สรุปความสามารถ “Whisk” ของ Google AI ตัวโหด ที่นักการตลาด ใช้ทำรูป-วิดีโอ โฆษณาสินค้าได้ง่าย ๆ

สรุปความสามารถ “Whisk” ของ Google AI ตัวโหด ที่นักการตลาด ใช้ทำรูป-วิดีโอ โฆษณาสินค้าได้ง่าย ๆ

13 ก.ย. 2025
“Whisk” หนึ่งในเครื่องมือ AI ตัวโหดของ Google ใช้สร้างรูปภาพและวิดีโอได้ง่าย ๆ ซึ่งถึงแม้จะเปิดตัวมาสักพักแล้ว แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเหมือนกับเครื่องมืออื่น ๆ
ความน่าสนใจของ Whisk คือ สามารถสร้างรูปภาพและวิดีโอออกมาได้อย่างสมจริง โดยที่ไม่ค่อยบิดเบือนองค์ประกอบของภาพที่ป้อนเข้าไปเป็นต้นแบบ
ดังนั้นแล้ว Whisk จึงเรียกว่าเป็นเครื่องมือที่น่าสนใจมาก ๆ ที่นักการตลาดจะเอาไปปรับใช้ในการทำรูปภาพหรือวิดีโอ เพื่อใช้ในการโฆษณาสินค้าได้
แล้ว Whisk ใช้ทำอะไรได้บ้าง ? เข้าใช้งานอย่างไร ? MarketThink สรุปมาให้ในโพสต์นี้
1. วิธีเข้าใช้งาน Whisk
วิธีใช้งานเครื่องมือนี้ง่าย ๆ เพียงแค่พิมพ์คำว่า “Whisk” ใน Google แล้วเลือกไปที่ labs . google หรือสามารถเข้าไปใช้งานได้ที่ลิงก์ใต้คอมเมนต์ได้เลย
2. ความสามารถของ Whisk
เมื่อเข้าไปที่หน้าแรกของ Whisk
ที่ด้านซ้ายมือ เราจะเห็นเมนูสำคัญ ๆ ในการสร้างรูปภาพอยู่ 3 แถบ ได้แก่ Subject, Scene และ Style
- Subject คือ วัตถุที่เราต้องการให้เป็นจุดเด่นของรูป
- Scene คือ ฉากที่ต้องการให้ออกมาเป็นพื้นหลัง
- Style คือ สไตล์ของรูปที่ต้องการ เช่น แนวแอนิเมชัน แนวสมจริง ภาพการ์ตูน
ซึ่งทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ เราสามารถป้อนข้อมูลได้ทั้ง
- พิมพ์ชุดคำสั่ง (Prompt) ให้ AI สร้างสิ่งที่เราต้องการขึ้นมาใหม่
- ใส่รูปภาพที่เรามีอยู่ ที่ต้องการปรับแต่ง เช่น รูปภาพสินค้า
- ในกรณีที่เราไม่มีรูปภาพ และไม่มีไอเดีย ก็จะมีปุ่มหน้าตาเหมือนลูกเต๋า ให้เรา Random ภาพที่ต้องการนำมาใช้ได้ด้วย
3. วิธีตั้งค่า Whisk
หลังจากที่เราป้อนคำสั่งหรือรูปภาพที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ที่ด้านล่างของเครื่องมือ จะมีกล่องข้อความให้เรา Prompt หรือป้อนชุดคำสั่งเกี่ยวกับดีเทลของรูปภาพที่เราต้องการ
นอกจากนี้ ด้านข้างของกล่องข้อความ ยังมีเมนู “Aspect Ratio” อยู่ตรงไอคอนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ทำให้เราสามารถกำหนดอัตราส่วนของรูปภาพได้ว่าต้องการแบบไหน
โดยจะมีให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่
- 1:1 ภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัส เหมาะกับโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook
- 9:16 ภาพแนวตั้ง เหมาะกับวิดีโอแนวตั้ง เช่น Reels และ TikTok
- 16:9 ภาพแนวนอน เหมาะกับวิดีโอแนวนอน เช่น YouTube
นอกจากนี้ ยังมีฟีเชอร์ “Seed” ให้ผู้ใช้งานได้ลองใส่ตัวเลขต่าง ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาครีเอทิฟมากขึ้นด้วย
เมื่อเราป้อนข้อมูล และตั้งค่าทั้งหมดแล้ว เมื่อกดปุ่ม Enter ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะปรากฏออกมาตรงกลางจอ หากเราไม่ชอบก็สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูล และกดสั่งให้สร้างรูปภาพใหม่ได้
ทีนี้ ถ้าถามว่าแล้วจะทำอย่างไรให้ภาพกลายเป็นวิดีโอ ?
วิธีการก็ง่าย ๆ หากเราได้ภาพที่ต้องการแล้ว ที่ด้านบนของรูปภาพนั้น ๆ จะมีเมนู “Animate” ให้เราป้อนคำสั่งว่าต้องการให้ภาพเคลื่อนไหวอย่างไร
เพียงเท่านี้ เราก็จะได้วิดีโอ ความยาว 7 วินาที ที่สร้างด้วยเครื่องมือ AI ตัวโหดด้านวิดีโอ อย่าง “Google Veo 3”
ทั้งหมดนี้คือ ความสามารถของ Whisk เครื่องมือ AI ตัวโหดของ Google ที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก
ซึ่งจากการทดลองใช้งานพบว่า Whisk เข้าใจบริบทความเป็นจริงได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็น แสงและเงา, การขยับทางกายภาพ, การเคลื่อนไหวของสิ่งแวดล้อม
พูดง่าย ๆ ก็คือ สามารถทำงานได้เกือบสมบูรณ์
แต่อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง เช่น เกิดข้อผิดพลาดในการสร้างวิดีโอ และการใส่เสียงประกอบ ที่ยังไม่สมบูรณ์ อย่างเสียงการเดิน และเสียงขยับวัตถุ
อย่างไรก็ตาม Whisk ก็ถือเป็นเครื่องมือ AI ที่นักการตลาดสามารถใช้สร้างรูปภาพและวิดีโอ เพื่อประกอบโฆษณาได้ง่าย ๆ
ที่สำคัญคือ สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ฟรี ส่วนวิดีโอสามารถสร้างได้สูงสุด 5 ครั้งต่อเดือน
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.