กรณีศึกษา การเติบโตของ Kerry Express ด้วยวิธีคิดเข้าใกล้คนไทยมากขึ้น

Kerry Express เริ่มต้นธุรกิจในไทยด้วยการขนส่งแบบ B2B หรือ ธุรกิจต่อธุรกิจ
จากนั้นในปี 2013 หรือประมาณ 8 ปีที่แล้ว จึงเริ่มขนส่งพัสดุแบบ C2C หรือขนส่งพัสดุระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค

จากจุดเริ่มต้นในวันนั้นถึงวันนี้ Kerry Express มาไกลเกินกว่าที่คิด
เมื่อปัจจุบัน มีสาขากว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ ศูนย์กระจายพัสดุกว่า 1,000 แห่ง
มีรถที่ใช้ในการส่งพัสดุกว่า 20,000 คัน รองรับพัสดุได้ 1.9 ล้านชิ้นต่อวัน

จนปีล่าสุด 2563 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 18,917 ล้านบาท กำไร 1,405 ล้านบาท
เป็นหนึ่งในสองบริษัทขนส่งพัสดุในไทยที่มีรายได้เกือบ 2 หมื่นล้านบาท และมีกำไร

แล้วเคยสงสัยกันบางไหมว่า Kerry Express ทำอย่างไรถึงเติบโตมาถึงจุดนี้
ทั้ง ๆ ที่นับวัน ๆ ตลาดขนส่งพัสดุมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง

อเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX
เล่าถึงวิธีคิดการทำธุรกิจของ Kerry Express ให้ฟังอย่างน่าสนใจ

เขาเล่าว่าแก่นในการดำเนินธุรกิจคือยกระดับบริการ
และการเข้าถึงคนไทยทุกคนในทุก ๆ ที่ ภายใต้แนวคิด Kerry Express Everywhere

ด้วยแนวคิดนี้ก็เลยทำให้มีการกระจายสาขาให้บริการกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ
เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ไหนก็สามารถจัดส่งพัสดุด่วนได้

จนถึงปรับแผนในการส่งจากการใช้ระบบรวมศูนย์ เป็นการกระจายออกไปให้ได้มากที่สุด
เพื่อรองรับการเติบโตของการขายสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน

ขณะในช่วงที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ใช้กลยุทธ์ “ราคา” ในกลุ่มลูกค้าทั่วไป
โดยเฉพาะ“แม่ค้าออนไลน์” ที่มีการเติบโตมากขึ้น เพื่อขยายเข้าสู่ตลาดขนส่งพัสดุราคาประหยัด
โดยมีการปรับลด “ราคาส่ง” พัสดุ รวมทั้งจัดโปรโมชัน และเพิ่มสิทธิพิเศษต่าง ๆ
ให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าสมาชิก “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ลอยัลตี้ คลับ”
ที่ทุก ๆ การส่งพัสดุสามารถสะสมเป็น "เคอรี่พอยท์" นำมาแลกส่วนลดค่าขนส่ง
หรือ รับสิทธิพิเศษจากร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

โดยแผนธุรกิจจากนี้บริษัทจะเพิ่มความเข้มข้นในการเข้าสู่ economy market รวมไปถึงการจัดโปรโมชัน และให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ กับลูกค้าทั้งสมาชิกบัตรและลูกค้าทั่วไป
เพื่อตอกย้ำจุดแข็ง “ถูกและดี” ให้ชัดเจนขึ้น

และวิธีนี้ก็ยังช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในปัจจุบันอีกด้วย

“เราอยากย้ำให้ลูกค้ารู้ว่า เคอรี่ เอ็กซ์เพรส คือแบรนด์ที่ทั้งถูกและดี
วันนี้ราคาส่งพัสดุของเราเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วไม่แตกต่างกัน

แต่สิ่งที่แตกต่างคือคุณภาพบริการ ที่ทำให้เรามีความเหนือกว่าคู่แข่งในทุก ๆ ด้าน
และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมลูกค้าต้องใช้เรา”

จะเห็นว่าวิธีคิดในการทำธุรกิจของ Kerry Express ทั้งการขยายสาขา
การปรับวิธีการส่งสินค้าให้รวดเร็ว จนถึงการปรับราคาค่าบริการ
เป้าหมายก็เพื่อให้แบรนด์ใกล้ชิดกับคนไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ

ตรงนี้เองที่นอกจากจะทำให้รายได้ Kerry Express เติบโตต่อเนื่องแล้วนั้น
รู้หรือไม่ว่าช่วงที่ผ่านมา สำนักข่าวการตลาดหลายแห่งได้ทำการสำรวจ
แบรนด์ขนส่งพัสดุอันดับ 1 ในใจของผู้บริโภคคนไทย
ผลปรากฏว่า Kerry Express ได้คะแนนผลสำรวจแซงหน้าคู่แข่งทุกรายในตลาด แบบทิ้งห่างจากอันดับสอง ขาดลอยเลยทีเดียว