จากคนถีบสามล้อ สู่อาณาจักร นิ่มซี่เส็ง ขนส่งพัสดุ 1,000 ล้าน

จากคนถีบสามล้อ สู่อาณาจักร นิ่มซี่เส็ง ขนส่งพัสดุ 1,000 ล้าน

11 พ.ย. 2020
“ทำๆ เก็บๆ ถ้าถังคุณก้นไม่รั่ว วันหนึ่งน้ำมันก็เต็ม”
นี่คือแนวคิดของ คุณอุทัต สุวิทย์ศักดานนท์ ที่ครั้งหนึ่งชีวิตเคยติดลบ
ถูกโชคชะตากลั่นแกล้งจนต้อง ขับสามล้อรับจ้างหาเลี้ยงชีวิต
แต่รู้หรือไม่ ณ วันนี้ เขาได้กลายเป็นเจ้าของธุรกิจขนส่งครบวงจรรายใหญ่สุดในภาคเหนือ
ที่มีบริษัทในเครืออยู่ในมือมากมาย โดยแบรนด์หนึ่งที่เรารู้จักกันดีก็คือ “นิ่มเอ็กซ์เพรส”
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปปี พ.ศ. 2511
ครอบครัวของคุณอุทัต ประกอบอาชีพขายผลไม้ในตลาดวโรรส
โดยที่ฐานะทางบ้านของคุณอุทัต ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเกิดไฟไหม้ในตลาดวโรรส
ทำให้บ้านและร้านค้าที่ใช้เป็นที่ทำมาหากินถูกเปลวไฟทำลายในพริบตา
และเหลือไว้เพียง รถสามล้อถีบเก่าๆ แค่คันเดียว
ด้วยความที่คุณอุทัต เป็นลูกชายคนโต
อีกทั้งต้องเสียคุณพ่อตั้งแต่เด็ก
ทำให้ต้องตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน
เพื่อมาถีบสามล้อขนส่งทุกอย่างแล้วแต่ลูกค้าจะจ้าง
“รายได้ตอนนั้น 8 บาทต่อวัน แล้วผมต้องเก็บออมไว้ 4 บาท เพื่อที่จะได้ซื้อรถบรรทุก”
จนในที่สุดความฝันก็เป็นจริง
คุณอุทัต สามารถเก็บเงิน จนสามารถซื้อรถบรรทุกขนาดใหญ่เป็นของตัวเอง
พร้อมกับรับส่งผัก ผลไม้ และของสด จากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ โดยใช้เวลา 8-9 ชั่วโมง
และนี่ก็คือ “จุดเปลี่ยน” เมื่อเขาก็สังเกตเห็นว่า
มีพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเลือกขนส่งทางรถไฟ ซึ่งใช้เวลากว่า 2 วัน กว่าสินค้าจะถึงจุดหมาย
8-9 ชั่วโมงกับเวลา 2 วัน ช่างเป็นช่องว่างเวลาที่ห่างไกลกันเหลือเกิน
และได้กลายเป็น Blue Ocean ที่คุณอุทัต มองเห็นในตอนนั้น
เพราะการส่งของสด หากใช้เวลานาน สินค้าอาจเกิดกลิ่นและไม่คงความสดใหม่เหมือนเดิม
พอเป็นแบบนี้คุณอุทัต ก็เลือกจะเพิ่มจุดรับส่งสินค้าระหว่างเส้นทางมากขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้ คือจำนวนลูกค้าต่อเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
จากเดิมการขนส่งสินค้าในเส้นทาง กรุงเทพ-เชียงใหม่ มีลูกค้าแค่ 1-2 รายต่อ 1 เที่ยว ก็เพิ่มมาเป็น 3-4 รายต่อเที่ยว
เมื่อการวิ่งรถ 1 เที่ยว ต้นทุนน้ำมันและเวลาเท่าเดิม แต่ได้รายได้และกำไรเพิ่มมากขึ้น
คุณอุทัต จึงตัดสินใจร่วมทุนกับน้องชายอีก 2 คน เพื่อเปิดบริษัทสำหรับการขนส่ง "นิ่มซี่เส็ง" ในปี พ.ศ. 2514
เมื่อเปิดบริษัท ก็ไม่ได้จำกัดแค่ส่งผักผลไม้และของสดในตลาดอย่างเดียว
แต่หันมารับขนส่งสินค้าอื่นๆ อย่างจริงจัง พร้อมกับเพิ่มศูนย์กระจายสินค้า
เพื่อรองรับจำนวนสินค้าที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ
พอเป็นแบบนี้ก็ทำให้คนทั่วไปที่มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ เสนอตัวขอนำรถเข้ามาวิ่งอยู่ในนามของบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีรถบรรทุกกว่า 500 คัน มีคนขับรถ 1,000 คน และให้บริการขนส่งครอบคลุมทุกจังหวัดในภาคเหนือ
เพียงแต่.. ส่วนใหญ่ลูกค้าของบริษัทจะเป็นกลุ่มลูกค้า B2B (ผู้ประกอบการส่งถึงผู้ประกอบการ) เป็นหลัก ที่นิยมขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และจำนวนมาก อีกทั้งพื้นที่ก็ยังจำกัดแค่ในภาคเหนือกับกรุงเทพฯ
หากต้องการรายได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิม
นั่นหมายถึงต้องทำให้บริการขนส่ง เข้าถึงลูกค้าคนทั่วไป
เลยเป็นที่มาให้เมื่อ 10 ปีที่แล้วคุณอุทัต และน้องชายอีก 2 คนตัดสินใจเปิดบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า
“Nim Express” ซึ่งเป็นการขนส่งเน้นพัสดุที่มีขนาดใหญ่ ไม่จำกัดพื้นที่การให้บริการ และเน้นส่งด่วนเกือบทั่วประเทศ
โดยผลประกอบการปัจจุบัน ของทั้ง 2 บริษัท ที่คุณอุทัต ก่อตั้งขึ้น
ปี พ.ศ. 2562 บริษัท บริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง 1988 จำกัด
มีรายได้ 853 ล้านบาท
ปี พ.ศ. 2562 บริษัท บริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส จำกัด
มีรายได้ 1,050 ล้านบาท
ที่น่าสนใจ.. คุณอุทัตและครอบครัวยังขยายธุรกิจขนส่งแบบครบวงจร
ที่มีอีกหลายบริษัทในเครือ เช่น นิ่มซี่เส็งคลังสินค้า จำกัด, นิ่มซี่เส็งห้องเย็น จำกัด
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ อีกมาก
ต้องบอกว่าเส้นทางชีวิตของผู้ชายคนนี้ น่าสนใจไม่น้อย
เพราะใครจะคิดว่า จากชีวิตที่อยู่ในครอบครัวที่พอกิน พอใช้
วันหนึ่งต้องดำดิ่งสู่จุดต่ำสุดของชีวิตมีรายได้แค่วันละ 8 บาท
บางคนอาจเลือกยอมแพ้ แล้วปล่อยให้โชคชะตาเป็นผู้ขีดเขียนชีวิตตัวเอง
แต่คุณอุทัต และครอบครัวกลับเชื่อว่า จุดเริ่มต้นชีวิตจะต่ำสุดแค่ไหน ไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่า ชีวิตเราพยายามมากแค่ไหน เพื่อจะก้าวไปสู่ความสำเร็จ
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.