
วิเคราะห์การตลาด OATSIDE แบรนด์นมโอ๊ต ลดราคา 50% ถาวร ตีตลาด Mass
3 ส.ค. 2025
ล่าสุด ในวงการกาแฟและมัทฉะกำลังมีประเด็นที่น่าสนใจคือ นมโอ๊ตจากแบรนด์ OATSIDE นมทางเลือกขวัญใจคนที่แพ้นมวัว ได้มีการปรับราคาลง 50% จนหลาย ๆ คนแห่ไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อตุน
โดยขนาด 200 มิลลิลิตร ราคาเดิมอยู่ที่ 25 บาท ลดเหลือ 12 บาท
และขนาด 1 ลิตร ราคาเดิมอยู่ที่ 112 บาท ลดเหลือ 56 บาท
และขนาด 1 ลิตร ราคาเดิมอยู่ที่ 112 บาท ลดเหลือ 56 บาท
- หลังจากที่หลาย ๆ คนไปแห่ตุน ทางแบรนด์ก็ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่า “จะมีการปรับราคานม OATSIDE ลง ทุก Platform ภายในเดือนสิงหาคม”
ส่วนสาเหตุที่ปรับลดราคาลง เนื่องจากตอนนี้แบรนด์ได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลก ทำให้มีต้นทุนลดลง จึงลดราคาลง เพื่อให้ OATSIDE เข้าถึงลูกค้าวงกว้างได้มากขึ้นนั่นเอง
- จากเคสนี้ ถ้าลองวิเคราะห์ในมุมการตลาด
ตอนแรก OATSIDE วางตำแหน่งทางการตลาด (Brand Positioning) เป็นแบรนด์นมทางเลือกที่มีความพรีเมียม และตั้งราคาสูงกว่านมวัว แต่เมื่อเวลาผ่านไป แบรนด์ได้มีการปรับลดราคาลงมา
ในทางการตลาด การตั้งราคาแบบนี้ก็คล้ายกับทฤษฎีที่ชื่อว่า “Price Skimming”
- Price Skimming คือ การตั้งราคาสินค้าหรือบริการ ให้สูงก่อนในตอนเริ่มต้นธุรกิจหรือเริ่มตีตลาด เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ยอมจ่ายแพงเพื่อได้ของใหม่ก่อนใคร หรือกลุ่ม Early Adopters ซึ่งมักมีความภักดีต่อแบรนด์ หรือมีความต้องการสูง
เมื่อเวลาผ่านไป แบรนด์เริ่มมีลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ มีคนรู้จักและนิยมมากขึ้น
ประกอบกับมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง หรือมีการผลิตจำนวนมาก จนเกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
จุดนี้เองที่แบรนด์จะสามารถค่อย ๆ ลดราคาลงมา เพื่อตีตลาดแมส หรือเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไวต่อราคาสินค้ามากขึ้น
- ตัวอย่างของแบรนด์ที่ตั้งราคาแบบ Price Skimming นอกเหนือจาก OATSIDE แล้ว
เคสที่เราเห็นกันบ่อย ๆ เช่น สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของ Apple ที่มักจะเปิดตัวด้วยราคาสูงก่อน แล้วค่อยลดราคาลงเมื่อมีรุ่นใหม่กว่าออกมาแทนนั่นเอง