
OpenAI เปิดตัว โมเดล AI ใหม่ “gpt-oss” โหลดมาใช้บนคอม-แล็ปท็อปส่วนตัว ไม่ต้องมีอินเทอร์เน็ต ก็ใช้งานได้
6 ส.ค. 2025
ล่าสุด OpenAI เปิดตัวโมเดล AI ใหม่ เป็นแบบ Open-Weight ที่เปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปดาวน์โหลด และนำไปใช้งานบนอุปกรณ์ของตัวเองได้ โดยไม่ต้องเรียกใช้งานผ่านระบบของเจ้าของโมเดล
ซึ่งข้อดีของ AI ที่เราดาวน์โหลดมาใช้บนอุปกรณ์ของเราแบบนี้ ก็คือ เราจะสามารถใช้งานได้ แม้ว่าเราจะออฟไลน์ หรือไม่มีอินเทอร์เน็ตก็ตาม
โดยโมเดลใหม่ที่ OpenAI เพิ่งเปิดตัว มีด้วยกัน 2 โมเดล ได้แก่
- gpt-oss-120b เป็นโมเดลขนาดใหญ่ สำหรับใช้งานระดับองค์กร
- gpt-oss-20b เป็นโมเดลขนาดเล็ก สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ที่ใช้ได้บนคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป
- gpt-oss-20b เป็นโมเดลขนาดเล็ก สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ที่ใช้ได้บนคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป
แล้ว 2 โมเดล gpt-oss ใหม่ เก่งด้านไหน ? MarketThink สรุปมาให้แบบเข้าใจง่าย ๆ
1. Open-Weight คืออะไร ?
Open-Weight คือ โมเดลที่เปิดให้เราสามารถเข้าไปดาวน์โหลด AI มาใช้งานได้ แต่ไม่มีการเปิดโคดให้แก้ไข หรือเปิดสถาปัตยกรรมการฝึกทั้งหมด
2. ดีเทลของ 2 โมเดล gpt-oss ใหม่
- gpt-oss-120b
คือ โมเดลขนาดใหญ่สำหรับใช้งานระดับองค์กร ซึ่งมีค่าพารามิเตอร์มากถึง 120 ล้าน เพราะฉะนั้นอุปกรณ์จำเป็นต้องมี Ram บนการ์ดจออย่างน้อย 80GB
คือ โมเดลขนาดใหญ่สำหรับใช้งานระดับองค์กร ซึ่งมีค่าพารามิเตอร์มากถึง 120 ล้าน เพราะฉะนั้นอุปกรณ์จำเป็นต้องมี Ram บนการ์ดจออย่างน้อย 80GB
- gpt-oss-20b
คือ โมเดลขนาดเล็ก มีค่าพารามิเตอร์ 20 ล้าน เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มี Ram ประมาณ 16GB ขึ้นไป
คือ โมเดลขนาดเล็ก มีค่าพารามิเตอร์ 20 ล้าน เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มี Ram ประมาณ 16GB ขึ้นไป
พูดง่าย ๆ ก็คือ ในกรณีที่เราเป็นผู้ใช้งานทั่วไป ที่มีคอมพิวเตอร์ หรือแล็ปท็อป ที่มี Ram ตั้งแต่ 16GB ขึ้นไป ก็สามารถดาวน์โหลดตัว gpt-oss-20b มาใช้งานได้นั่นเอง
3. ความสามารถของ 2 โมเดล gpt-oss ใหม่
ทั้ง 2 โมเดลนี้ OpenAI ระบุว่าเป็น “Reasoning Model” หรือโมเดล AI ที่เก่งด้านการให้เหตุผล
- ความสามารถในการเขียนโคด จากโปรแกรมทดสอบ Codeforces
gpt-oss-120b ได้คะแนนอยู่ที่ 2,463 คะแนน
gpt-oss-20b ได้คะแนนอยู่ที่ 2,230 คะแนน
o3-mini ได้คะแนนอยู่ที่ 2,073 คะแนน
gpt-oss-20b ได้คะแนนอยู่ที่ 2,230 คะแนน
o3-mini ได้คะแนนอยู่ที่ 2,073 คะแนน
- ความสามารถในการทดสอบด้วย “Humanity’s Last Exam”
หรือก็คือการวัดความสามารถของโมเดล ด้วยชุดคำถามที่ยากที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยคิดค้นขึ้นมาในแบบทดสอบมาตรฐาน เพื่อดูว่า AI เก่ง และคิดได้เท่าหรือเกินกว่ามนุษย์หรือยัง
gpt-oss-120b ได้คะแนนอยู่ที่ 14.9 คะแนน
gpt-oss-20b ได้คะแนนอยู่ที่ 10.9 คะแนน
o3-mini ได้คะแนนอยู่ที่ 13.4 คะแนน
gpt-oss-20b ได้คะแนนอยู่ที่ 10.9 คะแนน
o3-mini ได้คะแนนอยู่ที่ 13.4 คะแนน
จะเห็นได้ว่า ความสามารถของทั้ง 2 โมเดลไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เนื่องจากมีตัวแปรอย่าง การฝึกด้วยชุดข้อมูลประเภทต่าง ๆ และเทคนิคการฝึกของผู้ใช้งานด้วย
เพราะฉะนั้นแม้ว่าจะเป็นโมเดลเล็ก แต่ถ้าถูกฝึกด้วยข้อมูลที่มีคุณภาพสูง และผ่านการคัดกรอง จะเข้าใจภาษาได้ดีแม้มีพารามิเตอร์น้อย
4. gpt-oss เหมาะกับการใช้งานประเภทไหน ?
งานที่เหมาะสมกับการใช้งาน ก็คืองานที่ไม่สามารถให้ข้อมูลหลุดออกไปนอกองค์กรได้ และไม่จำเป็นต้องมีอินเทอร์เน็ต ก็ใช้งานได้
ยกตัวอย่างเช่น
- องค์กรที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง อย่าง สถาบันการเงิน, ธนาคาร, โรงพยาบาล
- งานที่ต้องการความเฉพาะทาง ต้องฝึกโมเดลให้ตอบในภาษาเฉพาะ อย่าง งานกฎหมาย
- งานที่ใช้งาน AI บ่อย จนไม่สามารถ Run ผ่าน API
- งานที่ต้องการความเฉพาะทาง ต้องฝึกโมเดลให้ตอบในภาษาเฉพาะ อย่าง งานกฎหมาย
- งานที่ใช้งาน AI บ่อย จนไม่สามารถ Run ผ่าน API