สรุปอินไซต์จาก Meta บอก AI แนะนำคอนเทนต์ ทำให้คนใช้ Facebook นานขึ้น 7%

สรุปอินไซต์จาก Meta บอก AI แนะนำคอนเทนต์ ทำให้คนใช้ Facebook นานขึ้น 7%

27 มิ.ย. 2025
วันนี้ Meta เพิ่งจัดงาน AI for Business ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับการเปิดเผยอินไซต์ และฟีเชอร์สำคัญที่ช่วยทำให้ธุรกิจเติบโตจาก Meta
โดยในปีนี้ Meta ได้เน้นไปที่การใช้งาน AI ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งเครื่องมือ AI จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้ในทุกอุตสาหกรรม
แล้วภายในงาน AI for Business มีอินไซต์อะไรน่าสนใจ และสามารถนำมาต่อยอดทางธุรกิจได้อีกบ้าง ? MarketThink สรุปมาให้เป็นข้อ ๆ
1.อินไซต์การใช้งานเครื่องมือ Meta AI ที่น่าสนใจ
- ปัจจุบัน Meta ได้ลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และการวิจัยด้าน AI ไปแล้วกว่า 100,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.3 ล้านล้านบาท โดยเน้นในด้านการพัฒนาโมเดล AI แบบ Open-Source หรือก็คือ Llama
ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยสามารถดู, ปรับแต่ง หรือใช้งานโมเดลเหล่านี้ได้
- ตอนนี้มี Meta มีผู้ใช้งานทุกแพลตฟอร์มรวมกัน เฉลี่ย 3,430 ล้านคนต่อวัน
โดยเฉพาะ Reels เป็นฟีเชอร์มาแรง ที่มีการแชร์ซ้ำเฉลี่ย 4,500 ล้านครั้งต่อวัน
และในแต่ละวัน จะมีบทสนทนาทางธุรกิจ เกิดขึ้นกว่า 600 ล้านรายการ
- ปัจจุบัน มีผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Meta AI โดยเฉลี่ย 1,000 ล้านบัญชีต่อเดือน
และการเปิดตัว Meta AI ยังช่วยให้ผู้คนใช้เวลากับแอปพลิเคชันในเครือ Meta มากขึ้น
โดยพบว่า ผู้ใช้งานใช้เวลากับ Facebook เพิ่มขึ้น 7%, ใช้เวลากับ Instagram เพิ่มขึ้น 6% และ Threads เพิ่มขึ้น 35% ในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา

- Meta เปิดเผยว่า ฟีเชอร์ AI ที่อยู่ในชุดเครื่องมือ Meta Advantage+ ยังช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการใช้จ่ายโฆษณาเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับแคมเปญทั่วไป
นอกจากนี้ Meta มองว่าทั้งหมดนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุค AI Transformation
โดยคาดว่าภายในปึนี้ธุรกิจกว่า 90% ทั่วโลก จะมีพึ่งพาเครื่องมือ Generative AI และในอนาคต Agentic AI จะเข้าไปอยู่ในการทำงานของภาคธุรกิจมากขึ้น
2. ฟีเชอร์ AI จาก Meta ที่เข้ามาช่วยผลักดันให้กับภาคธุรกิจ
- ปัจจุบัน Meta มีฟีเชอร์ Advantage+ ที่เข้ามาช่วยในภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ด้านแคมเปญ เช่น แคมเปญการขาย และแคมเปญแอปพลิเคชัน ด้านการวัดผลยอดเข้าชม, ด้านการจัดวางตัวโพสต์, ด้านการจัดสรรงบประมาณแคมเปญ, ด้านการสร้างสรรค์แคมเปญด้วย Gen AI และการประเมินผลลัพธ์
ที่น่าสนใจคือ เครื่องมือ Advantage+ ช่วยให้
- CPA (Cost Per Acquisition หรือต้นทุนต่อการได้ลูกค้าใหม่) ลดลง 9%
- ต้นทุนต่อคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ลดลง 10%
- ต้นทุนต่อการเปลี่ยนเป็นลูกค้าลดลง 9%
พูดง่าย ๆ ก็คือ ฟีเชอร์ Advantage+ ช่วยให้ธุรกิจสามารถหาลูกค้าได้เพิ่มขึ้น ด้วยต้นทุนที่ลดลง
- ฟีเชอร์ Generative AI ที่ทาง Meta ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถโปรโมตสินค้า หรืองานโฆษณาได้ง่ายขึ้น เพียงแค่มีรูปภาพสินค้า ก็สามารถนำมาเปลี่ยนเป็นงานโฆษณาคุณภาพสูงได้
- ฟีเชอร์ Opportunity Score เครื่องมือที่จะช่วยให้คำแนะนำในการปรับปรุงโพสต์แบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับแคมเปญ
- ฟีเชอร์ Value Optimization ช่วยในการจัดลำดับความสำคัญของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสเป็นลูกค้ามากที่สุด ซึ่งช่วยให้ธุรกิจได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
ที่น่าสนใจคือปัจจุบัน Meta ได้ใช้โมเดล AI ด้วยกัน 2 โมเดล เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถยิงโฆษณาได้ถูกกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ได้แก่
Meta GEM โมเดลที่ช่วยปรับโฆษณาให้เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละคน
Meta Andromeda ที่สามารถระบุประเภท และคอนเทนต์ของโฆษณา ที่มีแนวโน้มจะให้ผลลัพธ์ดีที่สุดต่อภาคธุรกิจ
Tag:Meta
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.