สรุปโมเดล AI ใหม่ “GPT-5” ของ ChatGPT เก่งระดับปริญญาเอก ใช้งานฟรี ทำอะไรบ้าง ? แบบเข้าใจง่าย ๆ

สรุปโมเดล AI ใหม่ “GPT-5” ของ ChatGPT เก่งระดับปริญญาเอก ใช้งานฟรี ทำอะไรบ้าง ? แบบเข้าใจง่าย ๆ

8 ส.ค. 2025
ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา OpenAI เพิ่งเปิดตัว “GPT-5” โมเดลเรือธงใหม่ ฉลาดที่สุด เร็วที่สุด และมีความสามารถมากที่สุด
โดยโมเดลนี้ OpenAI ได้บอกว่า เป็นก้าวสำคัญของ AI เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นความล้ำสมัยในด้านการเขียนโคด, คณิตศาสตร์, การเขียน, การรับรู้ภาพ และอื่น ๆ
และที่สำคัญคือ GPT-5 ได้ปรับปรุงเรื่อง “การตอบให้เน้นความจริง มากกว่าตอบให้ถูกใจผู้ใช้งาน”
แล้ว GPT-5 น่าสนใจอย่างไร ? เก่งกว่า GPT-4o มากแค่ไหน ?
MarketThink สรุปมาให้เป็นข้อ ๆ
1. ความสามารถของ ChatGPT
- เก่งเรื่องการเขียนโคด และการสร้างแอปพลิเคชัน
แม้ว่าเราจะเขียนโคดไม่เป็น แต่เพียงแค่รู้วิธีการนำไปใช้งาน ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และเกมได้แล้ว
เพียงแค่พิมพ์คำสั่งให้ ChatGPT สร้างไฟล์ประเภท HTML และพิมพ์คำสั่งที่ต้องการต่อเลยว่า ต้องการให้ ChatGPT ทำอะไร ?
ยกตัวอย่างเช่น สร้างแอปพลิเคชันวาดรูปในรูปแบบ HTML ประกอบไปด้วยจานสี, ปากการูปแบบต่าง ๆ และสามารถปรับขนาดหัวได้, มีปุ่มแก้ไข ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มบันทึก และส่งออกรูปภาพเป็น PNG
เพียงเท่านี้ ก็จะได้ไฟล์ HTML เพื่อนำไปเปิดใช้งานเป็นแอปพลิเคชันต่อได้ทันที
พูดง่าย ๆ ได้ว่า GPT-5 ช่วยเปลี่ยนไอเดียให้สามารถจับต้องได้ขึ้นไปอีกขั้น
- เก่งเรื่องการตอบเชิงสร้างสรรค์ และการเขียน
GPT-5 สามารถเขียนกลอน หรือเชื่อมโยงคำได้ดีกว่า GPT-4o และอย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือ จะตอบโดยไม่มีความเอนเอียงเพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกสบายใจ แต่จะอิงโดยใช้ข้อมูลจริง ๆ เป็นหลัก
หมายความว่า GPT-5 จะสามารถให้คำแนะนำด้านการแพทย์ได้ดีขึ้น
โดยสามารถจัดระเบียบ และอธิบายข้อมูลอย่างชัดเจนสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่มีความรู้พื้นฐาน พร้อมชี้ให้เห็นปัจจัยสำคัญ ๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นเป็นลำดับ
2. ความสามารถของ GPT-5 เมื่อเทียบกับโมเดลอื่น ๆ
- ความสามารถในด้านคณิตศาสตร์ จากแบบทดสอบ AIME 2025
GPT-5 ได้คะแนนอยู่ที่ 99.6%
o3 ได้คะแนนอยู่ที่ 98.4%
GPT-4o ได้คะแนนอยู่ที่ 42.1%
- ความสามารถในการทดสอบด้วย “Humanity’s Last Exam”
หรือก็คือการวัดความสามารถของโมเดล ด้วยชุดคำถามที่ยากที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยคิดค้นขึ้นมาในแบบทดสอบมาตรฐาน เพื่อดูว่า AI เก่ง และคิดได้เท่าหรือเกินกว่ามนุษย์หรือยัง
GPT-5 ได้คะแนนอยู่ที่ 24.8%
o3 ได้คะแนนอยู่ที่ 14.7%
GPT-4o ได้คะแนนอยู่ที่ 5.3%
- ความสามารถในการทดสอบด้านการเขียนโคด
GPT-5 ได้คะแนนอยู่ที่ 74.9%
o3 ได้คะแนนอยู่ที่ 69.1%
GPT-4o ได้คะแนนอยู่ที่ 30.8%
โดยรวมจะเห็นได้ว่า GPT-5 มีความสามารถเก่งกว่า GPT-4o เป็นเท่าตัว จากผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า
GPT-5 คือความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ของการใช้งาน AI ในชีวิตประจำวัน
3. ใครใช้งาน GPT-5 ได้บ้าง ?
สำหรับใครที่เปิดใช้งาน ChatGPT แล้วไม่เจอโมเดล GPT-5 ไม่ต้องแปลกใจไป
เพราะตอนนี้ GPT-5 กำลังทยอยเปิดตัวให้กับผู้ใช้งานทุกคน ทั้งใช้งานฟรี และสมัครสมาชิกรายเดือน ทั้งบนเว็บไซต์ และสมาร์ตโฟน
แต่สำหรับผู้ใช้งานที่สมัครสมาชิกรายเดือน จะมีสิทธิพิเศษมากกว่า คือ สามารถเลือกโมเดล GPT-5 ได้มากขึ้น
โดยผู้ใช้บริการแพ็กเกจ Plus จะสามารถเลือก GPT-5 หรือ GPT-5 Thinking ได้
ส่วนผู้ใช้บริการแพ็กเกจ Pro และ Team จะสามารถเลือก GPT-5, GPT-5 Thinking, GPT-5 Pro ซึ่งใช้เวลาในการคิดนานกว่าเล็กน้อย แต่ให้คำตอบที่ความแม่นยำกว่า ซึ่งเหมาะกับงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
4. ฟีเชอร์ใหม่ ๆ ของ ChatGPT
นอกจากอัปเดต GPT-5 ซึ่งเป็นโมเดลใหม่แล้ว ChatGPT ยังมีการอัปเดตฟีเชอร์ใหม่ ๆ ให้มีลูกเล่นมากขึ้น ได้แก่
- ฟีเชอร์ Personalities ที่เราสามารถเลือกบุคลิกของแช็ตบอตได้
ซึ่งบุคลิกที่มีให้เลือก ได้แก่
Cynic (ประชดประชัน) จุดเด่นคือ สามารถช่วยเหลืออย่างตรงไปตรงมา และให้คำตอบที่ตรงประเด็น แต่จะเยาะเย้ยผู้ใช้งานในบางครั้ง
Robot (หุ่นยนต์) จุดเด่นคือ ให้คำตอบที่แม่นยำ มีประสิทธิภาพ แต่ไร้ความรู้สึก มักใช้สำหรับการถามเพื่อหาคำตอบโดยตรง
Listener (ผู้ฟังที่ดี) จุดเด่นคือ ให้คำตอบที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการถามคำถามที่ต้องการคำตอบที่เอนเอียงไปทางผู้ใช้งาน
Nerd จุดเด่นคือ สามารถอธิบายแนวคิดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน
แต่ต้องบอกว่าการตั้งค่าบุคลิกของ ChatGPT จะสามารถใช้งานได้แค่การพิมพ์ถาม-ตอบเท่านั้น ไม่ส่งผลกับฟีเชอร์ Voice Mode
- ฟีเชอร์ Accent Colors หรือตั้งค่าสีใน ChatGPT
ตอนนี้ ChatGPT สามารถเปลี่ยนสี ช่องสนทนา, ปุ่มเสียง และข้อความได้แล้ว
สำหรับการใช้งานบนเว็บไซต์ ให้คลิกไอคอนโปรไฟล์ เลือกการตั้งค่าทั่วไป และเลือกสีเน้น
สำหรับบนสมาร์ตโฟน แตะไอคอนโปรไฟล์ ไปที่การปรับแต่ง และเลือกสีเน้น
- ฟีเชอร์ Voice Mode รุ่นล่าสุด ผู้ใช้งานทุกประเภทจะสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
ล่าสุด OpenAI ประกาศว่า เตรียมยกเลิก Voice Mode รูปแบบมาตรฐาน และเปลี่ยนเป็นตัวเวอร์ชันล่าสุดเพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถเข้าถึงประสิทธิภาพสูงสุดของ Voice Mode
สำหรับผู้ใช้งานประเภท Plus สามารถใช้งานได้เกือบไม่จำกัด
สำหรับผู้ใช้งานฟรี สามารถใช้งานได้ 1 ชั่วโมงต่อวัน
และสำหรับผู้ใช้แบบจ่ายค่าบริการ ตอนนี้ Voice จะปรับวิธีการพูดตามคำแนะนำของผู้ใช้งาน โดยปรับรูปแบบการพูด ทั้งความยาว ความเร็ว น้ำเสียง และอื่น ๆ ให้เหมาะกับรูปแบบการสนทนามากขึ้น
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.