รู้จัก “Ving” รองเท้าแตะจาก Pain Point สู่การสร้างบรรทัดฐานใหม่ ในการวิ่งมาราธอน

รู้จัก “Ving” รองเท้าแตะจาก Pain Point สู่การสร้างบรรทัดฐานใหม่ ในการวิ่งมาราธอน

31 พ.ค. 2022
“การวิ่ง” เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะไม่จำเป็นต้องมีผู้เล่นหลายคน ไม่ต้องมีสนาม หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ในการเล่น ทำให้การวิ่งเข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่คนทั่วไป ไปจนถึงผู้ว่าฯ กทม.
อีกทั้งการวิ่งยังเป็นการออกกำลังกายที่ยืดหยุ่น ไม่ต้องใช้ทักษะเยอะเหมือนกีฬาบางประเภท
การวิ่งจึงเป็นกีฬาที่มีที่ว่างให้ตั้งแต่มือสมัครเล่น ที่ชอบวิ่งจ็อกกิงเพื่อสุขภาพแบบเบา ๆ ในสวนสาธารณะ ไปจนถึงระดับโปร ที่วิ่งแบบเน้นผลลัพธ์ อย่างการแข่งขันวิ่งมาราธอน..
แต่สิ่งสำคัญสำหรับการวิ่ง ที่ไม่ว่าจะระดับโปรไปจนถึงมือสมัครเล่นก็ต้องใช้
นั่นก็คือรองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่..
แต่ปัญหาก็คือ ตลาดรองเท้าวิ่งในปัจจุบัน ผู้ผลิตและแบรนด์แต่ละเจ้า มักพัฒนารองเท้าวิ่งของตัวเอง ให้โดดเด่นในด้านสมรรถนะในการวิ่ง
จึงทำให้รองเท้าวิ่งทั้งหลาย มักมีรูปร่างเรียว และรัดกับรูปเท้า ส่งผลให้ผู้สวมใส่ต้องใช้กล้ามเนื้อเท้ามัดเดิมซ้ำ ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการวิ่ง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ง่าย สำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญ
เพราะแบบนี้เอง รองเท้าวิ่งจึงไม่ได้เหมาะกับทุกคน..
ซึ่งนั่นรวมไปถึง “คุณวาที วิเชียรนิตย์” โปรแกรมเมอร์ผู้ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ จากรองเท้าวิ่งสุดแพง
ทำให้เขาต้องฝืนใส่รองเท้าแตะวิ่ง เพื่อเข้าเส้นชัยในศึกมาราธอน..
โดยหลังจากการแข่งขันในครั้งนั้น คุณวาทีก็ได้ค้นพบว่า “รองเท้าแตะ” ก็สามารถพาเขาเข้าเส้นชัยได้เหมือนกัน
แถมยังรู้สึกสบายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
หลังจากนั้นคุณวาที จึงได้มีแนวคิดว่า ตัวเองต้องไม่ใช่คนเดียว ที่มีปัญหากับรองเท้าวิ่งในยุคปัจจุบันแน่ ๆ
จนเกิดเป็นไอเดียในการนำ Pain Point ส่วนตัว มาพัฒนาสินค้า เพื่อแก้ Pain Point ของคนอื่น..
และกลายเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของแบรนด์รองเท้า Ving (อ่านว่า รองเท้าวิ่ง) รองเท้าแตะสำหรับวิ่งรายแรกในประเทศไทย..
โดยในช่วงแรกของการพัฒนารองเท้า Ving คุณวาทียังไม่ได้ตั้งเป้าหมายในการพัฒนารองเท้าแตะสำหรับวิ่ง มาแข่งกับรองเท้าวิ่งในตลาด ที่มีผู้เล่นระดับโลกอย่าง Nike และ Adidas ครองตลาดอยู่
แต่ต้องการพัฒนารองเท้า Ving ให้กลายเป็น “รองเท้าเพื่อสุขภาพที่ทุกคนควรต้องมีติดไว้”
และต้องเป็นรองเท้าที่แข็งแรงทนทานมากพอ ที่จะส่งผู้สวมใส่เข้าเส้นชัยในการแข่งขันวิ่งมาราธอนได้..
โดยคุณวาที ใช้เวลา 7 เดือนในการพัฒนาและออกแบบ จนได้รองเท้าแตะอย่างที่ตัวเองต้องการ
ออกมาเป็นรองเท้า Ving รุ่นแรก รองเท้าแตะที่ใช้วัสดุคุณภาพสูง ซึ่งมีความทนทานมากพอที่จะวิ่งจนจบมาราธอน และนุ่มนวล ใส่สบายในราคาที่จับต้องได้
แต่อย่างไรก็ตาม Ving ก็ยังต้องเจอกับความท้าทายในการ “เปลี่ยนความคิดของผู้บริโภค”
ที่มักมองว่ารองเท้าแตะ ไม่เหมาะสำหรับการใส่ออกกำลังกาย..
อีกทั้งในช่วงนั้น คุณวาทียังประสบปัญหาด้านเงินทุนสำหรับการดำเนินธุรกิจ
ซึ่งคุณวาทีแก้ปัญหาโดยการจัดอิเวนต์ “งานวิ่งรองเท้าแตะ” ที่ผู้สมัครทุกคนจะต้องสวมใส่รองเท้าแตะในการวิ่ง
โดยคุณวาทีได้มีการแจกรองเท้า Ving รุ่นแรกไปให้ผู้สมัครได้ทดลองใช้งานในงานวิ่งครั้งนั้น
ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะได้เงินทุนจากค่าสมัครในงานวิ่ง มาต่อยอดธุรกิจแล้ว
ยังได้โอกาสในการโปรโมตสินค้าของตัวเอง ผ่านการแชร์บนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของนักวิ่งที่มาร่วมงานอีกด้วย
Ving จึงได้ต่อยอดความสำเร็จด้วยการส่งเสริมให้นักวิ่งมืออาชีพ หันมาใช้รองเท้าแตะในการวิ่งมากขึ้น
เพื่อเปลี่ยนภาพจำของผู้บริโภค ที่มีต่อการวิ่งด้วยรองเท้าแตะ
จนทุกอย่างเริ่มลงตัวมากขึ้น..
Ving เริ่มได้รับความสนใจจากลูกค้ามากขึ้น ตั้งแต่คนทั่วไปที่รักสุขภาพ ไปจนถึงนักวิ่งมืออาชีพ
ที่เริ่มมีการใช้รองเท้าแตะ Ving ในการลงแข่งล่าถ้วยรางวัลต่าง ๆ มากขึ้น
โดยถ้าหากลองย้อนดูรายได้ของ บริษัท วีอิ้ง อินเตอร์เทรด จำกัด เจ้าของแบรนด์ Ving
ในปี 2562 มีรายได้ 0.8 ล้านบาท
ในปี 2563 มีรายได้ 4.8 ล้านบาท
ในปี 2564 มีรายได้ 9.3 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า รายได้นั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องผ่านช่วงการระบาดของโควิด 19 ที่สวนสาธารณะมักจะปิด ทำให้ผู้คนไม่สามารถออกกำลังกายในสถานที่นั้น ๆ ได้
อีกทั้ง Ving ยังสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ที่มีพฤติกรรมชอบซื้อสินค้าที่ตัวเองรู้สึก “คุ้มค่า” ได้ดี
เพราะถ้าหากลองสังเกต ในปัจจุบัน แบรนด์กีฬาหลายแบรนด์ เริ่มมีการออกแบบสินค้าของตัวเอง ให้
อเนกประสงค์มากขึ้น เพื่อให้ดูคุ้มค่าในสายตาของผู้บริโภค
เช่น Adidas ที่มักออกแบบสินค้าของตัวเองให้มีดีไซน์สวยงาม ทำให้ผู้บริโภคสามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวัน หรือใส่ออกกำลังกายก็ได้
ซึ่งคล้ายกันกับสิ่งที่ Ving กำลังพยายามทำ เพราะรองเท้าแตะเป็นสิ่งที่คนไทยต้องใช้กันในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว และยิ่งถ้าสามารถใส่ออกกำลังกายได้ด้วย ก็จะยิ่งดู “คุ้มค่า” ในสายตาของผู้บริโภคมากขึ้นอีก
และยังน่าสนใจว่า ในปัจจุบัน “รองเท้าแตะสำหรับวิ่ง” เป็นตลาดที่มีผู้เล่นน้อยราย (Blue Ocean)
จึงทำให้ Ving ยังมีโอกาส “วิ่ง” ไปได้อีกไกล..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.