รวม 5 เคล็ดลับช่วยเพิ่มยอดขายช่วงเทศกาลวันหยุด สำหรับเจ้าของธุรกิจ

รวม 5 เคล็ดลับช่วยเพิ่มยอดขายช่วงเทศกาลวันหยุด สำหรับเจ้าของธุรกิจ

3 ธ.ค. 2020
ช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาว เป็นช่วงเวลาที่ใคร ๆ ต่างก็ไปพักผ่อน
บางธุรกิจตัดสินใจหยุดทำการตลาดในช่วงนี้ เพราะคิดว่าไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
แต่ความจริงแล้วนักการตลาดสามารถวางแผนใช้ช่วงเวลาที่มีค่านี้ เป็นโอกาสที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ตาม
การสำรวจของวีซ่า (The Visa Back to Business Study, Holiday Edition) ได้เปิดเผยข้อมูลว่า
ผู้บริโภคยังคงมีพฤติกรรมที่จะจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลวันหยุด โดย 88% ของผู้ทำแบบสำรวจ
มีการวางแผนที่จะซื้อและมอบของขวัญให้กันในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
อีกทั้งธุรกิจขนาดเล็ก 60% กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาได้เริ่มเตรียมพร้อมวางแผนทำการตลาดสำหรับเทศกาลวันหยุดยาวที่จะถึงนี้ เช่น การปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ, การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล, หรือแม้กระทั่งการเปิดให้บริการนานขึ้น
ซึ่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้พฤติกรรมการช้อปปิ้งของคนทั่วโลกเปลี่ยนไป
หรือที่เรียกว่า “New Normal” และยังเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิด 5 เทรนด์ใหม่ อ้างอิงจากผลวิจัยของวีซ่า
ซึ่งเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก สามารถนำเทรนด์เหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเอง เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการสร้างยอดขายในเทศกาลวันหยุดได้
โดย 5 เทรนด์ ประกอบไปด้วย
1) ช้อปออนไลน์มาแรงแต่หน้าร้านก็ยังสำคัญ
การสำรวจของวีซ่า เกี่ยวกับการทำธุรกิจในช่วงเทศกาลวันหยุด แสดงให้เห็นว่า 59% ของผู้บริโภคที่ใช้จ่ายออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดหนักของโควิด-19 จะยังคงเลือกใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์อยู่
และมีนักช้อปอีกไม่น้อยที่ยังคงชื่นชอบที่จะซื้อสินค้าจากหน้าร้าน เพราะ 48% ของผู้บริโภคยังคงวางแผน
ที่จะออกไปช้อปปิ้งในห้างร้านตามปกติ เห็นได้จากพฤติกรรมคนไทยที่หลังจากเกิดวิกฤติ
โควิด-19 คนก็กลับมาทานข้าวนอกบ้าน เดินช้อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้ากันอย่างคึกคัก
โดยวีซ่า เชื่อว่า สิ่งสำคัญสำหรับร้านค้าไม่ว่าจะเป็นร้านค้าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ควรที่จะดำเนินธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างออนไลน์และการมีหน้าร้าน (Omnichannel)
เพราะออนไลน์ช่วยทำให้การเข้าถึงสินค้าง่ายมากขึ้น แต่การมีหน้าร้านช่วยสร้างความเชื่อใจ (Trust) และเติบเต็มประสบการณ์ที่ดีในการช้อปปิ้งให้มากขึ้น
2) โซเชียล คอมเมิร์ซ คือพื้นฐานที่ทุกธุรกิจต้องมี
เนื่องจากโซเชียล คอมเมิร์ซเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมมากทั้งในเมืองไทยและเอเชีย กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดด โดยโซเชียล คอมเมิร์ซทำหน้าที่เป็นตัวกลาง เชื่อมต่อให้เกิดการพูดคุยกันทางออนไลน์ ไปพร้อมๆ กับการซื้อขาย
มีการคาดการณ์ว่ามากกว่า 10% ของการสั่งซื้อจากโทรศัพท์มือถือในช่วงเทศกาลวันหยุด จะเกิดการซื้อขายผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซ
โดย 66% ของกลุ่มคน GEN Z พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาเคยซื้อสินค้าบนโซเชียลในช่วงการแพร่ระบาดที่ผ่านมา
และมากกว่าหนึ่งในสื่อของธุรกิจขนาดเล็ก 28% ได้เคยทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่
การเกิดขึ้นของโควิด-19 จึงส่งผลให้พฤติกรรมการช้อปปิ้งของคนไทย เสพติดการซื้อของออนไลน์มากขึ้น ในทุกช่วงเวลา แม้กระทั่งวันหยุดก็ตาม
3) การชำระเงินแบบไร้สัมผัสคือเทรนด์ใหม่
ผลสำรวจของวีซ่า ระบุว่า 78% ของผู้บริโภคได้ปรับเปลี่ยนวิธีการชำระเงิน โดยหันมาใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัล และพึ่งพาเทคโนโลยีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless) มากขึ้น เพราะเป็นช่องทางที่ปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้มากกว่า
ในช่วงโควิด-19 การเติบโตของการใช้จ่ายแบบไร้สัมผัสได้เกิดขึ้นทั่วโลก เพราะความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และเป็นรูปแบบการชำระเงินที่ลูกค้าเลือกใช้มากกว่าวิธีการเดิมๆ
ดังนั้นธุรกิจขนาดเล็ก ควรให้ความสำคัญกับระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัสมากขึ้น
เพราะตัวเลขการใช้จ่ายแบบไร้สัมผัสในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในประเทศไทยได้มีการ “แตะเพื่อจ่าย” ผ่านบัตรวีซ่าคอนแทคเลสมากกว่า 2 ล้านครั้งในหนึ่งเดือน อีกทั้ง สองในสามของผู้บริโภคทั่วโลก คาดว่าจะใช้บริการของธุรกิจที่มีการจ่ายผ่านบัตรคอนแทคเลสมากกว่าวิธีการชำระเงินแบบเดิม
4) บัตรของขวัญและบัตรกำนัลช่วยเพิ่มยอดขายได้
บัตรของขวัญหรือบัตรกำนัลเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาด ที่ช่วยกระตุ้นให้คนเกิดการจับจ่ายซื้อของมากขึ้น
ซึ่งผลสำรวจของวีซ่า ได้คาดการณ์ว่าผู้บริโภคจะเลือกใช้บัตรของขวัญในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น 32% เทียบกับปีที่ผ่านมา ตามมาด้วยบัตรชนิดอื่นๆ
ดังนั้นร้านค้าควรวางแผน คิดแคมเปญที่มีการใช้บัตรของขวัญหรือบัตรกำนัลร่วมด้วย เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ามาใช้บริการทั้งในออนไลน์และหน้าร้าน
5) ปลอดภัยแต่ยังต้องดีต่อใจ
ระบบความปลอดภัยในโซเชียล คอมเมิร์ซ มีความสำคัญมากในยุคนี้ เพราะอาจเกิดการโจรกรรมทางข้อมูลได้ รวมถึงระบบการชำระเงินก็ต้องมีความปลอดภัยสูง
ดังนั้นร้านค้าจำเป็นต้องมีวิธีการป้องกันในเรื่องความปลอดภัย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาสมดุลไม่ทำให้ประสบการณ์การการช้อปปิ้งหรือการใช้จ่ายของลูกค้าสะดุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลวันหยุดที่คาดว่าจะมีการค้าขายมากกว่าปกติ
ซึ่งทางแก้ปัญหาก็คือ การใช้เครื่องมือตรวจจับการทุจริต โดยสามารถปรึกษากับธนาคารผู้ให้บริการทางการชำระเงินของคุณ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นที่มีต่อลูกค้าของคุณได้
จาก 5 เทรนด์ที่ว่านี้ก็เหมือนเคล็ดลับที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสร้างยอดขาย สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
ซึ่งการทำการตลาดในช่วงเทศกาลวันหยุดมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น
-ทำให้ผู้บริโภคยังคงจดจำแบรนด์ได้
-ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับทุกช่วงเวลา
-ช่วยกระตุ้นยอดขาย
-เลือกใช้กลยุทธ์ได้หลากหลายตามงบประมาณที่มี เช่น เปิดตัวสินค้าใหม่, จัดโปรโมชันลดราคา, ทำแคมเปญบัตรของขวัญหรือบัตรกำนัล เป็นต้น
สรุปแล้ววิกฤติโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมการช้อปปิ้งและการใช้จ่ายของคนไทยซับซ้อนมากขึ้น แต่ถ้าร้านค้าไม่ว่าจะเป็นร้านค้าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ มองว่าวิกฤตินี้คือโอกาส และวางตัวเองให้มีความยืดหยุ่น
พร้อมปรับตัวกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติแบบไหน เราก็สามารถรับมือกับมันได้อย่างแน่นอน..
Tag:VISA
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.