ทำไมนวัตกรรมสีเขียวจากซีพี แอ็กซ์ตร้า ถึง (เปลี่ยน) ขยะเป็นศูนย์ (แต่) สร้างประโยชน์เป็นแสน

ทำไมนวัตกรรมสีเขียวจากซีพี แอ็กซ์ตร้า ถึง (เปลี่ยน) ขยะเป็นศูนย์ (แต่) สร้างประโยชน์เป็นแสน

18 ก.ย. 2025
เปิดฉากเป็นที่เรียบร้อยสำหรับงาน CP Innovation Exposition & Symposium 2025 มหกรรมด้านนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเครือเจริญโภคภัณฑ์
ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 กันยายน 2568 ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ภายใต้แนวคิด “Innovate the Future For a Better Tomorrow”
งานนี้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ในฐานะผู้นำค้าส่งค้าปลีก แม็คโคร-โลตัส ยังคงเดินหน้าตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน ด้วยการโชว์โซลูชันจัดการอาหารส่วนเกิน (Food Waste) ที่ไม่เพียงสร้างคุณค่าใหม่จากสิ่งเหลือใช้ แต่ยังพร้อมต่อยอดสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเป็นรูปธรรม
แล้วนวัตกรรมสีเขียวของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า น่าสนใจอย่างไร ?
ที่สำคัญจะตอบโจทย์โลกยุคใหม่ ที่ถนนทุกสายมุ่งสู่ความยั่งยืนอย่างไร ?
MarketThink ชวนไปหาคำตอบพร้อมกัน
รู้หรือไม่ว่าปัญหาขยะอาหาร เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของโลก สร้างมูลค่าความสูญเสียสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
จากรายงาน Food Waste Index 2024 ของ UNEP ชี้ว่า ขยะอาหารมีส่วนทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็น 8-10% ของการปล่อยก๊าซทั้งหมดในโลก
ยิ่งเมื่อโฟกัสมาที่ประเทศไทย จากรายงาน Food Waste Index 2024 มีการคาดการณ์ว่า ค่าเฉลี่ยขยะอาหารของโลกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 79 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
ขณะที่ประเทศไทยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 86 กิโลกรัมต่อคนต่อปี หรือพูดง่าย ๆ ว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก
ดังนั้นการที่ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งค้าปลีก “แม็คโคร-โลตัส” หันมาจริงจังเรื่องของการจัดการกับอาหารส่วนเกิน ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ที่จะเอาจริงเรื่องนี้ อย่างเป็นรูปธรรม แต่ยังเป็นก้าวสำคัญ ที่จะช่วยสร้างผลกระทบในวงกว้าง
เพราะนวัตกรรมที่ ซีพี แอ็กซ์ตร้า นำมาโชว์ในครั้งนี้ เป็นโซลูชันจัดการอาหารส่วนเกิน ที่กำลังพิสูจน์ว่า ขยะอาหาร ไม่ใช่ภาระ แต่คือ “โอกาสใหม่” ในการต่อยอดไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นจริง
แน่นอนว่า เบื้องหลังความสำเร็จนี้ต้องเกิดจากการร่วมมือของทุกฝ่าย โดย ซีพี แอ็กซ์ตร้า จะเป็นต้นทางในการส่งต่ออาหารส่วนเกินให้เกษตรกร นำไปใช้เลี้ยงแมลงโปรตีน BSF หรือ Black Soldier Fly ซึ่งสามารถนำไปเป็นแหล่งโปรตีนให้กับการเลี้ยงสัตว์ เช่น เลี้ยงจิ้งหรีด ช่วยลดต้นทุนอาหารสัตว์และสร้างรายได้เสริมแก่เกษตรกร
เพราะจิ้งหรีดสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย เช่น จิ้งหรีดกระป๋อง, โปรตีนจิ้งหรีด สำหรับอาหารเสริม และจิ้งหรีดแช่แข็ง ส่งต่อสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน มูลจากแมลงโปรตีน BSF ยังถูกนำไปใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง สำหรับการปลูกผัก อาทิ ผักเคล ซึ่งสามารถนำไปพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง ผักเคลอบ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อีก
จะเห็นว่า นวัตกรรมสีเขียวของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ที่ถูกคิดมาอย่างดี ประหนึ่งกำลังสร้างห่วงโซ่อาหารใหม่ นอกจากจะทำให้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ ตั้งแต่ผู้บริโภค เกษตรกร ชุมชน และสังคม สะท้อนความตั้งใจของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ในการขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม
“เรามุ่งมั่นที่จะไม่ให้สิ่งใดสูญเปล่า ทุกกระบวนการสามารถกลับมาเป็นคุณค่าใหม่ได้ นี่คือการแสดงให้เห็นว่า นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม สามารถเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นประโยชน์ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs ข้อที่ 12 และการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศไทย” คุณศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร กล่าว
อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมสีเขียวที่ ซีพี แอ็กซ์ตร้า นำมาเป็นโชว์เคสในงานนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหมุดหมายด้านความยั่งยืนของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ที่มุ่งมั่นเดินหน้าโครงการ “ลดทิ้ง สร้างค่า AXTRA Zero Waste”
แต่อย่างน้อย การโชว์ศักยภาพของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ในการพัฒนานวัตกรรมสีเขียวในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นและความพร้อมของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ในการร่วมมือกับพันธมิตร ทุกภาคส่วนในการสร้างอนาคตที่ดีกว่า ด้วยการเปลี่ยน “ขยะเป็นศูนย์ ประโยชน์เป็นแสน” หรือ “From Waste to Wealth”
ซึ่งทั้งหมดจะต่อยอดไปสู่การบรรลุเป้าหมายในระยะยาวอย่างยั่งยืน นั่นคือลดขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์ (Zero Food Waste to Landfill) ภายในปี 2573 นั่นเอง
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.