ไขความลับ เบื้องหลังการตลาดผ่าน TikTok ปั้นยอดขายปัง ๆ ด้วย GMV Max จาก Common Ground

แม้ TikTok จะเป็นแพลตฟอร์มน้องใหม่ที่เพิ่งแจ้งเกิดในวงการ Social Media
แต่กลับใช้เวลาไม่กี่ปี ขึ้นแท่นเป็นแพลตฟอร์มที่คนทั่วโลกใช้เวลามากที่สุดถึง 34.56 ชั่วโมงต่อคนต่อเดือน

รองลงมา คือ YouTube ที่มีการใช้ระยะเวลาอยู่ที่ 27.10 ชั่วโมงต่อคนต่อเดือน
และ Facebook ที่มีการใช้ระยะเวลา 17.17 ชั่วโมงต่อคนต่อเดือน

แน่นอนว่า เมื่อผู้ใช้งานส่วนใหญ่ หันมาใช้เวลาใน TikTok มากขึ้น
จึงทำให้ TikTok ขึ้นแท่นเป็นแพลตฟอร์มมาแรงแห่งยุค ที่บรรดาเจ้าของธุรกิจไม่อาจมองข้าม

แต่ความยากคือ แม้ TikTok จะมีจุดเด่นคือ การเข้าถึงง่าย
แถมยังมาพร้อมอัลกอริทึมที่ทรงพลัง ที่สามารถเรียนรู้ความชอบของผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว จึงนำเสนอคอนเทนต์ได้อย่างรู้ใจ จนทำให้ผู้ใช้งานติดหนึบ​

แต่เบื้องหลังความง่ายนี้ สำหรับแบรนด์หรือนักการตลาด
ที่อยากจะมาทำการตลาดบน TikTok กลับไม่หมูอย่างที่คิด

หลายคนเข้ามาทำแล้ว พบว่า ยอดขายที่ได้กลับมาไม่คุ้มกับเม็ดเงินโฆษณาที่ลงทุนไป หรือแบรนด์ทำคอนเทนต์ไป ยอดวิวก็ติดหลักหน่วยหรือหลักสิบ

เพื่อสลาย Pain Point เหล่านี้ MarketThink จะชวนทุกคนไปไขความลับ​ไอเดียการทำการตลาดผ่าน TikTok จาก Common Ground ดิจิทัลเอเจนซีที่มีประสบการณ์ในการทำการตลาดบน TikTok จนก้าวขึ้นมาเป็น Official TikTok Partner

หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุด ของใครก็ตามที่คิดจะเข้ามาทำการตลาดผ่าน TikTok คือ ยังยึดติดกับโลกการตลาดแบบเดิม ๆ ที่แบรนด์เป็นผู้กุมทิศทางของคอนเทนต์ นำเสนอในสิ่งที่แบรนด์ต้องการ และหวังอาศัยสารพัดเครื่องมือการตลาดดิจิทัล เพื่อเสิร์ฟคอนเทนต์นั้นให้ผ่านตาผู้บริโภคมากที่สุด

เพราะผลลัพธ์ที่ตามมาคือ คอนเทนต์บนโลกออนไลน์ ไหลบ่าไปด้วยคอนเทนต์โฆษณาที่ถูกเสิร์ฟแบบยัดเยียด จนทำให้ผู้บริโภคเอือม

กระทั่งการมาของ TikTok ที่พลิกเกม ด้วยอัลกอริทึมอันทรงพลัง เสิร์ฟคอนเทนต์ตามความชอบและความสนใจของผู้ใช้งาน นอกจากจะทำให้ใครที่เผลอเข้ามาเล่นต้องติดหนึบ ​ยังเปลี่ยนขั้วอำนาจในการเลือกเสพคอนเทนต์ให้มาอยู่ในมือผู้บริโภค

นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมหากนักการตลาดหรือแบรนด์ยังใช้วิธีคิดแบบเดิม ๆ ในการทำโฆษณาผ่าน TikTok ก็มักไม่ได้ผล เพราะเหมือนคนที่ติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก ใส่เงินเข้าไปเท่าไร ก็ไม่ต่างจากการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

ดังนั้น ถ้าจะทำการตลาดผ่าน TikTok กฎข้อแรกคือ ฉีกตำราการตลาดเล่มเก่า
พลิกกระบวนการคิด จากที่ตั้งต้นจากสิ่งที่แบรนด์อยากบอก เป็นสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ยินหรืออยากเสพ

เพราะนาทีนี้ เส้นแบ่งระหว่างคอนเทนต์ออร์แกนิก กับคอนเทนต์โฆษณาแทบจะไม่มีอีกต่อไป
หน้าที่ของแบรนด์คือ คราฟต์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้คนอยากดู

อย่าลืมว่า พฤติกรรมของลูกค้ายุคนี้​มีความสนใจแบบกระจัดกระจาย สนใจอะไรแบบไม่มีแบบแผนที่คาดเดาได้เหมือนในอดีต (Market Fragmentation)

คำถามคือ แล้วจะทำอย่างไร เพื่อให้คอนเทนต์ของแบรนด์ไม่เพียงสามารถเข้าถึงลูกค้า แต่ยังสามารถปั้นยอดขายปัง ๆ กลับมา

หนึ่งในเครื่องมือที่กำลังมาแรง และ Common Ground มองว่า ใครไม่ใช้ เหมือนตกขบวนรถไฟ คือ GMV Max

ก่อนหน้านี้ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการทำ Affiliate Marketing หรือ Live Shopping Ads (LSA)
แต่ล่าสุด TikTok มีเครื่องมือใหม่อย่าง GMV Max ที่ตอกย้ำความฉลาดของ AI พร้อมช่วยดันยอดขาย

แต่กุญแจสำคัญที่จะชี้วัดความสำเร็จหรือประสิทธิภาพของ GMV Max คือ เทคนิคในการวางกลยุทธ์ เพื่อทำคอนเทนต์ที่ถูกต้อง เพื่อเสิร์ฟไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ถูกกลุ่ม ในจังหวะที่เหมาะสม

ที่สำคัญคือ มีจำนวนที่มากพอ เพื่อเพิ่ม ROAS (Return on Ad Spending) โดยไม่จำเป็นต้องกำหนด Target Audience

นอกจากจะทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ปริมาณคลิปที่ให้ AI คัดไปเสิร์ฟก็ต้องมากพอ
ถามว่า ต้องมากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับเม็ดเงินที่เจ้าของแบรนด์หรือนักการตลาด ใส่เข้าไปในระบบ

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า จากนี้เจ้าของแบรนด์หรือนักการตลาดจะต้องตั้งหน้าตั้งตาทำแต่คลิปที่ตอบโจทย์สำหรับการทำ GMV Max เท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้ว GMV Max ก็เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่เข้ามาช่วยในการสร้างยอดขาย

แต่อย่าลืมว่า ปัจจัยที่จะทำให้ลูกค้าสักคน ตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ต้องเริ่มจากความไว้ใจ เป็นแบรนด์ที่รู้จัก มีภาพลักษณ์ที่ดี น่าเชื่อถือ

ดังนั้นสิ่งที่แบรนด์ควรทำคู่ขนานไปด้วยกัน คือ การทำคอนเทนต์เพื่อสร้างแบรนด์ และฐานลูกค้า หรือฐานผู้ติดตาม เพื่อสร้าง Ecosystem ของแบรนด์ที่แข็งแรง

เพราะแม้ปริมาณของคลิปจะสำคัญ แต่การบริหารจัดการคอนเทนต์จำนวนมหาศาลให้อยู่ในทิศทางที่สอดคล้องกับจุดยืนของแบรนด์ และไม่ให้เกิดผลเสียในเชิงข้อมูลที่ผิดพลาด หรือการทำลายชื่อเสียงของแบรนด์ที่สั่งสมมานานก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลย

เพราะฉะนั้น ถ้าจะแกะสูตรการทำ GMV Max ให้ปัง​​ นอกจากแบรนด์จะต้องขยันผลิตคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องโดยไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิม ๆ แต่ปรับเปลี่ยนไปตามความชอบของกลุ่มลูกค้า ด้วยการทำคอนเทนต์ที่ดันยอดขาย ก็ยังต้องทำคอนเทนต์ที่ช่วยสร้างแบรนดิงให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และเข้าไปนั่งในใจลูกค้า

พูดง่าย ๆ ว่า การจะสร้างยอดขายจาก GMV Max ต้องลงทุนทั้งการทำคลิป และการสร้างการรับรู้ ไปควบคู่กัน เพราะ Customer Journey ของลูกค้า เริ่มจาก การรับรู้ (Awareness) นำไปสู่การพิจารณา (Consideration) ถึงจะนำไปสู่การซื้อสินค้าหรือบริการ (Decision) หลังจากได้ใช้งานสินค้าหรือบริการ (Usage & Service) จนประทับใจถึงจะกลับมาซื้อซ้ำ (Loyalty)

อย่างไรก็ตาม แบรนด์อาจไม่จำเป็นต้องผลิตคอนเทนต์จำนวนมหาศาลต่อเดือนเองทั้งหมด แต่สามารถเตรียมงบประมาณไว้สำหรับอาศัยพลังของครีเอเตอร์ช่วย หรือที่เรียกว่าการทำ Affliate Marketing ร่วมด้วย

ที่สำคัญ คือ หลังจากนี้อยากให้ทุกคนติดตามอีกหนึ่งเครื่องมือใหม่ที่ทรงพลังอย่าง Tiktok One ที่จะมาเสริมประสิทธิภาพของ GMV Max ช่วยผลักดันจำนวนคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสู่ตลาด

หรือถ้าใครรู้สึกว่าแค่โฟกัสการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีก็เป็นโจทย์ใหญ่ของแบรนด์ อาจจะมองหาเอเจนซีที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องการวางกลยุทธ์การตลาด มาเป็น “ทางลัด” ที่ช่วยแบรนด์ปลดล็อกโลกการตลาดที่ไม่เคยรู้ ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดจากแพลตฟอร์มได้อย่างทันใจ

เอาเป็นว่า ใครที่มองว่า นี่คือโลกของการตลาดยุคใหม่ ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และไม่อยากเสียเวลาลองผิดลองถูกเอง Common Ground คืออีกหนึ่งผู้ช่วยที่พร้อมพาทุกคนปลดล็อกและลุยไปด้วยกัน โดยอาศัยประสบการณ์การทำการตลาดบน TikTok มามากกว่า 4 ปี และเป็น Official TikTok Partner ที่ได้รับรางวัล TikTok Agency Rising Star 2023 และ Top Growth Growth Agency Q1 2025 ซึ่งคัดเลือกจากเอเจนซีทั่วประเทศ

ทั้งหมดนี้ จึงทำให้ Common Ground พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์กับนักการตลาดและเจ้าของแบรนด์ที่อยากผลักดันยอดขาย ปูทางให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ ในทุกช่องทาง ด้วยสโลแกนที่ว่า “เราเครียดแทนคุณ เหมือนยอดขายเป็นของเรา”

สามาถปรึกษาด้านการตลาด หรือ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://bit.ly/4kv8vzG 
Facebook : https://bit.ly/4kw0udZ 
IG : https://bit.ly/43Ff50S 
TikTok : https://bit.ly/4jfGcUX 
Email : enjoy@iamcommonground.com 
Tel : 081-4266695