NT cyfence เปิดตัว “CyberXpert Center” ปั้นนักรบดิจิทัล สู้ภัยไซเบอร์ยุค AI

ทุกวันนี้ การโจมตีทางไซเบอร์ ไม่ได้เป็นแค่ปัญหาขององค์กรใหญ่ แต่กำลังกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคนในโลกออนไลน์ 

จากรายงานของ Check Point Research พบว่า ปี 2568 องค์กรไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์เฉลี่ย 3,180 ครั้งต่อสัปดาห์ต่อองค์กร มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 70% 

ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทาย ในการรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในโลกดิจิทัลที่เชื่อมโยงกันทุกวินาที

ที่น่ากังวลกว่านั้น คือ ภัยไซเบอร์ทุกวันนี้ มีรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น จากความก้าวล้ำของเทคโนโลยี 

โดยเฉพาะการเข้ามาของ AI ที่ด้านหนึ่งเข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถตรวจจับ วิเคราะห์ และป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ได้ดีขึ้น

แต่ในทางกลับกัน AI ก็ไม่ต่างจากตัวช่วยที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างอีเมลฟิชชิง หรือมัลแวร์ ที่ซ่อนตัวได้อย่างแนบเนียนจนแทบตรวจจับไม่ได้ 

เมื่อ AI เปรียบเสมือนดาบสองคม ที่ทำให้ภัยไซเบอร์ซับซ้อนเกินกว่าเครื่องมือเดิม ๆ จะรับมือไหว สิ่งสำคัญที่สุดในสมรภูมินี้ จึงไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือการพัฒนา “คน” ด้วยการติดอาวุธความรู้และทักษะ ให้พร้อมรับมือ​กับการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา 

คำถามคือ การจะพัฒนา “คน” เป็นนักรบดิจิทัล ต้องทำอย่างไร ?
MarketThink ชวนไปหาคำตอบกับ คุณกัณณิกา วรคามิน ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยไซเบอร์ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)

คุณกัณณิกา ฉายภาพให้เห็นว่า ในขณะที่ตลาดแรงงานทั่วโลกกำลังถูกสั่นสะเทือนจากคลื่น AI แต่หากโฟกัสที่วงการ Cybersecurity กลับพบว่า ทั่วโลกกำลังขาดแคลนบุคลากรด้านนี้สูงถึง 4.8 ล้านตำแหน่ง และเฉพาะในประเทศไทย เราขาดแคลน “คนทำงานจริง” หลายหมื่นตำแหน่ง 

โดยเฉพาะสายงานสำคัญอย่าง ศูนย์เฝ้าระวังภัยไซเบอร์ (SOC), การรับมือเหตุการณ์ (Incident Response) และ Cloud Security

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลกว่าตัวเลขการขาดแคลน คือ Mindset ขององค์กรจำนวนไม่น้อย ที่ยังมองว่า Cybersecurity เป็นต้นทุน (Cost) ไม่ใช่การลงทุน (Investment) ทำให้ขาดการวางแผนระยะยาว จนอาจกลายเป็นช่องโหว่ที่สร้างความเสียหายมหาศาล

ด้วยประสบการณ์กว่า 17 ปีของ NT cyfence ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษา และวางระบบความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับองค์กรชั้นนำ และผ่านการรับมือกับการโจมตีจริงมาแล้วหลายพันเคส 

คุณกัณณิกา มองว่า ถึงเวลาแล้วที่ NT cyfence จะขยับบทบาทจาก “ผู้ให้บริการ” สู่การเป็น “ผู้สร้างบุคลากรคุณภาพ” เพื่อวางรากฐาน Digital Trust ให้กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว

ด้วยการก่อตั้ง “CyberXpert Center” ศูนย์กลางการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เพราะเชื่อว่า “เทคโนโลยีจะทรงพลังที่สุด ก็ต่อเมื่ออยู่ในมือของบุคลากรที่มีศักยภาพอย่างแท้จริง”

อย่างไรก็ตาม การจะวางรากฐานเพื่อสร้าง “บุคลากรคุณภาพ” นั้นเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อน CyberXpert Center จึงตระหนักดีว่าภารกิจนี้ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการขับเคลื่อนเพียงลำพัง

เราจึงมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ทั้ง สมาคมส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์ (CIPAT) และเครือข่ายสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ

ได้แก่ เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เพื่อร่วมกันออกแบบหลักสูตรและถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เข้มข้นและตรงจุดที่สุด

เมื่อถามถึงจุดเด่นที่ทำให้หลักสูตรของ CyberXpert Center แตกต่าง คุณกัณณิกาได้ฉายภาพให้เห็นถึงหัวใจสำคัญว่า “เราออกแบบหลักสูตรแบบ Demand-Driven โดยตั้งต้นจากความต้องการของตลาดแรงงานเป็นหลัก” มุ่งเน้นการผลิตบุคลากรในสายงานที่กำลังขาดแคลน แทนการยึดติดกับกรอบทฤษฎีเดิม ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น “จุดแข็งของเราคือ การเปลี่ยนประสบการณ์ให้เป็นบทเรียน โดยนำกรณีศึกษาจริง (Real-World Scenarios) จากประสบการณ์อันยาวนานของ NT cyfence มาถ่ายทอด เพื่อให้ผู้เรียนได้สัมผัสสถานการณ์ที่หลากหลายและครบวงจร 

ตั้งแต่การรับมือการโจมตี การป้องกัน ไปจนถึงการกู้คืนระบบ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้เรียนจะเข้าใจภาพรวมของภัยไซเบอร์อย่างถ่องแท้และนำไปใช้งานได้จริง” คุณกัณณิกากล่าว

สำหรับรูปแบบการฝึกอบรม คุณกัณณิกา กล่าวว่า นอกจากจะมี หลักสูตรอบรมเข้มข้น (Training Course) แล้ว ยังมีการร่วมเป็น Guest Speaker เพื่อบรรยายให้ความรู้ด้าน Cybersecurity และแบ่งปันประสบการณ์การทำงานด้าน Cybersecurity กับหน่วยงานที่เป็นพันธมิตร

รวมถึงเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการ Cybersecurity Operations Center (CSOC) ของ NT cyfence ซึ่งเป็นศูนย์ที่เฝ้าระวังภัยไซเบอร์แบบเรียลไทม์ ตลอด 24/7

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ CyberXpert Center คุณกัณณิกา มองว่า จะเป็นกลุ่มนิสิต นักศึกษา ตลอดจนหน่วยงาน องค์กร ที่ต้องการเพิ่มทักษะให้กับพนักงาน ที่ปฏิบัติหน้าที่ Security Analyst รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจในสายงานอาชีพด้าน Cybersecurity

“เรามองว่าปัญหา Cybersecurity ไม่ควรเป็นแค่หน้าที่ของฝ่ายไอที แต่น่าจะกลายเป็นวัฒนธรรมขององค์กร เพราะสุดท้าย ความมั่นคงทางไซเบอร์ไม่ได้เกิดจากเครื่องมือ แต่เกิดจากความตระหนักรู้ของทุกคน”

ทั้งนี้ คุณกัณณิกา เชื่อว่า CyberXpert Center จะสร้างแรงกระเพื่อมเชิงบวกใน 3 มิติ ได้แก่

- ระดับบุคคล สร้างอาชีพที่มั่นคงและเป็นที่ต้องการสูง

- ระดับองค์กร มีทีมที่แข็งแกร่งพร้อมลดความเสียหายทางธุรกิจ

- ระดับประเทศ ยกระดับ Digital Resilience ให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางความมั่นคงทางไซเบอร์ของภูมิภาค และสร้าง Digital Trust ให้เกิดขึ้นในสังคม

“ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า Cybersecurity จะไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่จะเป็นเรื่องของ ความไว้วางใจ (Trust) ระหว่างคนกับระบบ.. เพราะถ้าระบบดีแค่ไหนแต่คนไม่กล้าใช้ ก็ไร้ประโยชน์” คุณกัณณิกา กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ ศูนย์ CyberXpert Center จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ธันวาคม 2568
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.cyfence.com และช่องทาง Facebook, YouTube : NT cyfence