Brother เดินหน้าสร้างอิมแพค 17 ปี ปลูกโกงกางกว่า 11,000 ต้น ลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์มาแล้วกว่า 3 ตัน ตอกย้ำพันธกิจ At your side เติบโตยั่งยืนเคียงข้างสังคมและสิ่งแวดล้อม 

Brother เดินหน้าสร้างอิมแพค 17 ปี ปลูกโกงกางกว่า 11,000 ต้น ลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์มาแล้วกว่า 3 ตัน ตอกย้ำพันธกิจ At your side เติบโตยั่งยืนเคียงข้างสังคมและสิ่งแวดล้อม 

22 ก.ย. 2025
Brother ผู้นำโซลูชันการพิมพ์จากประเทศญี่ปุ่น เดินหน้าสานต่อภารกิจด้านความยั่งยืน จัดกิจกรรม “บราเดอร์ อาสาอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติป่าชายเลน ครั้งที่ 17” ณ ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 97 คน ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจ และสื่อมวลชน ร่วมแรงกันปลูกต้นโกงกาง ฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งทะเล และสร้างสมดุลทางธรรมชาติ พร้อมสืบสานความรู้และภูมิปัญญาชุมชนด้านสมุนไพรพื้นบ้านและวิถีแพทย์แผนไทย ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งภายใต้ Brother Group Environmental Vision 2050 ที่มุ่งสร้างชุมชนและระบบนิเวศที่ยั่งยืนระยะยาวในระดับโลก ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนองค์กรอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “Brother ยึดมั่นในปรัชญา At Your Side ที่พร้อมเคียงข้างสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด และเชื่อมั่นว่าการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต้องควบคู่ไปกับการรับผิดชอบต่อโลกที่เราอาศัยอยู่ ซึ่งกิจกรรมปลูกและฟื้นฟูป่าชายเลน ยังเชื่อมโยงเข้ากับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs ที่กำหนดโดยสหประชาชาติ (UN) ทั้งในด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (SDG ข้อที่ 13) การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล (SDG ข้อที่ 14) และการปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน (SDG ข้อที่ 15) ซึ่งทั้งหมดคือกลไกสำคัญที่ทำให้องค์กรเติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่กับการสร้างคุณค่าแก่สังคมและสิ่งแวดล้อม”
นายพรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและการบริหาร บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ป่าชายเลนคือระบบนิเวศที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทย ทั้งการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน และเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตหลายพันชนิด แต่ปัจจุบันป่าชายเลนกำลังเผชิญวิกฤตหนัก จากข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุว่า พื้นที่ป่าชายเลนของไทยลดลงจาก 2.29 ล้านไร่ในปี 2504 เหลือเพียง 1.73 ล้านไร่ในปี 2565 หรือหายไปกว่า 5 แสนไร่ ขณะที่ Global Mangrove Alliance ชี้ว่า 67% ของป่าชายเลนทั่วโลกถูกทำลายหรือเสื่อมโทรม และยังหายไปปีละ 1% ซึ่งเร็วกว่าการสูญเสียป่าทั่วโลกถึง 3–5 เท่า ดังนั้น Brother  จึงเลือกการอนุรักษ์ป่าชายเลนเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลัก เพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมของแบรนด์ โดยได้ดำเนินโครงการนี้อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2552  จนถึงปี 2567 สามารถปลูกต้นโกงกางใหม่ได้มากถึง 11,000 ต้น ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 3 ตัน ซึ่งไม่เพียงช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ เสริมความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม”
สำหรับกิจกรรม “บราเดอร์ อาสาอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติป่าชายเลน ครั้งที่ 17” ตั้งเป้าหมายการช่วยปลูกต้นโกงกางใหม่กว่า 500 ต้น พร้อมตั้งเป้าหมายระยะยาวในการปลูกโกงกางใหม่ให้ได้ถึง 14,000 ต้นภายในปี 2030 เพื่อช่วยดูดซับและลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ถึง 0.48 ตันต่อปี ซึ่งจะรวมเป็นปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้จากโครงการของเราทั้งหมดมากถึง 5.51 ตัน รวมถึงสร้างสมดุลให้ระบบนิเวศและคุณภาพชีวิตของชุมชนชายฝั่ง
สะท้อนภาพ Brother ในฐานะผู้นำโซลูชันการพิมพ์ที่เติบโตเคียงข้างสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
นอกจากกิจกรรมการปลูกต้นโกงกางเพื่ออนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลนแล้ว Brother ยังมุ่งเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมเชิงลึกกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ทั้งพนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจ และสื่อมวลชน ที่ Brother เชื่อว่าการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนต้องอาศัยการลงมือร่วมกันอย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีการทำกิจกรรมร่วมกับชุมชนคลองโคน เพื่อสืบสานองค์ความรู้และภูมิปัญญาด้านสมุนไพรพื้นบ้านและวิถีแพทย์แผนไทย ซึ่งไม่เพียงช่วยเสริมสร้างสุขภาวะของคนในชุมชนให้แข็งแรงขึ้น แต่ยังสอดคล้องกับ SDG ข้อที่ 3 การสร้างหลักประกันสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัยอีกด้วย” นายพรภัค กล่าว 
ด้าน คุณปภัสร์พงษ์ รัตนพงศ์ธระ ตัวแทนชุมชน / ผู้ดูแลศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน กล่าวถึงความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมหลังจาก ที่ Brother เข้ามาพัฒนาฟื้นฟูป่าชายเลนอย่างต่อเนื่องว่า กิจกรรมของ Brother
ช่วยฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งส่งผลดีต่อชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การสร้างพื้นที่เรียนรู้และทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อเข้าใจระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติ การเพิ่มความตระหนักและความร่วมมือระหว่างคนในชุมชนกับหน่วยงานท้องถิ่น ตลอดจนช่วยลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.