4 เดือนแรก “เวียดนาม” ดึงการลงทุนจากต่างชาติได้ 3.9 แสนล้านบาท ซึ่งไทยลงทุนเป็นอันดับ 2

4 เดือนแรก “เวียดนาม” ดึงการลงทุนจากต่างชาติได้ 3.9 แสนล้านบาท ซึ่งไทยลงทุนเป็นอันดับ 2

9 มิ.ย. 2020
“เวียดนาม” เป็นประเทศที่มาแรงที่สุดในกลุ่ม CLMV
แบรนด์ดังต่างๆ มีการย้ายฐานการผลิตไปยังเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็น Apple ซึ่งย้ายฐานการผลิต AirPods บางส่วนจากจีนมายังเวียดนาม คิดเป็น 30% ของกำลังการผลิตทั้งหมดหรือประมาณ 3 - 4 ล้านชิ้น
เพราะต้องการลดความเสี่ยงเรื่องห่วงโซ่การผลิต ที่เกิดจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
Samsung ได้วางแผนย้ายสายการผลิตสมาร์ตโฟนบางรุ่นไปยังเวียดนาม
และล่าสุด Panasonic ย้ายฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มเครื่องซักผ้าและตู้เย็นจากประเทศไทยไปเวียดนาม
ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อมีการย้ายฐานการผลิตเหล่านี้มายังเวียดนาม
ย่อมส่งผลต่อการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมควบคู่กันไปด้วย
ตามแผนยุทธศาสตร์เปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลแห่งชาติ จนถึงปี 2025 และวิสัยทัศน์สู่ปี 2030 ของเวียดนาม ที่ตั้งเป้าว่าเวียดนามจะเป็นหนึ่งใน 35 ประเทศแรกของดัชนีนวัตกรรมโลก (GII) ภายในปี 2025
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า
ได้รับข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย ซึ่งรายงานว่า
ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2020 ประเทศเวียดนามได้ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมูลค่า 387,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นกว่า 980 โครงการ
ซึ่งประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 2 จาก 93 ประเทศที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม
โดยระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 20 เมษายน 2563 บริษัทไทยเข้าไปลงทุนในเวียดนามมูลค่า 45,700 ล้านบาท
แบ่งเป็นโครงการใหม่จำนวน 9 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท
โครงการที่เพิ่มมูลค่าการลงทุนจำนวน 3 โครงการ มูลค่า 43,640 ล้านบาท
และโครงการที่นักลงทุนไทยซื้อหุ้นจากบริษัทเวียดนามจำนวน 56 โครงการ มูลค่า 1,360 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าสินค้าจากไทยที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน, คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ, ยานพาหนะ (รถยนต์), เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือและส่วนประกอบ, เม็ดพลาสติก
“จากภาพรวมของการที่เวียดนามมีโครงการลงทุนจากต่างชาติมากขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปอสังหาริมทรัพย์ การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า
ประกอบกับนโยบายการส่งเสริมด้านดิจิทัลและนวัตกรรม
โดยเฉพาะการย้ายฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติจากจีนมายังเวียดนามนั้น
ทำให้เวียดนามมีความต้องการสำหรับสินค้าวัตถุดิบ เพื่อใช้ในการผลิตและการก่อสร้างมากขึ้น
จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พลาสติก หรือแม้แต่กลุ่มที่พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ของเวียดนาม” นายสมเด็จ กล่าว
ทั้งนี้ 5 เหตุผลหลักๆ ที่ส่งเสริมให้เวียดนามโดดเด่น ได้แก่
-สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่ทำให้ธุรกิจใหญ่ๆ ของโลกหลายบริษัทย้ายฐานการผลิตจากจีนมาเวียดนาม เพื่อลดความเสี่ยง
-การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำได้ดีกว่าหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเดียวกัน
-มีแรงงานจำนวนมากและค่าแรงต่ำ ประชากรกว่า 97 ล้านคนของเวียดนามส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน
-โครงสร้างพื้นฐานทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และระบบคลังสินค้าค่อนข้างดี
โดยเฉพาะการเตรียมสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ของสนามบินนานาชาติเติ่นเซินเญิต ที่มีพื้นที่ใช้สอยราว 100,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 20 ล้านคนต่อปี
-มีนโยบายสนับสนุนให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ อาทิ การให้สิทธิทางภาษีต่างๆ แก่นักลงทุนชาวต่างชาติ
อีกทั้งเวียดนามกำลังจะเป็นประเทศที่สองของสมาคมอาเซียน ที่ทำข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป EVFTA ซึ่งช่วยลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปลงถึง 99%
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.