Apple ทำรายได้โต 21% ในไตรมาสล่าสุด ทุบสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์

Apple ทำรายได้โต 21% ในไตรมาสล่าสุด ทุบสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์

28 ม.ค. 2021
Apple ประกาศผลประกอบไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 (ต.ค. - ธ.ค. 2020)
มีรายได้รวม 3,343,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ซึ่งเหนือกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3,098,400 ล้านบาท
และนับเป็นรายได้รายไตรมาส ที่ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลของ Apple อีกด้วย
โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น
รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ 2,870,340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%
รายได้ค่าบริการ 472,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24%
ทั้งนี้ รายได้ค่าบริการ ก็จะมาจาก AppleCare, Apple Music, Apple TV+, iCloud, App Store, Apple Pay และ Apple Search Ads เป็นต้น
และบริษัทมีกำไร 862,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29%
แต่ถ้าดูรายละเอียดในส่วนเฉพาะผลิตภัณฑ์ของ Apple จะมีรายได้จาก
iPhone 1,967,910 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%
Mac 260,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%
iPad 253,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41%
Wearables (เช่น AirPods และ Apple Watch) 389,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30%
จะเห็นว่ายอดขายทุกหมวดผลิตภัณฑ์ของ Apple เติบโตเป็นเลขสองหลัก
และทุกหมวด (ยกเว้น Mac) ทำยอดขายได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ซึ่งสาเหตุที่ผลประกอบการของ Apple เติบโตได้อย่างโดดเด่น มีหลายปัจจัย อาทิ
-กระแสตอบรับที่ดีของตระกูล iPhone 12 โดยเฉพาะ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ที่แทบจะขาดตลาดในช่วงเวลาหนึ่ง
-การทำงานที่บ้าน และเรียนออนไลน์ ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ Mac และ iPad เพิ่มสูงขึ้น
-การเปิตตัวผลิตภัณฑ์ Mac รุ่นใหม่ ที่มากับชิป M1 ของ Apple เอง ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี
-การเติบโตของยอดขายในจีนอันแข็งแกร่ง จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และการเปิดตัว iPhone 12 ซึ่งรองรับ 5G
-ความนิยมในผลิตภัณฑ์ AirPods และ Apple Watch ที่ยังร้อนแรงอยู่
-มีช่วงเทศกาลวันหยุดสำคัญ เช่น วันคริสต์มาส ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย
ทั้งนี้ หากแยกตามภูมิศาสตร์ รายได้ทั้งหมดของ Apple จะมาจาก
สหรัฐฯ 1,389,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%
ยุโรป 819,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%
จีนแผ่นดินใหญ่ 639,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57%
ญี่ปุ่น 248,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33%
ประเทศที่เหลือในเอเชียแปซิฟิก 246,750 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%
สรุปได้ว่า ทุกภูมิศาสตร์ มียอดขายเติบโต และเติบโตเป็นเลขสองหลักเช่นเดียวกัน
โดยเฉพาะ จีน ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด ซึ่งได้รับอานิสงส์จากความต้องการในผลิตภัณฑ์ตระกูล iPhone 12 ที่สูง
เพราะ iPhone รุ่นใหม่นี้ รองรับเทคโนโลยี 5G
ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนจำนวนไม่น้อย ที่ใช้สมาร์ตโฟน Android เริ่มหันมาใช้ iPhone
รวมถึง คนที่ใช้ iPhone อยู่ก่อนแล้ว ก็อยากจะอัปเกรดสมาร์ตโฟนของตัวเอง ไปใช้รุ่นใหม่
นอกจากนี้ ทิม คุก CEO ของ Apple ได้กล่าวว่า
ผลประกอบการของ Apple อาจจะดีกว่านี้ หากไม่เกิดสถานการณ์โควิด 19 ที่ทำให้ต้องปิดหน้าร้าน Apple Store และร้านค้าปลีกอื่นๆ บางแห่งชั่วคราว ในทั่วโลก
“การปิดร้านค้าชั่วคราว ได้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อยอดขาย iPhone และ Wearables โดยตรง” ทิม คุก กล่าว
โดย ณ วันที่ 26 ธ.ค. 2020
Apple ยังคงถือครองเงินสดและหลักทรัพย์ในความต้องการตลาด อยู่เป็นมหาศาลเช่นเคย ซึ่งมีมูลค่ารวม 2,304,780 ล้านบาท
และปัจจุบัน Apple ยังคงครองตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดในโลก ด้วยมูลค่าบริษัทที่ 71.7 ล้านล้านบาท
Tag:Apple
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.