นิวซีแลนด์ เตรียมห้ามเยาวชนซื้อบุหรี่ ตลอดชีวิต ตั้งเป้าประเทศปลอดบุหรี่ ปี 2025

ล่าสุด ประเทศนิวซีแลนด์ ได้ออกมาประกาศแผนการป้องกันเยาวชนในประเทศ ไม่ให้สามารถซื้อบุหรี่ได้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายในการเป็นประเทศปลอดบุหรี่ (Smoke-free) ภายในปี ค.ศ. 2025

โดยกฎที่ห้ามเยาวชนซื้อบุหรี่ในรอบนี้ หมายถึง เยาวชนที่เกิดหลังปี ค.ศ. 2008 หรืออายุต่ำกว่า 14 ปีลงไป จะไม่สามารถซื้อบุหรี่หรือยาสูบ ได้เลยตลอดชีวิต

ในขณะที่ปริมาณนิโคตินในบุหรี่ ที่ถูกขายให้กับผู้ใหญ่ จะถูกลดปริมาณลง

ทั้งนี้ การออกกฎหมายเรื่องนี้ น่าจะถูกบังคับใช้ภายในปีหน้า และร้านค้าปลีกที่ได้รับอนุญาตให้ขายบุหรี่ได้ จะต้องถูกลดจำนวนลง ให้เหลือต่ำกว่า 500 ราย จากตอนนี้ที่มีอยู่กว่า 8,000 ราย

โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและกลุ่มนักรณรงค์ ต่างยอมรับว่า การปฏิรูปวงการยาสูบของประเทศ เป็นหนึ่งในการปราบปรามที่เข้มงวดที่สุดในโลกแล้ว

เพราะแม้ว่าก่อนหน้านี้ ประเทศนิวซีแลนด์ได้เคยออกกฎว่าซองบุหรี่ จะต้องเป็นสีพื้นเรียบ ๆ เท่านั้น รวมถึงมีการคิดอัตราภาษีบุหรี่ที่สูงอยู่แล้ว

แต่กระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ ระบุว่า หากต้องบรรลุเป้าหมายในการทำให้ประเทศปลอดบุหรี่อย่างแท้จริง ก็จำเป็นต้องมีการดำเนินการที่เข้มงวดมากกว่านี้

ทาง Dr. Ayesha Verrall รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ ระบุว่า

“วันนี้ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ สำหรับสุขภาพของคนในประเทศเรา”

เราต้องการที่จะแน่ใจว่า เยาวชนของเรา จะไม่เคยได้เริ่มสูบบุหรี่
ดังนั้น เราจึงทำให้กฎหมายนั้นมีความเข้มงวดกว่าเดิมในการขายหรือจัดหาบุหรี่ให้กับกลุ่มเยาวชน
โดยผู้ที่มีอายุ 14 ปีลงไป เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ ก็จะไม่สามารถซื้อบุหรี่อย่างถูกกฎหมายได้อีก

คุณ Verrall กล่าวเสริมว่า การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตที่ป้องกันได้
รวมถึงบุหรี่ ยังทำให้เกิดมะเร็งถึง 1 ใน 4 ของประชากรในประเทศ

และกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ กล่าวว่า อันตรายจากการสูบบุหรี่เป็นที่แพร่หลาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนชาวเมารี, แปซิฟิก และชุมชนที่มีรายได้น้อย

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่การดำเนินการเรื่องเป้าหมายปลอดบุหรี่ของนิวซีแลนด์ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ ทางนิวซีแลนด์เคยประกาศเป้าประเทศปลอดบุหรี่ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 และได้ตั้งเป้าว่าอัตราการสูบบุหรี่ของประเทศ จะลดลงเหลือน้อยกว่า 5% ภายในปี ค.ศ. 2025 ก่อนที่จะเลิกสูบบุหรี่โดยสิ้นเชิง

ซึ่งในปัจจุบัน ผู้ใหญ่ประมาณ 13% ในประเทศ สูบบุหรี่ ลดลงจาก 18% เมื่อเทียบทศวรรษที่แล้ว

แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีกลุ่มชนชาวเมารีในประเทศ ยังนับว่ามีอัตราการสูบบุหรี่หรือยาสูบ สูงถึง 31% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ

นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก ยังได้กล่าวถึงการระบาดของวงการยาสูบว่า
“นับเป็นภัยคุกคามด้านสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดปัญหาหนึ่งที่โลกเคยเผชิญมา
มีการระบุว่าการสูบบุหรี่ คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 8 ล้านคนต่อปี”

ซึ่งมากกว่า 80% ของผู้ใช้ยาสูบหรือประมาณ 1,300 ล้านคนทั่วโลก อาศัยอยู่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง ซึ่งการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับยาสูบนั้น ถือว่ามากที่สุด

นี่ก็นับเป็นอีกหนึ่งการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในประเทศนิวซีแลนด์
แต่ทั้งนี้ นโยบายปลอดบุหรี่ที่สามารถทำได้ส่วนหนึ่ง ก็น่าจะมาจากจำนวนประชากรในประเทศที่มีน้อยด้วย ซึ่งมีประมาณ 5 ล้านคน

แต่ก็เป็นที่น่าติดตามต่อไปว่า นิวซีแลนด์ จะบรรลุเป้าหมาย Smoke-free ในปี ค.ศ. 2025 ได้หรือไม่
และจะมีประเทศไหน ที่ออกมาเดินรอบตามอีก..

อ้างอิง :
-https://www.cnbc.com/2021/12/09/new-zealand-to-ban-young-people-from-ever-being-able-to-buy-cigarettes.html
-https://www.bbc.com/news/world-asia-59589775