วิเคราะห์ การตลาดใส่ใจ (Caring Marketing) เบื้องหลังแคมเปญ ใส่ใจทั่วไทย ของกรุงเทพประกันชีวิต

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนน่าจะได้เห็นแคมเปญ “ใส่ใจทั่วไทย แจกจุใจ 74 รางวัล” ของกรุงเทพประกันชีวิต ทั้งจากสื่อออนไลน์ และออฟไลน์

โดยเฉพาะป้ายบิลบอร์ดใหญ่ ๆ กลางกรุงเทพฯ ที่กลายเป็นที่พูดถึง จากโฆษณา “อยากมีเจ้าของ อยากโดนจับจอง ตามหาเจ้าของให้น้อง EV กับกรุงเทพประกันชีวิต”

ซึ่งถ้ามองแบบผิวเผิน และไม่ได้ติดตามต่อ หลายคนคงอาจเข้าใจว่าแคมเปญ “ใส่ใจทั่วไทย แจกจุใจ 74 รางวัล” เป็นเพียงแคมเปญแจกของรางวัล เพื่อฉลองครบรอบ 74 ปี ของกรุงเทพประกันชีวิต 

แต่หากมองให้ลึก และวิเคราะห์กันแบบจริงจัง จะพบว่าแคมเปญนี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ การคิดอย่างละเอียดอ่อน และมองอย่างรอบด้าน ในทุกขั้นตอนของการคิดแคมเปญ จนอาจเรียกได้ว่ากรุงเทพประกันชีวิต ทำการตลาดแบบใส่ใจ (Caring Marketing) รูปแบบหนึ่งก็ว่าได้

แล้วแคมเปญ “ใส่ใจทั่วไทย แจกจุใจ 74 รางวัล” ของกรุงเทพประกันชีวิต มีความน่าสนใจอย่างไร
MarketThink จะพาไปวิเคราะห์แบบเจาะลึกกันในโพสต์นี้

ก่อนอื่น ต้องขอรีแคปกันสั้น ๆ ก่อนว่า แคมเปญ “ใส่ใจทั่วไทย แจกจุใจ 74 รางวัล” ของกรุงเทพประกันชีวิต มีรายละเอียดอย่างไร

แคมเปญ “ใส่ใจทั่วไทย แจกจุใจ 74 รางวัล” เป็นแคมเปญฉลองครบรอบ 74 ปี ของกรุงเทพประกันชีวิต โดยมีการแจกของรางวัลแบบจุใจกว่า 74 รางวัล รวมมูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท ลูกค้าสามารถรับสิทธิ์สูงสุดได้ 2 สิทธิ์ เพียงซื้อประกันกับกรุงเทพประกันชีวิต ตามเงื่อนไขที่กำหนดและสมัครรับ e-Policy หรือผูกบัญชีรับผลประโยชน์ผ่านบัญชีธนาคาร

ส่วนของรางวัล ก็มีมากถึง 74 รางวัล รวมมูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท ตัวอย่างเช่น

- รถยนต์ไฟฟ้า Volvo EX30 Ultra Twin Motor Performance
- iPhone 16 Plus
- ทองแผ่น 2 สลึง น้ำหนัก 7.62 กรัม จาก Aurora
- นาฬิกาสมาร์ตวอตช์ Garmin รุ่น Forerunner 265 Music
- เครื่องตรวจพรสวรรค์ Geneus DNA รุ่น Premium Service
- เครื่องพ่นไอน้ำกระจายกลิ่น DONNA CHANG รุ่น PHALAEN Ultrasonic Aromatherapy
- ปืนนวดกล้ามเนื้อ Breo Massagun รุ่น S1 Pocket Mini Massage Gun

ซึ่งหากเราลองสวมหมวกเป็นนักการตลาดแล้วลองวิเคราะห์ดู จะพบว่าแคมเปญ “ใส่ใจทั่วไทย แจกจุใจ 74 รางวัล” ของกรุงเทพประกันชีวิต มีวิธีคิดที่น่าสนใจซ่อนอยู่เบื้องหลัง

เพราะแคมเปญนี้ ใช้หลักการของการตลาดแบบใส่ใจ (Caring Marketing) เป็นหลักคิดพื้นฐานในการออกแบบแคมเปญ

ซึ่งการตลาดแบบใส่ใจ (Caring Marketing) คือกลยุทธ์การตลาดรูปแบบหนึ่ง ที่เน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าในระยะยาว ผ่านความใส่ใจ ห่วงใย และเข้าใจความต้องการของลูกค้า

ด้วยการนำอินไซต์ทางด้านพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้า มาใช้ในการออกแบบแคมเปญตั้งแต่แรก

เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกของรางวัล ที่โดยปกติแล้วเรามักเห็นการเลือกของรางวัลที่มีจำนวนมาก และเน้นมูลค่าสูงไว้ก่อน เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับแคมเปญ

แต่แคมเปญนี้ เน้นคัดเลือกของรางวัลที่แสดงออกถึงความใส่ใจ ผ่านการคิดมาอย่างละเอียด และรอบด้าน เพื่อให้ได้ของรางวัลที่เหมาะสมกับพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

โดยอินไซต์ทางด้านพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้า ที่กรุงเทพประกันชีวิตพบ ก็คือลูกค้าในยุคนี้ใส่ใจกับเรื่องสิ่งแวดล้อม (Planet), สุขภาพ (Health), ความมั่งคั่ง (Wealth) และความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) 

ซึ่งกรุงเทพประกันชีวิต ได้คัดเลือกของรางวัล ที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้าในยุคนี้ ตัวอย่างเช่น

- ความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม (Planet)

เป็นที่มาของการเลือก รถยนต์ไฟฟ้า Volvo EX30 Ultra Twin Motor Performance มาเป็นของรางวัล จากความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการลดการใช้น้ำมัน และการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม

และสำหรับการสมัครรับ e-Policy หรือการผูกบัญชีรับผลประโยชน์ผ่านบัญชีธนาคาร สามารถช่วยลดการปล่อย Carbon Footprint ได้

- ความใส่ใจด้านสุขภาพ (Health)

เป็นที่มาของการเลือก นาฬิกาสมาร์ตวอตช์ Garmin รุ่น Forerunner 265 Music และ ปืนนวดกล้ามเนื้อ Breo Massagun รุ่น S1 Pocket Mini Massage Gun มาเป็นของรางวัล สำหรับลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของตัวเอง

- ความใส่ใจด้านความมั่งคั่ง (Wealth)

เป็นที่มาของการเลือก ทองแผ่น 2 สลึง น้ำหนัก 7.62 กรัม จาก Aurora มาเป็นของรางวัล สำหรับลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางการเงิน การออม และการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ

- ความใส่ใจด้านความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being)

เป็นที่มาของการเลือก เครื่องตรวจพรสวรรค์ Geneus DNA รุ่น Premium Service สำหรับคุณพ่อคุณแม่ ที่ต้องการค้นหาพรสวรรค์ของลูก ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เพื่อดูแลลูกอย่างมีคุณภาพในระยะยาว

จะเห็นได้ว่า ของรางวัลที่กรุงเทพประกันชีวิตเลือกมา ผ่านการคิดมาด้วยความละเอียด และรอบด้าน แสดงถึงความใส่ใจในทุกมิติของแคมเปญ

ทำให้แคมเปญนี้ รางวัลจึงทำหน้าที่เป็น Mechanic สำคัญ ที่ช่วยให้กรุงเทพประกันชีวิตได้ “ตอกย้ำ” ภาพลักษณ์ความใส่ใจ จากวิสัยทัศน์ใหม่ของกรุงเทพประกันชีวิต ที่มุ่งมั่นจะเป็น The Most Caring Life Insurance Company

และยังได้ “ตอบแทน” ลูกค้า ผ่านของรางวัลที่แสดงออกถึงความใส่ใจ คิดมาแล้วอย่างละเอียด และรอบด้าน ว่าเหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่มจริง ๆ

รวมถึงยังได้ “ต่อยอด” เข้าถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยของรางวัลที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต และเทรนด์ของคนกลุ่มนี้

ซึ่งทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า แคมเปญ “ใส่ใจทั่วไทย แจกจุใจ 74 รางวัล” ของกรุงเทพประกันชีวิต ได้คิดขึ้นตามหลักของ การตลาดแบบใส่ใจ (Caring Marketing) ที่ไม่ใช่แค่การสื่อสารเพื่อขายของ แต่เป็นการดูแล และใส่ใจลูกค้า

นอกจากนี้ กลยุทธ์การสื่อสารของแคมเปญนี้ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน

เพราะแคมเปญนี้เลือกใช้การสื่อสารแบบ 360 องศา เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น สื่อออฟไลน์ และสื่อออนไลน์ ได้แก่

- สื่อ Out of Home Media 

เช่น ป้ายบิลบอร์ด หน้าจอ LED สื่อโฆษณาในลิฟต์ในอาคารสำนักงาน และรถไฟฟ้า

- สื่อออนไลน์ 

ทั้งสื่อบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และการเลือกใช้ Influencer ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของกรุงเทพประกันชีวิต

- สื่อที่จุดขายของกรุงเทพประกันชีวิต

เช่น สำนักงานตัวแทนประกันชีวิต ที่ทำหน้าที่ Human Contact กับลูกค้าได้โดยตรง 

รวมถึงอีกหนึ่งเครื่องมือพิเศษ ที่เกิดจากการรวมพลังของ พนักงาน และตัวแทนประกันชีวิต ที่ร่วมกัน Create Content “ร่วมตามหาเจ้าของให้น้อง EV” 

ทำให้เกิดการสื่อสารไปยังลูกค้าในวงกว้าง จนเกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก (Word of Mouth Marketing) 

ซึ่งกลยุทธ์การสื่อสารแบบ 360 องศานี้ จะทำไม่ได้เลย หากกรุงเทพประกันชีวิต ไม่รู้จัก หรือไม่เข้าใจกลุ่มลูกค้าของตัวเองอย่างลึกซึ้ง 

นอกจากนี้ กรุงเทพประกันชีวิต ยังมีการใช้ Creative Idea ที่น่าสนใจ ในการออกแบบกลยุทธ์การสื่อสารในแคมเปญนี้ โดยใช้การกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น และรู้สึกอยากติดตามต่อ

โดยเริ่มตั้งแต่ การทำโฆษณา Teaser โปรโมตในช่วงก่อนเปิดตัวแคมเปญ โดยชวนให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความต้องการด้านคุณภาพชีวิต พร้อมปิดท้ายด้วยคำใบ้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้ อยากติดตามต่อ

แล้วค่อยเฉลยด้วยโฆษณาอีกตัวหนึ่ง ที่ใช้คำโฆษณาว่า “อยากมีเจ้าของ อยากโดนจับจอง ตามหาเจ้าของให้น้อง EV กับกรุงเทพประกันชีวิต” บนป้ายบิลบอร์ดและป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ กลางกรุงเทพฯ

ตามหลักของการสื่อสารในแต่ละช่วงของ Customer Journey ที่ต้องสื่อสารกับลูกค้าในแต่ละช่วงด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงการสื่อสารของกรุงเทพประกันชีวิตมากที่สุด

แล้วทีนี้ หากเรามองในมุมของการสร้างแบรนด์ (Branding) ถามว่ากรุงเทพประกันชีวิต ได้อะไรจากการทำแคมเปญนี้

หากวิเคราะห์แบบง่าย ๆ เลย Mechanic ที่อยู่เบื้องหลังแคมเปญนี้ ช่วยสร้างความแตกต่าง ให้กับกรุงเทพประกันชีวิต ในฐานะแบรนด์ที่มีความใส่ใจ แม้แต่กับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหมาะกับแบรนด์ธุรกิจประกันชีวิตที่ต้องทำหน้าที่ดูแลผู้อื่น 

นอกจากนี้ ในมุมมองของลูกค้า กรุงเทพประกันชีวิต ยังเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงได้ง่าย และใกล้ชิดลูกค้ามากยิ่งขึ้น เหมือนกับการเป็น Challenging Brand ในกลุ่มธุรกิจประกันชีวิต ด้วยการใช้กลยุทธ์การตลาด และการสื่อสารที่แปลกใหม่ จนกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้า

ทั้งหมดนี้ ก็คือความน่าสนใจที่อยู่เบื้องหลังแคมเปญ “ใส่ใจทั่วไทย แจกจุใจ 74 รางวัล” ของกรุงเทพประกันชีวิต ที่ใช้ความใส่ใจในทุกรายละเอียด อยู่เบื้องหลังของแคมเปญ

#กรุงเทพประกันชีวิต