกความท้าทายไปด้วยกัน เติบโตต่อไปได้อีกอย่างมั่นคงและยั่งยืน