Scrub Daddy ฟองน้ำหน้ายิ้ม ยอดขาย 3,500 ล้าน ที่เคยถูก 3M ปฏิเสธ แต่กลายมาเป็นคู่แข่งรายสำคัญ

Scrub Daddy ฟองน้ำหน้ายิ้ม ยอดขาย 3,500 ล้าน ที่เคยถูก 3M ปฏิเสธ แต่กลายมาเป็นคู่แข่งรายสำคัญ

23 พ.ย. 2022
ถ้าใครได้เล่น TikTok ในช่วงนี้ คงได้มีโอกาสเห็นคลิปวิดีโอทำความสะอาด จัดระเบียบสิ่งของภายในบ้านผ่านตากันอยู่บ่อย ๆ
และน่าจะต้องเคยเห็น “ฟองน้ำหน้ายิ้ม” สีสันสดใส ที่บรรดา TikToker ใช้ล้างจาน และทำความสะอาดคราบสกปรกจากงานครัวกันอย่างแน่นอน
ซึ่งฟองน้ำหน้ายิ้มที่ว่านี้ มีชื่อว่า “Scrub Daddy” แม้จะดูเหมือนเป็นฟองน้ำธรรมดา ๆ
แต่รู้หรือไม่ว่า เจ้าฟองน้ำนี้ กลายเป็นกระแสครั้งแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จากการไป “ระดมทุน” ที่รายการ Shark Tank ของสหรัฐอเมริกา
และได้ Lori Greiner เป็นผู้ลงทุนด้วยจำนวนเงิน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.1 ล้านบาท) โดยแลกกับหุ้น 20%
และเงินเพียง 200,000 ดอลลาร์สหรัฐนี้ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ Scrub Daddy ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ด้วยยอดขายสะสมกว่า 25 ล้านชิ้น
แต่รู้หรือไม่ว่า กว่า Scrub Daddy จะประสบความสำเร็จ และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่างในทุกวันนี้ Scrub Daddy เคยเป็นเพียงฟองน้ำธรรมดา ๆ ที่ไม่มีใครสนใจ
ในบทความนี้ MarketThink จะพาไปเล่าถึงจุดเริ่มต้น ที่ทำให้เกิดเป็น Scrub Daddy ฟองน้ำหน้ายิ้มมหัศจรรย์ ซึ่งสร้างยอดขายได้ 3,500 ล้านบาท
ย้อนกลับไปในช่วงยุค 1990 ชายคนหนึ่งนามว่า Aaron Krause เจ้าของกิจการดูแล ทำความสะอาดรถยนต์ ผู้รับบทบาททั้งการเป็นคนทำความสะอาดรถยนต์ของลูกค้าที่เข้ามารับบริการ และประธานบริษัทที่คอยบริหารจัดการสิ่งต่าง ๆ ในออฟฟิศ
ในเวลานั้นกิจการของ Aaron Krause เติบโตไปได้ด้วยดี เพราะกิจการของเขา ไม่ใช่แค่ร้านรับล้างรถยนต์ธรรมดา ๆ แต่เขามีความเป็น “นักประดิษฐ์” อยู่ในตัว
โดย Aaron Krause ได้คิดค้นฟองน้ำสำหรับทำความสะอาดรถยนต์ชนิดพิเศษขึ้นมา ที่ใช้วัสดุทำจากยูรีเทน ซึ่งให้ผลลัพธ์การทำความสะอาด ที่ดีกว่าฟองน้ำทำความสะอาดรถยนต์ชนิดอื่น ๆ ในเวลานั้น
และนั่นก็ทำให้ Aaron Krause ไม่ได้เป็นเพียงเจ้าของกิจการทำความสะอาดรถยนต์ธรรมดา ๆ อีกต่อไป เพราะเขายังกลายเป็น ผู้ผลิตฟองน้ำสำหรับล้างรถยนต์เพื่อวางขายด้วย
อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าของกิจการที่ทั้งรับทำความสะอาดรถยนต์ และขายฟองน้ำสำหรับล้างรถยนต์ที่เขาเป็นผู้คิดค้นขึ้นเอง
ทำให้ในแต่ละวัน เนื้อตัวของเขา เต็มไปด้วยคราบสกปรกจากการทำงาน โดยเฉพาะคราบสีดำจากน้ำมันเครื่องที่ติดอยู่ที่มือและแขน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นภาพที่ไม่น่าดูนัก หากเจ้าของกิจการจะมีเนื้อตัวมอมแมมจากการทำงานเช่นนี้
Aaron Krause เลยต้องการหาวิธีที่จะช่วยล้างคราบสกปรกบนตัวออกให้หมดจด ก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปนั่งทำงานในออฟฟิศ หลังจากให้บริการทำความสะอาดรถยนต์ของลูกค้าเสร็จ
ทางเลือกของ Aaron Krause มีทั้งการใช้สบู่ Lava Soap ซึ่งเป็นสบู่ที่ช่างยนต์นิยมใช้กัน เพราะมีคุณสมบัติในการขจัดคราบที่เปื้อนอยู่บนตัวได้ดี
แต่ Aaron Krause ก็ไม่ได้มองแค่การใช้สบู่ ด้วยความที่มี DNA ของนักประดิษฐ์ เขาจึงตัดสินใจคิดค้นฟองน้ำชนิดพิเศษขึ้นมาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ไม่ได้ใช้สำหรับการทำความสะอาดรถยนต์ เพราะเขาตั้งใจให้ฟองน้ำนี้ เป็นฟองน้ำทำความสะอาดร่างกายที่สกปรกของเขาโดยเฉพาะ
ฟองน้ำที่ว่านี้ มีลักษณะเป็นทรงกลม คล้ายกับฟองน้ำทำความสะอาดรถยนต์ แต่เจาะรูกลม ๆ ไว้ตรงกลาง จำนวน 2 รู ให้สอดนิ้วเข้าไปขัดคราบดำที่ติดอยู่บนนิ้ว ในขณะเดียวกันรูกลม ๆ นี้ ยังทำให้หยิบจับฟองน้ำนี้ได้สะดวกมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปี 2008 Aaron Krause ตัดสินใจขายกิจการฟองน้ำสำหรับทำความสะอาดรถยนต์ ที่เขาเป็นคนคิดค้นขึ้นมาให้กับ 3M
แต่กลายเป็นว่า 3M กลับไม่ได้สนใจฟองน้ำสำหรับทำความสะอาดมือที่เปื้อนของเขาเลยแม้แต่น้อย
เพราะก่อนหน้าที่ Aaron Krause จะขายกิจการให้ 3M เขาก็เคยพยายามนำฟองน้ำทำความสะอาดมือ วางขายให้กับกลุ่มช่างยนต์ใช้ แต่ก็ไม่มีใครสนใจซื้อ
และนั่นทำให้ฟองน้ำนี้ ถูกวางทิ้งไว้ในกล่องเฉย ๆ โดยไม่มีใครสนใจนานถึง 5 ปี
จนกระทั่งวันหนึ่ง Aaron Krause ได้รับมอบหมายจากภรรยา ให้ช่วยทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ทำให้อยู่ ๆ เขาก็นึกถึงฟองน้ำทำความสะอาดมือ ที่เก็บไว้ในกล่องรอวันทิ้งขึ้นมา
เพราะฟองน้ำทำความสะอาดมือของเขา ใช้เช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ได้เป็นอย่างดี แถมเมื่อลองเอาไปล้างจาน ก็ช่วยขจัดคราบสกปรกออกไปได้อย่างง่ายดาย ด้วยคุณสมบัติพิเศษ ที่ทำให้ฟองน้ำนี้มีผิวสัมผัสที่แตกต่างกัน
หากนำไปแช่น้ำเย็น ฟองน้ำจะแข็ง เหมาะกับการทำความสะอาดคราบหนัก
และหากนำไปแช่น้ำร้อน จะทำให้ฟองน้ำกลับมานิ่มอีกครั้ง
และนั่นก็กลายเป็น จุดเริ่มต้นของฟองน้ำหน้ายิ้มมหัศจรรย์..
เพราะ Aaron Krause มองเห็นโอกาสที่จะได้เป็นมหาเศรษฐี จากฟองน้ำที่เคยถูกมองข้าม
สิ่งที่ Aaron Krause ทำคือ การเจาะรูเพิ่มที่ฟองน้ำ จากเดิมที่มีอยู่ 2 รู เพิ่มเป็น 3 รู โดยรูที่เพิ่มขึ้นมา มีลักษณะเหมือนปาก และกลายเป็นต้นกำเนิดของฟองน้ำหน้ายิ้ม Scrub Daddy ตั้งแต่ตอนนั้น
แต่กลายเป็นว่า สิ่งที่ Aaron Krause คิด กลับซ้ำรอยเมื่อครั้งที่ฟองน้ำ Scrub Daddy นี้ เป็นเพียงอุปกรณ์ทำความสะอาดมือที่เปื้อนของช่างยนต์
เพราะ Aaron Krause ทดลองนำฟองน้ำ Scrub Daddy ไปวางขายในร้านค้าของเพื่อน ๆ ในเมืองฟิลาเดลเฟีย แต่ก็ไม่มีคนสนใจเช่นเดิม
ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฟองน้ำ Scrub Daddy ไม่ประสบความสำเร็จถึง 2 ครั้งติดกัน แม้จะเปลี่ยนวัตถุประสงค์ในการใช้งาน และกลุ่มลูกค้าใหม่แล้วก็ตาม ก็เพราะฟองน้ำ Scrub Daddy ยังคงขาดการทำการตลาด และการโฆษณาที่ดี
แต่ Aaron Krause ก็ไม่ได้มีเงินมากขนาดที่จะทำการตลาด และซื้อโฆษณาฉายบนทีวี เพื่อขายฟองน้ำ Scrub Daddy
และนั่นก็ทำให้ Aaron Krause เดินทางมาถึงจุดที่เกือบยอมแพ้อีกครั้ง
แต่แล้ววันหนึ่ง Aaron Krause และภรรยา ได้เปิดดูทีวี ซึ่งรายการที่ทั้งคู่ดูนั้น กลายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตของทั้งสองคนไปตลอดกาล..
รายการที่ Aaron Krause และภรรยาดู คือรายการ Shark Tank นั่นเอง
ในวินาทีนั้น Aaron Krause ก็คิดได้ทันทีว่า เขาต้องไปออกรายการ Shark Tank เพื่อนำเอาฟองน้ำ Scrub Daddy ของเขาไปขอเงินลงทุนจาก Shark ซึ่งเป็นนักลงทุนชื่อดังของสหรัฐอเมริกา
หลังจากผ่านการอธิบายคุณสมบัติ และข้อดีของฟองน้ำ Scrub Daddy รวมถึงต่อรองเงื่อนไขการลงทุน Scrub Daddy ก็ได้ Lori Greiner เป็นผู้ลงทุน ด้วยจำนวนเงิน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.1 ล้านบาท) แลกกับหุ้น 20%
แต่สิ่งที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้กับทั้ง Aaron Krause และ Scrub Daddy กลับไม่ใช่เงินลงทุน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้จาก Lori Greiner
เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด กลับเป็นการไปออกรายการขายสินค้าทางทีวี ซึ่ง Lori Greiner เป็นเจ้าของอยู่
หลังจาก Aaron Krause นำฟองน้ำ Scrub Daddy ไปออกอากาศในรายการขายสินค้าทางทีวีครั้งแรก ผู้คนทั่วสหรัฐอเมริกา ต่างอยากทดลองใช้ฟองน้ำ Scrub Daddy กันอย่างล้นหลาม
ทำให้ Aaron Krause สามารถขายฟองน้ำ Scrub Daddy ได้ถึง 42,000 ชิ้น ภายในระยะเวลาเพียง 8 นาทีเท่านั้น
แต่ความสำเร็จที่แท้จริงของฟองน้ำ Scrub Daddy เกิดขึ้นหลังจากนั้น เพราะตั้งแต่ Aaron Krause ไปออกรายการ Shark Tank และนำฟองน้ำ Scrub Daddy ไปออกรายการขายสินค้าทางทีวี นับตั้งแต่นั้นมา ยอดขายของ Scrub Daddy ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จนในปัจจุบัน Scrub Daddy กลายเป็น 1 ใน 3 ของผู้ผลิตฟองน้ำสำหรับทำความสะอาด รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ในด้านส่วนแบ่งตลาด
และแน่นอนว่า Scrub Daddy ได้กลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ 3M นับตั้งแต่นั้น
แม้ก่อนหน้านี้ 3M จะเป็นฝ่ายไม่สนใจ Scrub Daddy และเลือกที่จะตัดสินค้าชิ้นนี้ทิ้ง ในตอนที่เข้าซื้อกิจการฟองน้ำสำหรับทำความสะอาดรถยนต์จาก Aaron Krause
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน Aaron Krause ยังสามารถขายฟองน้ำ Scrub Daddy ไปได้แล้วมากกว่า 60 ล้านชิ้น คิดเป็นยอดขายกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,500 ล้านบาท)
แถมยังแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดออกมาอีกจำนวนมาก เช่น
- ฟองน้ำสำหรับขัดเตาปิ้งบาร์บีคิว
- ฝอยขัดหม้อ
- ฟองน้ำ Scrub Daddy ในรูปทรงอื่น ๆ เช่น รูปฟักทอง รูปแมว รูปสุนัข และรูปเกล็ดหิมะ เป็นต้น
- น้ำยาขัดคราบสกปรกในเตาอบ
จากความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมา ทำให้ Aaron Krause กลายเป็นหนึ่งในเศรษฐี ที่มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,500 ล้านบาท)
และตัวบริษัท Scrub Daddy เอง ก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 35 ล้านบาท) กลายเป็น 209 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,450 ล้านบาท) ในปัจจุบัน
แม้ความสำเร็จของ Aaron Krause และฟองน้ำ Scrub Daddy จะต้องใช้เวลานานกว่า 10 ปี จึงจะประสบความสำเร็จก็ตาม
เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บางครั้งการออกสินค้ามาขาย 1 ชิ้น ไม่ใช่แค่สินค้ามีคุณสมบัติที่ดี แล้วจะขายได้เสมอไป แต่ต้องอาศัยอีกหลายปัจจัย ที่เป็นส่วนช่วยให้สินค้าชิ้นนั้นประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะเงินทุน และการทำการตลาดที่ดี เช่นเดียวกันกับจังหวะ และโอกาสที่เหมาะสม
อ้างอิง :
-https://www.britannica.com/reviews/scrub-daddy-tiktok
-https://techdayhq.com/community/articles/scrub-daddy-s-journey-to-becoming-the-most-successful-shark-tank-product-ever
-https://www.theceomagazine.com/business/innovation-technology/scrub-daddy-the-story-behind-shark-tank-uss-biggest-success/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Scrub_Daddy
-https://yen.com.gh/facts-lifehacks/biographies/212659-scrub-daddys-net-worth-how-rich-scrub-daddy-ceo-aaron-krause
-https://www.bizjournals.com/philadelphia/news/2022/02/21/how-viral-tiktok-fame-propelling-scrub-daddy-100m.html
-https://scrubdaddy.com/
-https://meaww.com/shark-tank-scrub-daddy-209-m-aaron-krause-best-selling-product-cleaning-sponge-smiley-reality-tv
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.