คาเฟ่ ที่เน้นให้ถ่ายรูปลง Instagram กำลังเจอปัญหา

คาเฟ่ ที่เน้นให้ถ่ายรูปลง Instagram กำลังเจอปัญหา

2 เม.ย. 2020
ปีที่แล้วใครหลายคนอาจเห็นเพื่อนลงสตอรีหรือโพสต์รูปไปเที่ยวคาเฟ่สวยๆ ให้ชมกันในโซเชียล
แต่ปีนี้คงเราจะเห็นสิ่งที่ต่างไปจากเดิม
เพราะไม่มีใครออกไปนั่งถ่ายรูปหรือทานขนมที่คาเฟ่ได้
และคาเฟ่เองก็เปิดให้นั่งทานที่ร้านไม่ได้
ดูเหมือนตอนนี้คาเฟ่ที่เคยเต็มไปด้วยลูกค้าที่มาถ่ายรูปลงกันในโซเชียลกำลังเจอปัญหา
เรื่องนี้อาจจะดูเหมือนไม่มีอะไร
แต่รู้ไหมว่าคาเฟ่เหล่านี้ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเหมือนธุรกิจอื่นๆ
ความน่าสนใจอยู่ที่คาเฟ่เหล่านี้กำลังถูกโควิด-19 เปิดปัญหาที่ถูกซ่อนเอาไว้..
มีคาเฟ่จำนวนไม่น้อยที่เปิดขึ้นมาภายใต้แนวคิด Instragrammable Cafe
ซึ่งหมายถึงการตกแต่งคาเฟ่ให้ดูสวยงาม น่านั่ง รวมถึงอาหารที่ดูน่าทาน และที่สำคัญที่สุดคือน่าถ่ายรูปลงโซเชียลให้เพื่อนเห็น
คุณสมบัติเหล่านี้คือหัวใจของ Instagrammable Cafe
ดังนั้นเรื่อง “รสชาติ” อาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ถือเป็นเรื่องรองลงมา
คาเฟ่สัตว์เลี้ยงเองก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็น Instagrammable Cafe
เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาเล่นกับสัตว์ก็คงถ่ายรูปหรือสตอรีลงโซเชียลกัน
แม้ว่าร้านจะกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง
ถ้าให้เราได้ลูบหัวสัตว์เลี้ยงในคาเฟ่ หลังจากที่ลูกค้าหลายสิบคนได้ลูบมาก่อน
เราจะกลัวติดเชื้อโควิด-19 มั้ย?
ความกังวลเรื่องนี้อาจทำให้จำนวนลูกค้าลดน้อยลงก็ได้
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง
คาเฟ่เหล่านี้มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าอาหารและเครื่องดื่ม
ซึ่งส่วนใหญ่อาหารและเครื่องดื่มมีราคาค่อนข้างสูง
แต่ลูกค้าก็ยอมจ่ายเพื่อที่จะได้รูปสวยๆ กลับบ้านหรือได้เล่นกับสัตว์น่ารักๆ
ในกรณีคาเฟ่สัตว์เลี้ยงก็อาจจะมีรายได้จากการขายอาหารสัตว์ด้วย
และเรื่องที่สำคัญที่สุดของ Instagrammable Cafe คือ
เมื่อลูกค้าเล่นกับสัตว์ไม่ได้ ลูกค้าสัมผัสถึงบรรยากาศของร้านไม่ได้ ลูกค้าไม่ได้รูปสวยๆ ไว้ลงโซเชียล
แล้วลูกค้าที่ไหนจะมาซื้ออาหารและเครื่องดื่มกับคาเฟ่เหล่านี้?
นอกจากนี้คาเฟ่ยังมีค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน
ยิ่งถ้าเป็นคาเฟ่สัตว์แล้ว ค่าตัดขน ค่าอาหาร ค่าฉีดวัคซีน ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
ที่จริงร้านคาเฟ่เหล่านี้ก็ดูคล้ายกับร้านกาแฟเจ้าดังอย่าง Starbucks
เพราะหนึ่งในจุดเด่นของสตาร์บัคส์คือร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์ในแต่ละสาขา
ถามว่าปกติคนไปนั่งดื่มกาแฟหรือทำงานที่สตาร์บัคส์แล้วลงโซเชียลมั้ย?
ก็น่าจะมีบ้าง
แล้วพอสตาร์บัคส์ปิดไม่ให้นั่งทานหรือทำงานที่ร้าน ยังมีคนซื้อสตาร์บัคส์อยู่มั้ย?
ก็อาจจะยังมีอยู่ เพราะลูกค้าก็ยังสามารถสั่งสตาร์บัคส์แบบดิลิเวอรีได้จากแอปสั่งอาหาร
แต่ต้องยอมรับว่าลูกค้าที่ปกติมาซื้อกาแฟเพราะอยู่ใกล้ที่ทำงานหรือเป็นทางผ่าน จะหายไปจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นสตาร์บัคส์หรือ Instagrammable Cafe เพราะคน Work from home มากขึ้น
สำหรับ Instagrammable Cafe ที่อาจจะเปิดหน้าร้านรอลูกค้ามาสั่งอาหาร ขนมหรือเครื่องดื่มกลับบ้านนั้น
พวกเขาต้องไม่ลืมว่าการขายราคาเดิมนั้นคงจะยาก รวมถึงรสชาติต้องถูกปากลูกค้าจริงๆ
เพราะลูกค้าไม่ได้จะมานั่งทานที่ร้านหรือเล่นกับสัตว์แล้วยอมจ่ายเครื่องดื่มราคาแพงเหมือนเดิม
ซึ่งหมายความว่ารายได้หลักจะหายไปพอสมควร
จากเรื่องนี้จะเห็นได้ว่า
ร้านที่ตกแต่งสวยงาม อาหารน่าทาน ถ่ายรูปลงโซเชียลได้ ราคาอาหารและเครื่องดื่มค่อนข้างสูง
เป็นคุณสมบัติที่เหมือนกันของคาเฟ่และสตาร์บัคส์
ดังนั้นปัญหาจริงๆ ของ Instagrammable Cafe ไม่ได้อยู่ที่ราคาของอาหาร
แต่อยู่ที่ “รสชาติ” มากกว่า
เพราะถ้าของอร่อยจริง ยังไงลูกค้าก็จะกลับมาซื้อโดยไม่สนใจว่าร้านจะสวยมั้ย
อย่างสตาร์บัคส์นั้นค่อนข้างมีชื่อในการอบรมพนักงานเพื่อสร้างรสชาติที่เป็นมาตรฐาน ไม่ผิดเพี้ยนไปจากสูตรหลัก
ดังนั้นมันคงไม่แปลกที่เราจะเห็นคนที่ชื่นชอบในรสชาติของสตาร์บัคส์จริงๆ ยังคงซื้อสตาร์บัคส์มาทานแม้ว่าจะไปนั่งที่ร้านไม่ได้
ตราบใดที่รายได้ของเขายังเพียงพอต่อกาแฟแก้วละ 100 บาทขึ้นไป..
และถ้าคาเฟ่ลองทำอาหารและเครื่องดื่มให้มีรสชาติอร่อยถูกปากลูกค้า
รวมถึงเพิ่มบริการดิลิเวอรี
นี่อาจจะเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสก็ได้
สุดท้ายขอทิ้งคำถามไว้ว่า
ถ้าคุณเป็นเจ้าของคาเฟ่สักร้าน คุณอยากเห็นลูกค้ารีวิวร้านของคุณแบบไหนระหว่าง
คาเฟ่ร้านนี้สวยมาก น่าถ่ายรูป แต่อย่าคาดหวังอะไรกับรสชาติอาหารหรือเครื่องดื่มเลยแล้วกัน
หรือ
คาเฟ่ร้านนี้สวยมาก น่าถ่ายรูป แถมรสชาติข้าวผัด เค้ก แล้วก็ชานมอร่อยทุกอย่างเลย
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.